"ไฟไหม้ช่องนนทรี" มีผู้บาดเจ็บ-ติดค้าง หลายราย

ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ ย่านช่องนนทรี มีผู้บาดเจ็บหลายราย  

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 01.28 น. ที่ผ่านมา ร้อยตำรวจเอก ภัคธร หมวดเมือง รอง สว.สอบสวน สน.บางโพงพาง รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานผักและผลไม้ส่งออก ภายในซอย นนทรี ซอย 3 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยถนนจันทน์ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายใน  ซอย นนทรี ซอย 3 ถนน นนทรี แขวง ช่องนนทรี เขต ยานนาวา กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหาแต่ที่ตั้งของโรงงานดังกล่าวมีด้วยกัน 3 คูหา ซึ่งดัดแปลงเป็นโรงงานบันจุภัณฑ์ผักและผลไม้ส่งออก จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นที่ 2  แล้วลุกลามขึ้นสู่ชั้นที่ 3 อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นบริเวณจุดเกิดเหตุชั้นที่ 2 เป็นลักษณะห้องเก็บของมีลังโฟมอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งปรกติแล้วชั้นที่ 2 ของตัวอาคารดังกล่าวจะไม่มีผู้พักอาศัยอยู่จะอยู่กันที่ชั้นที่ 3 และ 4 ซึ่งดัดแปลงเป็นห้องพักพนักงานของโรงงานดังกล่าว แล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวพนักงานที่พักอาศัยอยู่จึงไม่สามารถวิ่งหนีลงมาได้จึงได้วิ่งขึ้นไปรอการช่วยเหลือตากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอยู่บนชั้นที่ 4 ของตัวอาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครจึงเร่งระดมฉีดน้ำระงับเหตุการณ์ดังกล่าว ใช้เวลาทั้งสิ้น 20 นาที จึงระงับเหตุการณ์เอาไว้ได้แล้วทำการช่วยเหลือคนงานที่ติดค้างอยู่ด้านบนอาคารลงมาสู่พื้นล่าง และจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีคนงานที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 14 ราย มีทั้งอาการบาดเจ็บจากการสำลักควัน และมีคนที่โดนไฟลวกบริเวณผิวหนัง อาสาสมัครจึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลเจริญกรุง และโรงพยาบาลมเหสักข์ ตามสิทธิ์การรักษาพยาบาลของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บของแต่ละบุคคล

จากการสอบถามจาก นาย ธีรพงษ์ สำเภาน้อย อายุ 23 ปี เป็นพนักงานโรงงานดังกล่าวบอกเล่าว่า  ตนเองนั่งเล่นอยู่บริเวณชั้นล่างแล้วมีเสียงตะโกนมาบอกว่าไฟไหม้ ตนก็ออกไปดูด้านนอกก็พบว่ามีไฟไหม้จริงบริเวณชั้นที่ 2 ตอนนั้นแสงเพลิงแรงมาก แล้วก็เห็นบางคนวิ่งฝ่ากองเพลิงลงมา คนอีกส่วนก็วิ่งขึ้นไปหลบด้านบนชั้นที่ 4 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดบ้อมอาคารดังกล่าวเอาไว้ก่อนและไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในอาคารดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ส่วนสาเหตุของเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุปได้ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป