WPHส่งซิกครึ่งปีหลังโต รุกฐานฮอสพิเทลต่อยอด

ทันหุ้น - WPH รับอานิสงส์ภาครัฐนำร่องเปิดประเทศดีเดย์ 1 พฤศจิกายน 2564 ต่อยอดรายได้ พร้อมเล็งเปิด "Hospitel" เพิ่มอีก 200 เตียง หลังยอดโควิดภาคใต้พุ่ง ผู้บริหาร "เชน เหล่าสุนทร" ส่งซิกครึ่งหลังปี 2564 ฟอร์มดี ยอดผู้ใช้บริการพุ่ง
นายเชน เหล่าสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH เปิดเผยว่า จากประเด็นที่ทางภาครัฐมีแนวทางในการเปิดประเทศ โดยได้มีการปรับลดวันกักตัวสำหรับผู้ที่มีการฉีดวัคซีนครบ 2เข็มในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย จากเดิม 14 วัน ให้เหลือเพียง 7 วัน และเตริยมเปิด 10จังหวัดนำร่อง ซึ่งเป็นเมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ (ทั้งจังหวัด) ฯลฯ และจะเริ่มตั้งแต่ 1พฤศจิกายน 2564 นั้นบริษัทมองว่าเป็นผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจมีการโรงพยาบาลอยู่ในจังหวัดกระบี่ (ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องในการเปิดประเทศครั้งนี้) และยังมีโรงพยาบาลในส่วนของจังหวัดตรัง จะช่วยสนับสนุนให้ยอดผู้เข้ามาใช้บริการรักษาและรายรับของธุรกิจขยายตัวมากขึ้น
ปัจจุบันบริษัทมีโรงพยาบาลในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำนวน 120 เตียง, โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง อีกราว 80 เตียง และปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากคนไทยเกือบ 100% ซึ่งหลังจากนี้ทาง WPH ยังมีแนวทางขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้น
"รายได้ของ WPH มาจากผู้ใช้บริการในส่วนของคนไทย 100% ซึ่งการนำร่องเปิดประเทศครั้งนี้จะทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเพิ่มเติม และเป็นโอกาสช่วยเพิ่มรายได้ของธุรกิจอีกทางหนึ่งด้วย"
รุกฮอสพิเทล
อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลาย แต่ในแง่พื้นที่ในส่วนของภาคใต้นั้นอัตราการระบาดยังขยับเพิ่มขึ้น ทำให้ทาง WPH มีแนวทางร่วมมือกับโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงสำหรับจัดตั้งฮอสพิเทล (Hospitel) เพิ่มเติมอีก 2 แห่ง คิดเป็นจำนวน 200 เตียง รองรับความต้องการรักษาในส่วนดังกล่าวที่ขยายตัวค่อนข้างมาก จากช่วงที่ผ่านมาทางบริษัทได้มีการจัดตั้งฮอสพิเทลไปแล้ว จำนวน 5 แห่ง คิดเป็นราว 800 เตียง คาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ทาง WPH อยู่ระหว่างการลงทุนโครงการพัฒนาโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ สมุย เป็นขนาดไม่เกิน 54 เตียง ซึ่งมีมูลค่าลงทุนราว 550 ล้านบาท คาดน่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการได้ไม่เกินต้นปี 2566 และถือเป็นการขยายฐานการบริการให้กับอีกทางหนึ่งในอนาคต
ส่วนโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ เฟสที่ 1 ที่เปิดให้บริการช่วงปี 2562 ที่ผ่านมานั้นถือว่าได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี และมีทิศทางผู้เข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลข้างต้นขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากนี้คงจะมีการเร่งขยายฐานผู้ใช้บริการให้มากขึ้น และคาดตัวเลขงบการเงินในโรงพยาบาลดังกล่าวสามารถกลับมาถึงจุดคุ้มทุนได้ในปี 2566
ครี่งหลังแจ่ม
นายเชน กล่าวว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2564 คาดน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก 2564 ที่มีรายได้ประมาณ 334 ล้านบาท เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาล (ไฮซีซัน) ของอุตสาหกรรม มีผู้เข้ามารับบริการรักษาเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับยังมีรายได้จากการให้บริการรักษาพยาบาลในส่วนของโควิด 19 เข้าเพิ่มเติม ปัจจัยดังกล่าวสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจขยายตัว
อย่างไรก็ดี ในปี 2564 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 15% จากปีก่อนที่ราว 710 ล้านบาท เพราะแนวโน้มผู้เข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลต่างๆ ของธุรกิจปรับตัวดีขึ้น หลังช่วงที่ผ่านธุรกิจมีการขยายฐานผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