โบรกฯ มองหุ้นกลุ่มขนส่งทางบกฟื้นตัวเด่น หลังการเดินทางเพิ่มขึ้น

ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าปริมาณการจราจรและจำนวนผู้โดยสารจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญสำหรับทั้ง BEM และ BTS เนื่องจากการกลับสู่ภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป และนโยบายที่เอื้ออำนวยภายหลังการเลือกตั้งผู้ว่า กรุงเทพฯ คนใหม่ นอกจากนี้ BEM จะได้ประโยชน์จากความได้เปรียบทางการแข่งขันในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขณะที่ BTS จะได้ประโยชน์จากความคืบหน้าในประเด็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว 

ทั้งนี้ปริมาณการจราจรและจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในเดือน พ.ค. 2565 จากการเปิดภาคเรียนและเข้าทำงานในสถานที่ รวมถึงมีกิจกรรมกลางแจ้งและอีเว้นท์ต่างๆ มากขึ้น หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศลดลง โดยในเดือน พ.ค. 2565 ปริมาณการจราจรบนทางด่วนเฉลี่ยฟื้นตัว 6.5% (ในส่วนที่ BEM เป็นผู้รับสัมปทาน) เป็น 1,039,603 เที่ยว ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยบนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีเขียวหลัก (รถไฟฟ้า BTS)เพิ่มขึ้น 28% เป็น 229,660 เที่ยว/วัน และ 30% เป็นประมาณ 347,000 เที่ยว/วัน ตามลำดับ 

นอกจากนี้คาดการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น หลังจากยกเลิกข้อจำกัดทางพรมแดน การยกเลิกข้อกำหนดในการบังคับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าสถานที่บางแห่ง (เช่น บาร์ และผับ) เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าไปใช้บริการมากขึ้น และมีกิจกรรมกลางแจ้ง และการนัดหมายทางธุรกิจนอกสถานที่มากขึ้น จึงคาดว่าจะเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งของจำนวนผู้โดยสารและได้รับประโยชน์จากผู้คนเปลี่ยนวิธีเดินทางอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น 

ขณะที่จำนวนกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้นตั้งแต่นายชัดชาติ สิทธิพันธุ์ เข้ารับตำแนห่งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ จะเห็นได้จากงานดนตรีในสวน และงานนฤมิตไพร์ด์ 2022 ซึ่งเป็นขบวนพาเหรดไพรด์ครั้งแรกของชุมชน LGBTQ ในรอบทศวรรษ โดยในนโยายของผู้ว่ากรุงเทพฯ คนใหม่ มีหลายนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ งานเทศกาล และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานบางอย่าง เข่น ทางเท้า ช่องทางจักรยาน และลานจอดรถสาธารณะ ซึ่งอาจนำไปสู่การจัดงานอีเวนท์สาธารณะที่เพิ่มขึ้น และเอื้อหนุนต่อการใชระบบขนส่งสาธารณะซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 

ฝ่ายวิจัย แนะนำซื้อหุ้น BEM ให้ราคาเป้าหมายที่ 9.90 บาทต่อหุ้น ส่วนหุ้น BTS แนะนำซื้อเช่นกัน โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 10.20 บาทต่อหุ้น