วันนี้จะมาขอแนะนำหนังสือภาพสำหรับเยาวชนและผู้สนใจทั่วไป จริงๆแล้วหนังสือเล่มนี้ไม่จำเป็นต้องสำหรับเยาวชนก็ได้ เพราะเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้สนใจทั่วไปด้วย ถือเป็นความรู้รอบตัวที่น่าสนใจ เพราะเรื่องราวเกี่ยวกับอารยธรรมโรมโบราณนั้นเป็นประเด็นที่กว้างขวางกับผู้ที่สนใจทั่วไปด้วย เพียงแต่มันอยู่ในรูปแบบที่อ่านง่ายแม้แต่เด็กก็อ่านเข้าใจได้ ระหว่างการอ่านก็จะมีภาพประกอบที่สวยงามสี่สีตลอดทั้งเล่ม หนังสือเล่มนี้แต่งโดย ฟิโอนา แม็คโดนัลด์ แปลโดย ชวธีร์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต เป็นหนังสือภาพความรู้ลำดับที่ 3 ของชุด 100 เรื่องน่ารู้ จัดพิมพ์โดยแพรว เยาวชน ในเครืออมรินทร์ แนวคิดที่ได้ภายในเล่มในมุมมองของครีเอเตอร์ได้เรียนรู้ว่ากรุงโรมเป็นเมืองที่อยู่ในภาคกลางของอิตาลี และปกครองโดยจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโรมเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อ 1000 ปีก่อนคริสต์ศักราช เริ่มจากหมู่บ้านกระท่อมไม้ ไม่นานก็มั่งคั่งและมีอำนาจเข้มแข็งกลายเป็นเมืองที่วุ่นวายด้วยความศิวิไลซ์ของยุคนั้น ได้เรียนรู้ว่าราวปีคริสต์ศักราช 300 โรมกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งพลเมืองที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนกับทำหน้าที่ในกองทัพ และผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองก็คือ ทาส นั่นเอง รัฐบาลบริหารงานโดยพวกชนชั้นสูงและอัศวินซึ่งมักจะเป็นคนร่ำรวย พวกคนชั้นล่างหรือคนธรรมดานั้นมักเป็นคนจน ได้เรียนรู้ว่าฟอรัมคือเขตพื้นที่ของรัฐบาล ตั้งอยู่บริเวณใจกลางกรุงโรม ผู้คนไปที่นั่นเพื่อพบปะเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจ ถกปัญหาการเมืองและรับฟังสุนทรพจน์กลางแจ้ง ส่วนใหญ่ฟอรัมคือย่านการค้าที่รายล้อมด้วยอาคารของรัฐบาล อาคารที่ทำการต่างๆ และศาลยุติธรรม ได้เรียนรู้ว่าโรมมีหน่วยดับเพลิงประจำเมือง นักดับเพลิง 7000 นายคือทาสที่ถูกปลดปล่อยและได้รับการฝึกฝน เหตุที่ไฟไหม้บ่อยเพราะคนทั่วไปไม่มีเงินพอจะทำระบบความร้อนกลางได้จึงต้องทำห้องให้อุ่นโดยจุดไฟในหม้อดินขนาดใหญ่ จึงเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ ได้เรียนรู้ว่าโรมมีอาคารศูนย์การค้าแห่งแรกของโลก เรียกว่า ตลาดทราจัน สร้างอยู่ต่างระดับกันห้าชั้นบนลาดเขาของเนินกิรินัลกลางกรุงโรม มีร้านค้ามากถึง 150 ร้าน พร้อมทางเดินใหญ่ที่กว้างขวาง ได้เรียนรู้ว่าเด็กผู้ชายจะได้เรียน 3 วิชา คือ การอ่าน คณิตศาสตร์ และการพูดในที่สาธารณะ เพื่อใช้ประกอบอาชีพในอนาคต เด็กผู้ชายจะเข้าโรงเรียนเมื่ออายุประมาณ 7 ปี และเรียนจบเมื่ออายุ 16 ปี ส่วนเด็กผู้หญิงจะไม่ได้ไปโรงเรียน แต่มีมารดาและทาสให้การสอนทำอาหาร ทำความสะอาด ทอผ้า และดูแลเด็กๆ ถ้าเป็นครอบครัวที่มีฐานะจะสอนเด็กผู้หญิงได้เรียนการอ่าน การเขียน และการทำบัญชี การเขียนจดบันทึกไม่ได้จดลงกระดาษ แต่จดลงบนแผ่นไม้เคลือบขี้ผึ้ง โดยขี้ผึ้งใช้เกลี่ยให้เรียบและใช้ใหม่ได้ สำหรับเอกสารที่ต้องเก็บอย่างดีจะจดบนหนังลูกวัวที่ทำความสะอาดขัดถูมาอย่างดี หรือใช้กระดาษปาปิรุส ได้เรียนรู้ว่าคุณพ่อบ้านชาวโรมันมีอำนาจมากที่สุดในบ้านตามกฎหมาย เรียกว่า ปาเตอร์ฟามิเลียส ทุกอย่างภายในบ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา และเขายังมีสิทธิที่จะลงโทษสมาชิกในบ้านที่ประพฤติตนไม่ดี แม้แต่แม่ของเขาเองหรือญาติผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าก็ควรเชื่อฟังเขาด้วย ได้เรียนรู้ว่ากฎหมายโรมันอนุญาตให้เด็กผู้หญิงแต่งงานได้เมื่ออายุ 12 ปี หลายคนกลายเป็นแม่คนเมื่ออายุ 15 ปี พวกเธอไม่อาจเลือกคู่ได้เอง โดยเฉพาะหากเธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยหรือมีอำนาจ ครอบครัวจะเป็นผู้จัดการเรื่องการแต่งงาน เพื่ออำนาจทางการเมือง ความรักนั้นไม่สำคัญเลย ได้เรียนรู้ว่าชาวโรมันชอบดูเหล่านักสู้กลาดิเอเตอร์ในโคลอสเซียมเป็นอย่างมาก แม้พวกเขาไม่เต็มใจสู้ พวกเขาเป็นเชลยศึกหรือนักโทษ พวกเขาถูกส่งเข้าไปในสังเวียนสู้จนกว่าตัวตาย สู้ทั้งกับสัตว์ร้ายและสู้กันเองก็มี บางคนก็ชอบดูการแข่งรถศึกมากกว่า เรียกว่า เซอร์คัส คือ ม้าลากรถศึกด้วยความเร็วไปรอบลู่ของสนามแข่งขัน7 รอบ ด้วยระยะทาง 8 กิโลเมตร ได้เรียนรู้ว่ากรุงโรมเคยปกครองโดยกษัตริย์ กษัตริย์องค์แรกตามตำนานคือ โรมุลุส ขึ้นครองอำนาจเมื่อ 753 ปีก่อนคริสต์ศักราช หลังจากนั้นก็มีกษัตริย์อีก 6 พระองค์ปกครอง แต่กษัตริย์เหล่านั้นล้วนโหดร้ายและไม่ยุติธรรม ทำให้ถูกโค่นล้มในเวลาต่อมา กษัตริย์องค์สุดท้ายคือ ทาร์ควิน หลังจากนั้นกรุงโรมก็กลายเป็นสาธารณรัฐหรือรัฐที่ไม่มีกษัตริย์ ทุกปีประชาชนจะเลือกกงสุลซึ่งเป็นนักกฎหมายอาวุโส 2 คนขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำแหน่งอื่นๆก็มาจากการเลือกตั้ง สาธารณรัฐดำรงอยู่เป็นเวลากว่า 400 ปี ได้เรียนรู้ว่าคลีโอพัตรา ราชินีแห่งอียิปต์ ที่อยู่ทางตอนเหนือของแอฟริกา พระนางรู้ว่ากองทัพอียิปต์ไม่อาจเอาชนะทหารโรมันได้ ทั้งจูเลียส ซีซาร์ และมาร์ค แอนโทนี สองนายพลแห่งโรมันต่างก็หลงรักพระนาง ทำให้พระนางยับยั้งการรุกรานของโรมันได้หลายปี แต่อียิปต์ก็ถูกยึดครองในท้ายที่สุด ได้เรียนรู้ว่าลูกมะกอกเป็นผลไม้ที่มีค่ามากที่สุด มักนิยมใช้มาดองในน้ำเกลือเพื่อกินกับขนมปังและเนยแข็ง หรือนำไปคั้นเอาน้ำมัน ซึ่งน้ำมันมะกอกใช้ได้เป็นทั้งยา ประกอบอาหาร ถนอมอาหาร ทำความสะอาดและบำรุงผิวพรรณ รวมทั้งจุดตะเกียงด้วย ได้เรียนรู้ว่าปัจจุบันยังมีคนตั้งชื่อตามแบบโรมันหรือชื่อจากภาษาละติน เช่น อะแมนดา (น่ารัก) ไดอานา (เทพีจันทรา) วีนัส (เทพีแห่งความรัก) แพทริเซีย (ผู้สูงศักดิ์) ลอร่า (ต้นลอเรล) เวอร์จิเนีย (หญิงสาว) จูเลียส / แอนโทนี (ชื่อสกุลของโรมัน) มาร์ติน / มาร์คัส (เทพแห่งสงคราม) วิกเตอร์ (ผู้ชนะ) วินเซนต์ (ผู้พิชิต) เป็นต้น เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโรมโบราณไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลสูงสุดในประวัติศาสตร์ยุคนั้น เรียนรู้การใช้ชีวิตประจำวันของชาวโรมโบราณ การกิน การอยู่ ความเชื่อ การปกครอง และความรุ่งเรืองของศิลปะวิทยาการสรุปออกมาเป็น 100 ข้อ จนจบเล่มพอดี ซึ่งเนื้อหาไม่มากเกินไป หนังสือก็มีขนาดบาง อ่านเพลิน ไม่เครียด แถมได้สาระอีกด้วย เด็กคนไหนเบื่อที่จะอ่านหนังสือ ก็อาจใช้หนังสือซีรีส์ชุดนี้เป็นตัวเริ่มต้นก็ได้ เครดิตภาพภาพปก โดย vwalakte จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผูเขียนภาพที่ 3 โดย macrovector จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย macrovector จาก freepik.com ภาพที่ 5 โดย user14202961 จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ 100 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์รีวิวหนังสือ 100 น่ารู้เกี่ยวกับอาวุธและชุดเกราะรีวิวหนังสือ Anna Karennina รักต้องห้ามของอันนา คาเรนีนา หนังสือภาษาอังกฤษระดับ Stage 5 รีวิวหนังสือ ONLINE CODE เกมภาษีไม่หนีรักรีวิวหนังสือ EQ ดี อารมณ์ดี ชีวีสดใส 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์