(รีวิวหนังสือ) Abstract Bar - แง่คิดเกี่ยวกับความรัก ที่ถ่ายทอดผ่านบทสนาเชิงนามธรรม?Abstract Bar และเรื่องสั้นอื่น ๆ วรรณกรรมเรื่องสั้นไทย จากปลายปากกาของคุณปอ เปรมสำราญ เอาจริง ๆ ส่วนตัวผมนี่เป็นครั้งแรก ที่ผมได้ลองอ่านหนังสือในแนวนี้ “แนวนี้” ในความหมายของผมคือแนวที่หลีกหนีออกจากสายวิชาการมาลองอ่านสายวรรณกรรมดู ซึ่งปกติผมมักจะรู้สึกเบื่อเสมอ เพราะขึ้นชื่อว่าวรรณกรรม ผมก็มักจะนึกถึงนวนิยายหรือละครที่พรรณนาร่ายยาวไม่รู้กี่หน้าต่อกี่หน้า (ลองพยายายามอ่านแล้วหลายครั้ง แต่ก็รู้สึกง่วงอยู่ดี) แต่เผอิญว่าผมได้ลองไปเดินงานหนังสือดูแล้วเห็นหนังสือเล่มนี้ หน้าปกสีดำตัดขาวสะดุดตา ขนาดกะทัดรัด และที่สำคัญเป็นหนังสือวรรณกรรม “เรื่องสั้น” ไทย ใช่ครับ…เป็นวรรณกรรมที่ผมไม่ชอบก็จริง แต่มันเป็น “เรื่องสั้น” แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงอกหักของผมพอดี เลยอยากจะลองหาหนังสือจรรโลงใจสักเล่มมาอ่านดู ซึ่งเนื้อหาข้างในก็เป็นเรื่องสั้นที่แต่ละเรื่องมีแค่ไม่กี่หน้าจริง ๆ แต่ทิ้งให้ผมได้คิดอยู่นานเลยตอนผมอ่านจบแต่ละเรื่อง และใช่ครับ…แต่ละเรื่องก็ “Abstract” สมกับชื่อหนังสือจริง ๆ เสียด้วย หนังสือเล่มนี้คร่าว ๆ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของ Abstract bar และส่วนเรื่องสั้นอื่น ๆ ผมจะขอพูดถึงส่วนแรกก่อนคือ “Abstract bar” ก็แปลตรงตัวเลยครับ คือบาร์ที่ค่อนข้างเป็นนามธรรม อาจจะงง ๆ แต่ผมอธิบายเพิ่มเติมอย่างนี้ครับว่า ในส่วนนี้ทั้งหมดในแต่ละเรื่องจะดำเนินไปด้วย “บทสนทนา” ระหว่างบาร์เทนเดอร์ และลูกค้า โดยแต่ละเรื่องจะเป็นการสนทนากันคนละเรื่อง และแต่ละเรื่องจะแฝงข้อคิดและนัยผ่าน “เครื่องดื่ม” ที่บาร์เทนเดอร์ชงให้กับลูกค้า เอาง่าย ๆ คือบาร์เทนเดอร์ก็เหมือนเพื่อนที่คอยรับฟัง ชี้แนะให้ข้อคิดกับเราที่เหมือนลูกค้าที่อกหักแล้วมาพักใจที่บาร์ ส่วนเรื่องสั้นอื่น ๆ ก็ไปในเชิงบทสนทนาเช่นกัน เป็นเหมือนคนสองคนที่คุยกัน สอดแทรกเรื่องราวและข้อคิดผ่าการคุยในชีวิตประจำวันทั่วไป ซึ่งก็โคตรจะ simple แล้วส่วนตัวมองว่าเข้าถึงใจคนอกหักได้ง่ายและลึกซึ้งเลยทีเดียว (แต่คนไม่อกหักก็อ่านได้นะครับ หนังสือชวนให้เราคิดตามจริง ๆ) จากที่ผมได้อ่านมาก็พอจะเขียนออกมาเป็นประเด็นโดยย่อสัก 3 ประเด็น โดยบางส่วนผมจะแทรกทฤษฎีทางจิตวิทยาจากที่ผมเคยได้เรียนและศึกษามาเสริมไว้เล็กน้อย พอให้ผู้อ่านได้เข้าใจและคิดตามมากขึ้นครับการจะออกจากความอกหักได้อย่างแท้จริง สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือการยอมรับ “ความจริง” ความจริงถ้าให้พูดถึงรสชาติในช่วงเวลาอกหักก็คงจะมีแต่ความขมขื่นเกินกว่าจะกระดกลงไหว ซึ่งหลาย ๆ คนคงจะพยายามปรุงแต่งมัน เหมือนการผสมความจริงเพียว ๆ กับเครื่องดื่มรสชาติดีอื่น ๆ เพื่อให้ทานต่อไปได้ ซึ่งผมมองว่ามันปกติมาก ๆ ถ้าคนเราจะพยายามบิดเบือนความจริงเพื่อที่จะลดความชอกช้ำในจิตใจ เพราะจิตใจของเรามีกลไกที่เรียกว่า “Defense mechanism” ปกป้องจิตใจเราอยู่ ซึ่งมีหลายกลไก แต่จะขอยกตัวอย่าง เช่น ถ้าเราอกหักเราเจ็บ เราเสียใจ เราเศร้า