ย้อนกลับไปสมัยผมยังเป็นเด็กน้อย ช่วงนั้น PlayStation 3 กำลังมาแรง พี่ชายผมก็ได้เกม God of War III มาเล่น ผมจำได้เลยว่าแค่ฉากเปิดเกมก็ทำให้ตาผมเบิกโพลงแล้ว เครโทสตัวใหญ่ยักษ์กำลังปีนป่ายกายไททัน พร้อมกับเหล่าทหารสปาร์ตันที่กรูกันเข้าโจมตี โอ้โห! มันช่างอลังการงานสร้าง สมจริง และโหดเหี้ยมเกินกว่าที่เกมยุคนั้นจะทำได้ ผมนี่นั่งดูพี่ชายเล่นตาไม่กระพริบ อยากจะควบคุมเครโทสไล่ฆ่าเทพเจ้าด้วยตัวเองบ้าง และในที่สุดวันที่ผมรอคอยก็มาถึง... บอกเลยว่าประสบการณ์การเล่น God of War III ในวันนั้น ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผมมาจนถึงทุกวันนี้ กราฟิกและบรรยากาศ ถ้าพูดถึงกราฟิกของ God of War III ในยุค PlayStation 3 ต้องบอกว่ามันคือ "ที่สุดของที่สุด" จริง ๆ ตัวละคร ฉาก เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน รายละเอียดคมชัด สมจริง ไม่ว่าจะเป็นรอยแผลเป็นบนตัวเครโทส เลือดที่สาดกระเซ็น หรือแม้แต่แสงเงาที่ตกกระทบ ทุกอย่างล้วนทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เสริมให้บรรยากาศในเกมดูน่าตื่นตาตื่นใจ ยกตัวอย่างเช่นฉากที่เครโทสต่อสู้กับ Poseidon บนหลังไททัน ท่ามกลางคลื่นทะเลที่โหมกระหน่ำ ผมนี่ขนลุกเลย มันทั้งยิ่งใหญ่ อลังการ และให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในมหากาพย์สงครามเทพเจ้าจริง ๆ เกมเพลย์ God of War III ยังคงรักษามาตรฐานระบบการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเอาไว้ได้ ด้วยท่าโจมตีที่หลากหลาย รุนแรง และสะใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Blades of Chaos ฟาดฟัน การคว้าจับศัตรูแล้วเหวี่ยง หรือการใช้เวทมนตร์อย่าง Nemean Cestus เพื่อทุบศัตรูให้แหลกละเอียด ทุกอย่างล้วนลื่นไหล ควบคุมง่าย และสนุก ที่สำคัญคือเกมมีอาวุธและไอเทมใหม่ ๆ ให้เราได้ใช้ตลอด ทำให้การต่อสู้ไม่ซ้ำซากจำเจ อย่างเช่น Claws of Hades ที่สามารถเรียกวิญญาณมาช่วยสู้ได้ หรือ Bow of Apollo ที่ยิงธนูแสงได้ นอกจากนี้ ปริศนาในเกมก็มีความท้าทาย ไม่ง่ายจนเกินไป และไม่ยากจนเกินไป ต้องใช้ทั้งไหวพริบและการสังเกต ซึ่งผมมองว่ามันเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ช่วยเบรกความดุเดือดของฉากแอคชั่นได้เป็นอย่างดี เนื้อเรื่อง เนื้อเรื่องของ God of War III ถือเป็นบทสรุปการเดินทางของเครโทส ที่ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าเทพเจ้าแห่งโอลิมปัส เพื่อล้างแค้นให้กับตัวเองและครอบครัว ตลอดการเล่นเราจะได้เห็นถึงความแค้น ความเจ็บปวด และความโกรธที่กัดกินหัวใจของเครโทส ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวละครแต่ละตัวก็มีมิติ มีแรงจูงใจที่น่าสนใจ ทำให้เราเข้าใจทั้งฝ่ายเครโทสและฝ่ายเทพเจ้า อย่างเช่น Zeus ที่แม้จะเป็นเทพเจ้าสูงสุด แต่ก็มีความกลัว ความหวาดระแวง และความโหดร้ายซ่อนอยู่ ยิ่งเล่นก็ยิ่งลุ้นว่าบทสรุปของสงครามครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เครโทสจะสามารถล้างแค้นได้สำเร็จหรือไม่ ดนตรีประกอบ ดนตรีประกอบใน God of War III ช่วยเสริมอารมณ์และบรรยากาศในเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งฉากต่อสู้กับบอสยิ่งอลังการ ดนตรีจะยิ่งเร้าใจ กระตุ้นอะดรีนาลีน ผมจำได้ว่าตอนสู้กับ Hades ดนตรีมันจะหนักหน่วง ดุดัน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังต่อสู้กับปีศาจร้ายในขุมนรก ส่วนฉากดราม่า ดนตรีก็จะเศร้า โหยหวน บีบคั้นอารมณ์ ผมชอบเพลงประกอบตอนสู้กับซุสมาก มันส์ อลังการ และสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของการต่อสู้ครั้งสุดท้ายได้เป็นอย่างดี ประสบการณ์การเล่น ผมจำได้ว่าตอนเล่น God of War III ครั้งแรก ตื่นเต้นมาก มือไม้สั่น ใจเต้นแรง โดยเฉพาะฉากต่อสู้กับบอส แต่ละตัวนี่โคตรโหด อย่าง Cronos นี่ตัวใหญ่ยักษ์ ต้องปีนป่ายไปตามตัวมัน หลบการโจมตี แล้วหาจังหวะโจมตีกลับ กว่าจะผ่านได้เล่นเอาเหงื่อตก หัวร้อน แต่พอปราบ Cronos ได้ ความรู้สึกมันแบบ... สะใจสุด ๆ! เหมือนได้ปลดปล่อยพลัง ได้ระบายความแค้น เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนจริง ๆ นอกจากนี้ ฉากที่เครโทสฆ่า Poseidon ก็เป็นอีกหนึ่งฉากที่ผมจำได้ไม่ลืม ความโหดร้าย ความดิบเถื่อน มันแสดงให้เห็นถึงด้านมืดของเครโทสได้อย่างชัดเจน จุดเด่น กราฟิกและบรรยากาศสุดอลังการ สมจริง รายละเอียดคมชัด ระบบการต่อสู้ที่สนุก ลื่นไหล สะใจ มีอาวุธและท่าโจมตีให้เลือกใช้หลากหลาย เนื้อเรื่องเข้มข้น น่าติดตาม ตัวละครมีมิติ ดนตรีประกอบชั้นยอด เสริมอารมณ์และบรรยากาศในเกมได้อย่างดีเยี่ยม บอสไฟต์สุดท้าทาย ต้องใช้ทั้งฝีมือและไหวพริบ จุดด้อย บางฉากอาจมีความรุนแรงเกินไป ไม่เหมาะสำหรับเด็ก เนื้อเรื่องค่อนข้างเส้นตรง ไม่มีทางเลือกให้ผู้เล่นมากนัก สรุป God of War III คือเกมแอคชั่นระดับตำนานที่ทุกคนควรเล่น มันเป็นเกมที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งกราฟิก เกมเพลย์ เนื้อเรื่อง และดนตรีประกอบ ถ้าคุณเป็นแฟนเกมแนวแอคชั่น หรือชอบเกมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเทพปกรณัมกรีก ผมขอแนะนำ God of War III เลยครับ รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดุเดือด สะใจ และยากจะลืมเลือน! เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !