หญิงป่วยมีไข้ ท้องเสีย เจ้าของหอเคาะเรียกไม่ตอบ เปิดดูช็อกพบเป็นศพนั่งขวางประตู

หญิงป่วยมีไข้ ท้องเสีย เจ้าของหอเคาะเรียกไม่ตอบ เปิดดูช็อกพบเป็นศพนั่งขวางประตู เผยไปรพ.ได้แต่ยาพารามากิน ด้านจนท.ส่งศพตรวจโควิดด่วน

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 6 ก.ย. 64 ร.ต.อ.สุวัฒน์ เสน่ห์หา สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งมีเหตุมีคนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ภายในห้องพัก อพาร์ตเมนต์ ซอยติวานนท์ 3 แยก 8 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์เวรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์ สูง 5 ชั้น ห้องเกิดเหตุเลขที่ 504 ชั้น 5 ด้านในศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิงนั่งคุดคู้ชันเข่าหลังพิงประตู ไม่สวมเสื้อผ้า ทราบชื่อ น.ส.วิไลพร อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันดันประตูเพื่อนำร่างออกมาชันสูตร เมื่อเปิดประตูห้องพบว่าภายในห้องพักเต็มไปด้วยกองถุงใส่ของ

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายพักอยู่เพียงคนเดียว เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 64 มีอาการป่วยไม่สบาย มีไข้ ท้องเสีย จึงเดินทางไปหาหมอที่รพ. เพื่อตรวจอาการไข้ แต่ไม่ได้ตรวจโควิด หมอให้ยาพารากลับมากิน ต่อมาวันที่ 6 ก.ย. 64 เวลาประมาณ 14.00 น.ทางเจ้าของอพาร์ตเมนต์ ได้นำอาหารไปให้และเคาะประตูห้อง แต่ น.ส.วิไลพร ไม่ได้เปิดประตูออกมา จนช่วงค่ำขึ้นไปดูพบว่าอาหารยังแขวนอยู่หน้าห้อง จึงนำกุญแจสำรองเปิดประตูพบว่านอนเสียชีวิตขวางประตูด้านใน ก่อนจะรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ด้านนายสิรภพ อายุ 25 ปี กล่าวว่า ตนรู้จักและนับถือเป็นป้า เพราะสนิทกับป้าของตนไปมาหาสู่กับที่บ้านมาหลายสิบปี เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ป้าวิไลพร ได้โทรศัพท์มา บอกว่ามีไข้ และท้องเสีย ตนจึงให้ป้าเอาที่ตรวจ ATK ไปตรวจเบื้องต้น พบผลตรวจเป็นลบ เพื่อความมั่นใจจึงให้ไปตรวจหาเชื้อโควิดที่รพ. แต่ป้าวิไลพร บอกมีเงินติดตัวแค่ 300 บาท เนื่องจากร้านขายของในห้างปิดไม่ได้ทำงาน ตนจึงบอกว่าไม่เป็นไรจะจ่ายค่าแท็กซี่ให้ หลังจากนั้นแท็กซี่ได้ไปรับป้าไปส่งที่ รพ.

นายสิรภพ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าป้าไปตรวจหาเชื้อโควิด และกลับมารอฟังผลที่ห้องพัก แต่มาทราบว่าไม่ได้ตรวจ เพียงแต่ไปหาหมอเพราะมีไข้ โดยวันที่ 5 ก.ย. ป้าวิไลพรได้ส่งคลิปเสียงมาให้ป้าของตนว่า ขอรอดูอาการ 3-4 วัน หากลุกไม่เวียนหัว ไม่เหนื่อยง่าย ก็จะไปโรงพยาบาล กลัวว่าหากมีเจ้าหน้าที่แต่งชุดมาตรวจที่ห้อง กลัวคนที่อพาร์ตเมนต์จะแตกตื่น ซึ่งคลิปเสียงที่ส่งมาให้มีอาการไอด้วย จนช่วงประมาณ 22.00 น. วันที่ 5 ก.ย. ป้าตนได้โทรหาเพื่อสอบถามอาการแต่ถูกตัดสายทิ้ง จนมาทราบว่าเสียชีวิตแล้ว

เบื้องต้นแพทย์ได้ชันสูตรไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชม. แต่ไม่เกิน 24 ชม.ได้ให้มูลนิธินำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเจาะเลือดตรวจหาเชื้อโควิด โดยไม่ผ่าชันสูตร หากติดเชื้อโควิด จะให้ญาติรับศพไปฌาปนกิจทันที