สื่อสหรัฐฯชี้เด็กต่างชาติสมัครเรียนในสหรัฐฯ ลดลง 18% ในปี 2020
นิวยอร์ก, 22 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันเสาร์ (20 มี.ค.) หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลของสหรัฐฯ รายงานว่าการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเข้าเมืองจากรัฐบาลชุดก่อน ส่งผลให้นักเรียนนักศึกษาต่างชาติลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ ลดลงในปี 2020
ตัวเลขล่าสุดจากโครงการนักเรียนและผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน (SEVP) ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบวีซ่านักเรียนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ชี้ว่าจำนวนนักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่ถือวีซ่าเอฟ-1 (F-1) หรือเอ็ม-1 (M-1) ลดลงร้อยละ 18 ในปี 2020 เหลืออยู่ที่ 1.25 ล้านคน
หนังสือพิมพ์ฯ รายงานว่าบันทึกการยื่นขอวีซ่าสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ลงทะเบียนใหม่ลดลงร้อยละ 72 โดยวีซ่านักเรียนนักศึกษาเอฟ-1 ลดลงมากกว่าร้อยละ 90 ในเดือนสิงหาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปีการศึกษาใหม่เริ่มต้นขึ้น
อนึ่ง วีซ่าเอฟ-1 เป็นวีซ่าที่ออกให้นักเรียนนักศึกษาที่ลงเรียนด้านวิชาการแบบเต็มเวลา ขณะวีซ่าเอ็ม-1 จะครอบคลุมนักเรียนนักศึกษาที่ลงเรียนหลักสูตรอาชีวศึกษาหรือหลักสูตรอื่นๆ ที่ไม่ใช่ด้านวิชาการ
"สถานกงสุลสหรัฐฯ ทั่วโลกได้ระงับการดำเนินงานวีซ่าเกือบทั้งหมดในฤดูใบไม้ผลิปีก่อน หมายความว่านักเรียนนักศึกษาที่ต้องการเดินทางมาศึกษาต่อในสหรัฐฯ จะไม่สามารถกำหนดเวลาสัมภาษณ์แบบต่อหน้าเพื่อออกวีซ่าได้" รายงานเผย "ชุดคำสั่งช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาขัดขวางนักเรียนนักศึกษาต่างชาติหน้าใหม่ รวมถึงนักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่เรียนออนไลน์ทั้งหมด เดินทางเข้าสหรัฐฯ"
ตัวเลขดังกล่าวจากสำนักงานฯ ครอบคลุมนักเรียนระดับชั้นอนุบาลถึงเกรด 12 ผู้ที่ต้องการศึกษาด้านวิชาการในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย และผู้ที่ศึกษาในหลักสูตรอาชีวศึกษา โดยการลดลงของนักเรียนนักศึกษากระจายไปทั่วทุกระดับการศึกษาและจากทุกภูมิภาคของโลก
สำนักงานฯ ระบุว่ายังไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ในปีหน้าจะดีขึ้นมากน้อยเพียงใด เนื่องจากสถานกงสุลและสถานทูตหลายแห่งยังคงปิดทำการ หรือดำเนินการออกวีซ่าในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น โดยเมื่อนับถึงวันที่ 1 มี.ค. สถานทำการทางกงสุล 43 แห่งจาก 233 แห่ง ได้กลับมาดำเนินการอย่างสมบูรณ์แล้ว