เราเองก็จะพยายามเอาชนะอารมณ์เหล่านี้ด้วยการออกไปเที่ยว ไปเฮฮา ไปสนุกสนาน ซึ่งเป็นอารมณ์ขั้วตรงข้ามกันเลย สิ่ง ๆ นี้เราเรียกว่า Overcompensation ครับ เป็นการเอาชนะสิ่งที่ตนเองรู้สึกทางลบ โดยการทำสิ่งตรงข้ามที่บางทีอาจจะมากเกินไป สุดท้ายแล้วสภาพก็คงไม่ได้ดีเท่าไหร่จริงไหมครับ แต่กว่าเราจะยอมรับความจริงนั้นได้ ก็คงต้องผ่านความพยายามอะไรหลาย ๆ อย่าง…“อีกนานกว่าบาร์เราจะปิด” (หนึ่งในประโยคบนหนังสือ) ลองผสมความจริงเพียว ๆ ของเราไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะดื่มมันได้โดยที่ไม่รู้สึกขมขื่น…เป็นกำลังใจให้ครับ“ความรักที่ดี ต้องมากับความเข้าใจ” ความเข้าใจในที่นี้ไม่ใช่แค่เข้าใจในคนรัก สำคัญกว่านั้นคือการเข้าใจใน “ตนเอง” รู้จักความคิดและอารมณ์ตัวเอง รู้ทันความคิดและความต้องการของตนเอง เมื่อเราเข้าใจตนเองแล้ว ต่อไปเราจะรู้ว่าอะไรคือความรักที่เราต้องการ หรือเมื่อเรามีความรักแล้ว อารมณ์อะไรที่เราไม่ควรเอามาผสมโรงด้วย…“อีกนานกว่าบาร์เราจะปิด” ลองผสมความเข้าใจของคุณไปกับอารมณ์อื่น ๆ ดูก่อนก็ได้ครับ ค่อย ๆ ลิ้มรสและเรียนรู้มันจนกว่าจะเข้าใจในความรักดีพอ“ถึงจุด ๆ นึงเราคงต้องเลิกจริง ๆ…ขอเวลาหน่อย” เอาจริง ๆ กว่าเราจะมาถึงการตัดสินใจด้วยการเลิกกัน หลาย ๆ คนอาจจะต้องผ่านการปรับตัว ผ่านการทะเลาะกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ หรือเลิกกันแล้วสุดท้ายก็กลับไปดีกันแล้วก็วนอยู่อย่างนี้ อีกครั้งนึงที่ผมจะบอกว่ามันปกติ อิงจากทฤษฎี “Grief process” ที่กว่าเราจะไปถึง Acceptance หรือยอมรับความจริงและเลิกได้อย่างแท้จริงเราต้องผ่านทั้ง denial ปฎิเสธความจริง ไม่หรอกเธอไม่ได้ทำ - Anger รู้สึกโกรธ ทำไมเธอทำกับเราแบบนี้วะ – bargaining ต่อรอง ขอร้องเธอกลับมา เรายอมทำทุกอย่าง เรายกโทษให้เธอก็ได้ ไปจนถึง depression เศร้า สิ้นหวัง ชีวิตนี้คงไม่เจอความรักดี ๆ แล้ว วนไปเรื่อย ๆ กว่าจะหลุดมาถึง acceptance ก็ต้องใช้เวลา หรือบางทีคนเราอาจจะเลือกใช้คน(อื่น)มาเยียวยาจิตใจก็เป็นได้…ไม่รู้สิ แต่ผมยังเชื่อในเรื่องของเวลาอาจจะนานแต่น่าจะดีกว่าการที่เรายังไม่ยอมรับแล้วพาคนอื่นมาเจ็บกับเราด้วยรึเปล่า คหสต. ในหนังสือเล่มนี้ “Abstract Bar และเรื่องสั้นอื่น ๆ” ยังมีอีกหลายเรื่อง หลายข้อคิดแฝงไว้ผ่านบทสนทนา ที่ส่วนตัวผมเชียร์ให้ผู้อ่านได้ลองอ่านดู อย่างน้อยถ้าไม่ได้อ่านเพื่อเป็นเพื่อนในยามคุณอกหัก ก็อ่านเพื่อให้คุณได้ตกตะกอนความคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง เพราะความรักหรืออารมณ์ของมนุษย์ยากที่จะตีความและทำความเข้าใจ ประสบการณ์และการวิเคราะห์อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ จากหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณโตขึ้นในแแง่ของความคิดไม่มากก็น้อยแน่นอน…เครดิตรูปภาพปก - ภาพโดยผู้เขียนและตกแต่งโดย Canvaภาพที่ 1 - โดย ผู้เขียนภาพที่ 2 - โดย Pixabay / Pexelsภาพที่ 3 - โดย Wedding Photography / Pexelsภาพที่ 4 - โดย Valentin Antonucci / Pexelsเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !