รีเซต

'สิทธิศักดิ์' โร่แจงหลังถูกเฟกนิวส์บรรยายหลักสูตร พ.ฎีกาโจมตี ธนาธร-ปิยบุตรยุ น.ศ.ชุมนุม

'สิทธิศักดิ์' โร่แจงหลังถูกเฟกนิวส์บรรยายหลักสูตร พ.ฎีกาโจมตี ธนาธร-ปิยบุตรยุ น.ศ.ชุมนุม
มติชน
13 พฤศจิกายน 2563 ( 10:40 )
61
'สิทธิศักดิ์' โร่แจงหลังถูกเฟกนิวส์บรรยายหลักสูตร พ.ฎีกาโจมตี ธนาธร-ปิยบุตรยุ น.ศ.ชุมนุม

วันที่ 13 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อดีตแกนนำนปช.ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองได้โพสต์ข้อความ กล่าวหา นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาเเละผู้บริหารระดับสูงของศาลฎีกา มีพฤติการณ์บรรยายโจมตีการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาและประชาชน เเละ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล อยู่เบื้องหลังพร้อมเรียกร้องให้ ก.ต.พิจารณาลงโทษ นายสิทธิศักดิ์ เเละผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าข้อมูลดังกล่าวมาจากกลุ่มที่ใช้ชื่อว่ากลุ่มผู้พิพากษานิรนาม เเละข้อมูลดังกล่าวได้มีการเผยเเพร่ในโลกออนไลน์เเละมีการเเชร์ต่อเป็นจำนวนมาก

 

นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาผู้ถูกพาดพิงจากข้อมูลดังกล่าว ได้มีการเขียนชี้เเจงลงในกรุ๊ปไลน์กลุ่มของผู้พิพากษามีข้อความว่า

 

ขอชี้แจงประเด็นการกล่าวหาว่า ผมอภิปรายกล่าวหาโจมตีนักเรียนนักศึกษาที่มาชุมชน ดังนี้

 

1.เมื่อวันที่2พ.ย.63 เป็นการอภิปรายในหลักสูตรผู้พิพากษาศาลฎีกาหัวข้อ “การใช้ดุลพินิจของศาลฎีกากับผลกระทบต่อสังคม”โดยมีผม ผศ.ดร.กิตติศักดิ์ ปกติ และนายสมโภช โตรักษาเป็นวิทยากร หลักสูตรนี้ ผมและวิทยากร อภิปรายมาเป็นเวลาร่วม4ปี ไม่เคยมีปัญหาใดๆมาก่อน

 

2.ผมเปิดประเด็นว่า สถานะการณ์ปัจจุบันมีการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ สังคมมีความขัดแย้ง มีการจับกุมคุมขังแกนนำหลายคน เพื่อไปสู่คำถามวิทยากรผู้ร่วมอภิปรายว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้สังคมเชื่อมั่นในบทบาทความเป็นกลางของศาลยุติธรรม ในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในเรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยผมยกตัวอย่างว่า เวลานี้ ศาลชั้นต้นหลายแห่งได้ยกคำร้องผัดฟ้องฝากขังของตำรวจเพราะไม่มีเหตุจำเป็นต้องควบคุมตัวตามคำร้อง หรือศาลสูงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแกนนำผู้ชุมนุม แม้แต่คุณนิพิฐ อินทรสมบัติ สส.พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังชมศาลออกสื่อว่า ศาลได้ดูแลคุ้มครองสิทธิของผู้ชุมนุมเป็นอย่างดี

 

ในการอภิปราย ผมตั้งประเด็นเพื่อให้วิทยากรให้ความรู้กฏหมายและคดีต่างประเทศว่า หากมีการชุมชนในที่สาธารณะ กฎหมายและวิธีการในต่างประเทศจะมีวิธีการรับมือดำเนินการกับผู้ชุมชนอย่างไรบ้าง ซึ่งวิทยากรได้ให้ความรู้ว่าเช่น.. ในบางประเทศการชุมนุมบางลักษณะใน 20 นาทีแรกจะชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนั้นอาจเป็นการชุมนุมเกินความจำเป็น หรือ การชุมนุมที่ผู้ชุมนุมออกมาแสดงจุดยืนข้อเรียกร้องตามปกติวิสัย สามารถกระทำได้ ถือเป็นเสรีภาพทางการเมืองอย่างหนึ่งของประชาชน เว้นแต่มีการกระทำในลักษณะก่อภัยเป็นอาญาร้ายแรงทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง ทั้งนี้โดยพิจารณาจากวัตถุการชุมนุมเป็นหลัก การอภิปรายตลอด3ชั่วโมงล้วนตั้งอยู่บนหลักการตามหัวข้อวิชา วิสันชนากันอย่างสร้างสรรค์โดยอิงหลักทฎษฎีกฎหมายและคดีตัวอย่างของต่างประเทศ นำไปสู่การพัฒนาความรู้ประสบการณ์ที่แตกต่าง เพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจของผู้พิพากษาในการสั่งคดีในทุกขั้นตอน ไม่ได้มีเจตนามุ่งหมาย กล่าวหาใส่ความผู้ชุมนุมหรือผู้หนึ่งผู้ใดแต่อย่างใดทั้งสิ้น

