SECURE มีโปรเจ็กต์ยักษ์ ลุยต้านอาชญากรรมดิจิทัล

SECURE ส่งสัญญาณธุรกิจติดเครื่องวิ่งต่อ คาดรายได้ทะลุเป้าเกินพันล้านบาท โชว์ฝีมือไตรมาส 2/2566 กำไรฟู 69.77% ด้านบิ๊กบอส  “นักรบ  เนียมนามธรรม” ชี้ดีมานด์ไอที-ระบซีเคียวริตี้ล้น ใส่เกียร์ลุยโปรเจ็กต์ใหญ่ เปิดศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมดิจิทัล ขยายฐานองค์กรใหญ่

นายนักรบ เนียมนามธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) หรือ SECURE เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2566 ถือว่าเป็นไปตามคาด โดยบริษัทสามารถทำรายได้ที่ 263.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.85 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน หรือคิดเป็นการเติบโต 25.69% ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 23.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.75 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน หรือคิดเป็นการเติบโต 69.77%

** ผลงานโตต่อ

ขณะที่ทิศทางธุรกิจช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทคาดจะเติบโตต่อเนื่องจากที่ผ่านมา เพราะมีงานในมือ หรือ Backlog เป็นจำนวนมาก และคาดจะเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ ทั้งนี้ปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 1 พันล้านบาท คาดจะทำได้เกินเป้า เพราะ 6 เดือนแรก 2566 บริษัทมีรายได้แล้ว 515.79 ล้านบาท

ขณะเดียวกันมองผลประกอบการปีนี้จะดีกว่าปีก่อน จากโปรเจ็กต์ใหม่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดจะสนับสนุน อัตรากำไร (มาร์จิ้น) ให้เติบโตเพิ่มขึ้น สำหรับความร่วมมือครั้งนี้จะมีการเปิดศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมดิจิทัล (Digital Crime Resistance Center) ขึ้นในประเทศไทย โดยมีทางบริษัททำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดของ Group-IB ที่รวมกันอยู่ภายใต้ชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ Unified Risk Platform 104 Group-IB ซึ่งเป็นระบบนิเวศของโซลูชันที่เข้าใจโปรไฟล์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ของแต่ละองค์กรและสามารถปรับแต่ง การป้องกันให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร ได้แบบเรียลไทม์ โดยผ่านการติดต่อกับผู้ใช้งานเพียงอินเทอร์เฟซรูปแบบเดียว (A Single Interface)

การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทขยายตลาดองค์กรขนาดใหญ่และขนาดกลาง เพื่อป้องกันและบริหารจัดการเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยทางออนไลน์ให้ดีขึ้น อีกทั้งคาดรายได้ในกลุ่มธุรกิจบริการจะเติบโตเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีรายได้เพียง 2-3% ให้เพิ่มเป็น 10% ภายใน 2 ปีนับจากนี้

** ดีมานด์ไอทีล้น

อีกทั้งหลายธุรกิจเดินหน้าทำ Digital Transformation ทำให้ดีมานด์การใช้เทคโนโลยีมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจคลาวด์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ล้วนต้องการระบบดิจิตอล และระบบซีเคียวริตี้ทั้งนั้น บริษัทจึงมั่นใจผลประกอบการปีนี้จะเติบโตได้ดีกว่าปีก่อน

“ผลงานไตรมาส 2/2566 ถือเป็นผลงานที่ดีและเป็นไปตามเป้าที่คาดเรา ส่วนการเติบโตต่อจากนี้เรามองว่ายังเติบโตไปได้ เพราะมี Backlog จำนวนมาก ที่รอรับรู้ ประกอบกับการเปลี่ยนผ่านของดิจิทัลทราส์ฟอร์เมชั่นมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ ซึ่งเราจะทำโปรเจ็กต์ร่วมกันจะช่วยหนุนมาร์จิ้น และผลงานโดยรวมทั้งปีให้เติบโตดีกว่าปีก่อน” นายนักรบ กล่าว

ทั้งนี้รายได้ของบริษัทมาจากระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย (Network  Security) เป็นหลัก โดย ณ ไตรมาส 2/2566 มีสัดส่วนประมาณ 83% และรองลงมาคือการรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ผู้ใช้งานโดยตรง (Endpoint Security) หรือมีสัดส่วนประมาณ 9.48% รายได้จากการบริหารจัดการประสิทธิภาพ (Network Performance & Monitoring) 1.55% และระบบหรือโปรแกรมอื่นๆ (Others) 5.52%