การจับภาพจากวิดีโอแบบช็อตต่อช็อตนั้นเป็นเรื่องที่เสียเวลาเป็นอย่างมาก เพราะต้องกด Pause ในจุดที่ต้องการ กด Printscreen เพื่อจับภาพ และวางไว้บนหน้าจอโปรแกรมอื่นเพื่อ Save เก็บไว้เป็นไฟล์ภาพ ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ภาพทุกช็อตตามต้องการ ผู้เขียนเคยผ่านจุดนี้มาแล้ว กว่าจะครบต้องใช้เวลานานพอสมควรเลยทีเดียว หลังจากครั้งนั้น ผู้เขียนก็พยายามหาวิธีอื่นที่ง่ายกว่านี้ ในที่สุดก็เจอเทคนิคจับภาพจากวิดีโอแบบช็อตต่อช็อต โดยไม่ต้องกด Pause เพื่อจับภาพจากวิดีโอทีละช็อตอีกต่อไปวันนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เขียนจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ที่ต้องการภาพต่อเนื่องจากวิดีโอผ่านบทความนี้ค่ะ โดยผู้เขียนได้ดาวน์โหลดวิดีโอความยาว 58 วินาทีจากเว็บไซต์ Pixabay มาเป็นตัวอย่างในการทดลองแต่ละวิธีให้เพื่อน ๆ ได้เห็นความแตกต่าง เป็นภาพดอกแดฟโฟดิลที่ค่อย ๆ บานอย่างช้า ๆ 1. ใช้ฟังก์ชันจากโปรแกรมเล่นวิดีโอโปรแกรมเล่นวิดีโอบางโปรแกรมมีฟังก์ชันการจับภาพอยู่แล้ว เช่น VLC, GomPlayer และสามารถบันทึกภาพที่จัดเก็บลงโฟลเดอร์ที่โปรแกรมสร้างให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งในคอมพิวเตอร์ของผู้เขียนมีโปรแกรม VLC จึงขอยกตัวอย่างจากโปรแกรมดังกล่าว เมื่อเปิดโปรแกรม VLC ขึ้นมาแล้ว ผู้เขียนจะเปิดวิดีโอตัวอย่างขึ้นมาตามภาพประกอบ ให้คลิกเล่นวิดีโอก่อน จากนั้นเลือกเมนู วีดิทัศน์ คำนี้หมายถึงวิดีโอค่ะ จากนั้นให้เลือก จับภาพ เมื่อคลิกไปแล้ว จะปรากฏ Directory Path ของโฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์ภาพจากการจับภาพหน้าจอค่ะ ผู้เขียนพยายามบันทึกภาพในขณะที่มีข้อความดังกล่าวขึ้นแล้วแต่ไม่สำเร็จ ได้มาเฉพาะการแสดงภาพที่บันทึกได้ขึ้นมาตรงมุมซ้ายบนค่ะ ภาพเหล่านี้จะถูกบันทึกลงในโฟลเดอร์นั้นอัตโนมัติผู้เขียนเลือกเมนูจับภาพในจุดที่ต้องการไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงเวลาสิ้นสุดของวิดีโอนี้ค่ะ จากนั้นจึงลองไปเปิดโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ภาพเหล่านี้ โดยอ้างอิงจาก Directory Path ที่เห็นในตอนแรก ในส่วนนี้ไม่ได้ตั้งค่าไว้ว่าจะให้ไปบันทึกที่ไหน โปรแกรมจะบันทึกไว้ให้ใน Picture ค่ะ แต่ผู้เขียนจัดการย้ายมาไว้ที่ Download และดึงมาเก็บในโฟลเดอร์ย่อยอีกที และนี่คือภาพที่ได้จากการใช้เมนูจับภาพหน้าจอในโปรแกรม VLC ค่ะ ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่ายังไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไรนัก เนื่องจากต้องคลิกเลือกเมนูจับภาพทุกครั้ง หากต้องการภาพเคลื่อนไหวแบบถี่ ๆ ทุกช็อตจะไม่สามารถจับภาพทัน เพราะต้องเผื่อเวลาในการคลิกเมนูเล็กน้อย และไม่มีตัวเลือกจำนวนภาพที่บันทึกจากวิดีโอ หรือความถี่ในการจับภาพว่าต้องการภาพในทุกกี่วินาที ถ้ามีในส่วนนี้จะได้ไม่ต้องคลิกจับภาพเอง แต่โดยรวมแล้ว ผู้เขียนว่าดีกว่าการกด Printscreen แบบเดิมเยอะเลย อย่างน้อยก็ไม่ต้องมากด Save ทีละภาพค่ะ2. ใช้เครื่องมือจับภาพจากวิดีโอแบบออนไลน์การใช้เครื่องมือจับภาพจากวิดีโอแบบออนไลน์เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการติดตั้งโปรแกรมให้ยุ่งยาก หรือมีวิดีโอที่ต้องการอยู่ในเว็บไซต์ สำหรับตัวอย่างเครื่องมือแบบออนไลน์นี้ ขอยกตัวอย่างการทำงานจากเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า ezgif.com ค่ะ ซึ่งมีฟังก์ชันหนึ่งที่ตรงกับความต้องการพอดี คือ สามารถจับภาพเคลื่อนไหวในวิดีโอออกมาเป็นไฟล์ภาพ JPG ได้ สามารถอัปโหลดไฟล์วิดีโอ หรือคัดลอก URL ที่มีวิดีโอนั้นได้ค่ะ ในที่นี้เลือกอัปโหลดไฟล์ตัวอย่างของผู้เขียนค่ะ จากนั้นกด Upload Videoเมื่ออัปโหลดวิดีโอสำเร็จ จะแสดงตัวอย่างวิดีโอนั้นขึ้นมา พร้อมกับเครื่องมือในการจัดการวิดีโอ เช่น การตัดเฉพาะส่วนที่ต้องการ การหมุนไปในทิศทางต่าง เราสามารถกำหนดจำนวนของภาพที่บันทึกจากวิดีโอได้ โดยการกำหนดที่การตั้งค่าบริเวณด้านล่างวิดีโอ สามารถเลือกช่วงเวลาเริ่มต้น (Start Time) จนถึงสิ้นสุด (End Time) การเล่นวิดีโอตามต้องการ เพื่อกำหนดขอบเขตความยาวของการบันทึกภาพจากวิดีโอเบื้องต้นส่วนสำคัญที่ต้องกำหนดคือ Frame Rate (FPS) ซึ่ง FPS หมายถึง Frame per second ค่ะ เป็นการกำหนดว่า ต้องการจับภาพนิ่งออกมากี่เฟรมต่อ ความยาว 1 วินาที โดยมีตัวเลือกที่ค่อนข้างตายตัวคือ 10 (Max 20 seconds) 20 (Max 10 seconds) และ 30 (Max 5 seconds) สังเกตว่า ยิ่งต้องการภาพนิ่งในจำนวนมากขึ้น ขอบเขตความยาวของวิดีโอที่สามารถจับภาพได้จะลดลง ทำให้ผู้เขียนต้องกำหนดช่วงเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของวิดีโอใหม่ ให้อยู่ในช่วงเวลา 20 วินาที ซึ่งเป็นความยาวสูงสุดที่อยู่ในตัวเลือกที่กำหนดมาให้ เมื่อเลือก Frame Rate ได้แล้ว ให้กด Convert to JPG ค่ะ เมื่อเลื่อนลงมาพบว่ามีภาพนิ่งที่ได้จากการแปลงวิดีโอในช่วงความยาวที่กำหนด ด้านล่างสุดให้เลือกปุ่มสีแดง เพื่อบันทึกไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา จากนั้นเปิดดูโฟลเดอร์ที่เลือกบันทึกไว้ จะพบกับไฟล์ภาพนิ่งที่ได้มาจากเว็บไซต์นี้ค่ะสำหรับผู้เขียนคิดว่าการใช้เครื่องมือในเว็บไซต์เป็นวิธีที่สะดวก เพราะไม่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้ง สามารถอัปโหลดหรือคัดลอก URL เว็บไซต์ที่มีไฟล์วิดีโอนั้นมาได้เลย ในการตั้งค่าการบันทึกภาพยังไม่ค่อยโอเคเท่าไรนัก เพราะต้องกำหนดช่วงของวิดีโอให้ตรงกับตัวเลือก Frame Rate ที่มีอยู่ ในส่วนนี้ต้องมีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการตัดต่อวิดีโอสักเล็กน้อย จึงจะเข้าใจกับการกำหนด Frame Rate ให้เหมาะสมได้ แต่การกำหนดค่าดังกล่าวทำให้เราได้ภาพนิ่งทั้งหมดออกมาอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องจับทีละภาพด้วยตนเอง3. ใช้โปรแกรมแปลงวิดีโอเป็นภาพนิ่งนอกจากการใช้ฟังก์ชันที่อยู่ในโปรแกรม และการใช้เครื่องมือในเว็บไซต์แล้ว สามารถใช้โปรแกรมแปลงวิดีโอเป็นภาพนิ่งโดยตรงค่ะ เพราะโปรแกรมเหล่านี้พัฒนามาเพื่อจับภาพนิ่งจากวิดีโออยู่แล้ว จึงรับรองได้ว่ามีคุณสมบัติที่ช่วยให้เราจับภาพจากหน้าจอได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน ผู้เขียนขอยกตัวอย่างโปรแกรม Free Video to JPG Converter เป็นโปรแกรมประเภท Freeware สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่ต้องเสียเงินซื้อโปรแกรมแต่อย่างใด ผู้เขียนจึงทดลองดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ Thaiware.com ดูจากรีวิวและจำนวนดาวน์โหลดแล้ว คาดว่าเป็นโปรแกรมที่ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้งานจริงค่ะเมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว นี่คือหน้าตาของโปรแกรม Free Video to JPG Converter ค่ะ เมื่อต้องการจับภาพจากวิดีโอใด ๆ ให้เลือกที่ Add Files เพื่อเพิ่มวิดีโอที่ต้องการไว้ในโปรแกรมก่อน เราสามารถตั้งค่าการจับภาพจากวิดีโอได้ โดยตั้งค่าที่ Extract มี 4 ตัวเลือก คือ บันทึกภาพในทุก ๆ กี่เฟรม บันทึกภาพในทุก ๆ กี่วินาที บันทึกภาพตามจำนวนที่กำหนด และบันทึกภาพทุกเฟรม โปรแกรมนี้มีทางเลือกในการจับภาพหน้าจอที่หลากหลาย หากไม่ต้องการคำนวณมากสามารถเลือกตามตัวอย่างคือ บันทึกภาพตามจำนวนที่กำหนดตายตัว คือ 50 ภาพ โดยไม่สนใจความถี่ของเฟรมหรือช็อต จากนั้นกด Convert รอสักพักให้โปรแกรมทำการแปลงวิดีโอเป็นภาพนิ่งตามต้องการเมื่อโปรแกรมจับภาพจากวิดีโอเรียบร้อยแล้ว สามารถคลิกปุ่มจากโปรแกรมเพื่อเปิดโฟลเดอร์ที่มีภาพจากวิดีโออยู่ ซึ่งมีทั้งหมด 50 ภาพตามที่เลือกไว้สำหรับผู้เขียนชอบการกำหนดตัวเลือกการแปลงไฟล์วิดีโอเป็นภาพที่มีหลากหลาย เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่มีวัตถุประสงค์จับภาพจากวิดีโอโดยตรง จึงมีคุณสมบัติที่ดีกว่าโปรแกรมเล่นวิดีโอ หรือเครื่องมือจับภาพจากวิดีโอแบบออนไลน์ ซึ่งเน้นไปที่การใช้งานด้านอื่นมากกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานได้ง่าย ที่สำคัญเป็นโปรแกรมฟรีด้วยค่ะ ส่วนคุณสมบัติอื่น ๆ นั้นเหมือนกับวิธีอื่น ๆ ที่พูดไปข้างต้นค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเทคนิคการจับภาพจากวิดีโอแบบช็อตต่อช็อต แม้บางคุณสมบัติอาจไม่โอเคมากเท่าไรนัก แต่ทุกเทคนิคที่กล่าวมานี้ ผู้เขียนรับรองได้เลยว่าเร็วกว่าการกด PrintScreen วางและ Save ทีละภาพอย่างแน่นอน ลองเอาเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กับการจับภาพจากวิดีโอในครั้งต่อไปกันนะคะ ภาพประกอบที่ 1 บันทึกภาพหน้าจอจาก Pixabay ภาพประกอบที่ 2 / 3 บันทึกภาพหน้าจอจากโปรแกรม VLCภาพประกอบที่ 5 / 6 / 7 บันทึกภาพหน้าจอจากเว็บไซต์ ezgif.comภาพประกอบที่ 9 / 10 / 11 บันทึกภาพหน้าจอจากโปรแกรม Free Video to JPG ภาพปกและภาพประกอบที่ 4 / 8 / 12 บันทึกภาพหน้าจอจากโฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์ของผู้เขียน