 

3.ผมได้บอกเล่าสู่ให้วิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมทราบว่า การที่ศาลสูงโดยเฉพาะศาลฎีกาจัดตั้งแผนกคดีต่างๆขึ้นในศาลฎีกา เพื่อต้องการให้ผู้พิพากษาที่มีความรู้ความชำนาญกฎหมายเฉพาะทาง สามารถเข้าสู่แผนกคดีที่ตนถนัดเพื่อชี้ขาดตัดสินคดีให้มีความถูกต้อง แม่นยำยุติธรรม ประชาชนจะได้มีความเชื่อมั่น ในการชี้ขาดคดีของศาลฎีกา เช่น แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีจงใจไม่ยื่นหรือยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือหนี้สินอันเป็นเท็จ การตัดสินคดีของศาลฎีกา จึงเท่ากับเป็นการวางมาตรฐานบรรทัดของสังคม เป็นต้น

 

4. ผมนำเสนอตัวอย่างนโยบายอดีตประธานศาลฎีกาท่านไสลเกษฯ เรื่องการปล่อยชั่วคราวสำหรับผู้ต้องขังที่ไม่รู้สิทธิและยากจนที่มีท่านเมทินี ชโลธร รองประธานศาลฎีกาในขณะนั้นเป็นคณะทำงานขับเคลื่อนฯว่า เกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างยิ่งอย่างไรบ้าง รวมถึงจุดเด่นของนโยบาย5ส.ของท่านประธานศาลฎีกาปัจจุบัน เพื่อให้วิทยากรรู้และเข้าใจบทบาทของศาลยุติธรรมในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องขังด้วยความห่วงใย

 

5.ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน2563ขณะที่ผมดำรงตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ผมมีจุดยืนและนโยบายชัดเจนในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ชุมนุมที่เป็นเด็กและเยาวชน โดยการประชุมหน่วยงานกระบวนการยุติธรรมทุกหน่วยงานในกรุงเทพฯผมบรรยายว่า ตำรวจไม่ควรมีการออกหมายจับเด็กหรือเยาวชนที่มาชุมชน ควรใช้วิธีการเชิญตัวตามกฎหมายหรือออกหมายเรียก โดยเฉพาะอย่าง ผมได้ประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ไปยังศาลเยาวชนฯทั่วประเทศว่า หากตำรวจมาขอออกหมายจับเด็กฯเพราะเหตุเกิดจากการชุมนุมที่เห็นต่าง ให้หลีกเลี่ยงการออกหมายจับ ควรให้ตำรวจใช้วิธีการเชิญตัวหรือออกหมายเรียกแทน หากมีการฟ้องเป็นคดี ควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องเรียกหลักประกัน เพื่อไม่ให้เป็นภาระเเก่ผู้ปกครองของเด็กหรือเยาวชน เพราะเด็กหรือเยาวชนอาจกระทำไปโดยความเชื่อโดยสุจริต ไม่ใช่อาชญากร เด็กฯมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่หลบหนี ต้องคุ้มครองสิทธิเด็กตามกฎหมายก่อน

 

6. ดังนั้น จึงยืนยันและขอรับรองว่า การอภิปรายของผมและวิทยากรทุกคน มีเจตนาอภิปรายเชิงสร้างสรรค์ ท่านประธานศาลฎีกามิได้รู้เห็นและไม่ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการอภิปรายใดๆทั้งสิ้น การอภิปรายครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อต้องการให้ผู้พิพากษาศาลฎีกาเข้าใจบทบาทศาลยุติธรรมและศาลฎีกา กับการใช้ดุลพินิจในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพื่อให้ให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ศาลยุติธรรมมีความเป็นธรรม เป็นกลางและยังเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนได้อย่างแท้จริงครับ

 

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง