ร้านทองโคราชซบเซา สวนกระแสทองแพงทะลุ 28,000 บาท คาดคนไม่มีทองขายแล้ว

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยตั้งแต่เช้าถึงช่วงบ่ายวันนี้ มีการปรับราคา 4 ครั้ง ทำให้ราคาขายทองรูปพรรณพุ่งถึงบาทละ 28,200 บาท และราคาทองคำแท่ง บาทละ 27,700 บาท ซึ่งถือว่าราคาสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 9 ปี ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่สำรวจร้านทองต่างๆ ในพื้นที่รอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือลานย่าโม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นย่านที่มีร้านทองมากกว่า 20 ร้าน ปรากฏว่า บรรยากาศภายในร้านทองต่างๆ เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อ หรือขายทองแต่อย่างใด มีเพียงพนักงานขายภายในร้านที่นั่งรอลูกค้าเข้ามาอุดหนุนเท่านั้น บางร้านถึงกับลดปริมาณการนำทองรูปพรรณมาโชว์หน้าร้าน เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา ทองคำขายไม่ค่อยออกมานานหลายเดือนแล้ว

นายชัยชนะ ประพฤทธิพงษ์ นายกสมาคมค้าทองคำนครราชสีมา เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทองคำราคาสูงขึ้นอย่างรุนแรงช่วงนี้ คาดว่าเกิดจาก 2 ปัจจัย คือ 1.เศรษฐกิจโลกถดถอย จากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนทั่วโลกแห่มาซื้อทองคำเก็บไว้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการถือหุ้นและเงินสด 2.ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเหลือ 31.65 บาทต่อ 1 เหรียญดอลล่าสหรัฐฯ ดังนั้นจึงทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงที่สุดในรอบ 9 ปี แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในส่วนของบรรยากาศซื้อ-ขาย ทองคำจากร้านทองต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา กลับซบเซาสวนกระแสกับราคาทองคำที่ขึ้นสูง และเป็นเช่นนี้มานานหลายเดือนแล้ว ร้านทองทุกร้านแทบจะไม่มีลูกค้าแวะเวียนมาเลยในแต่ละวัน คนที่จะนำทองมาขายนานๆ จะมีมาสักคน เพราะประชาชนส่วนใหญ่จะขายไปหมดแล้วตั้งแต่ราคาทองคำขึ้นบาทละ 22,000-23,000 บาท ส่วนคนซื้อแทบจะไม่มีเลยในแต่ละวัน เพราะเศรษฐกิจเช่นนี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่นำเงินมาซื้อทองคำเก็บไว้แน่นอน แต่จะนำเงินไปซื้อสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตก่อน ดังนั้นคนที่จะซื้อ-ขายได้ในช่วงนี้ ก็จะมีเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ๆ ที่จะไม่มาซื้อตามร้านขายทอง แต่จะไปซื้อผ่านโบร๊กเกอร์เท่านั้น และตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าซื้อทองไว้เพื่อเก็บกำไร เพราะไม่รู้ว่าราคาทองคำจะขึ้นต่ออีกหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ราคาทองคำก็ถือว่าขึ้นสูงมากแล้ว เขาจึงกลัวกันว่าจะมีการเทขายทุบราคาขึ้นมาก็ได้