เปิดตัว “คิม จู-แอ” คาดเป็นผู้สืบทอดอำนาจผู้นำเกาหลีเหนือ

วันนี้ ( 10 ก.พ. 66 )KCNA สื่อทางการเกาหลีเหนือ รายงานเมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) ว่า เกาหลีเหนือจัดงานฉลองครบ 75 ปีแห่งการสถาปนากองทัพประชาชนเกาหลีอย่างยิ่งใหญ่  มีการโชว์แสนยานุภาพทางการทหาร และจัดแสดงขีปนาวุธพิสัยไกล ICBM จำนวนมากที่สุดที่เคยมีมา  รวมถึงมี ฮวาซอง-17 ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ใหญ่ที่สุดอย่างน้อย 10 ลูกและยานพาหนะที่ใช้บรรทุกขีปนาวุธพิสัยไกลที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งด้วย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด คือ คิม จู-แอ  เด็กหญิงอายุ 9 ขวบ  หรือสื่อบางสำนักรายงานว่า 10 ขวบ 

แม้ว่าเกาหลีเหนือจะไม่เคยระบุชื่อเธออย่างเป็นทางการ แต่สายลับและนักวิเคราะห์ของเกาหลีใต้ เชื่อว่าเด็กหญิงคนนี้คือจูแอ ที่เชื่อกันว่าเป็นลูกคนที่ 2 ของคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ซึ่งมาร่วมชมพิธีนี้ด้วย

นี่เป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งที่ 5 ของเธอ และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 3 เดือน

ก่อนหน้านี้ จู-แอ เคยปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก โดยไปร่วมชมการทดสอบฮวาซอง-17 กับนายคิมเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว 

เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (7 ก.พ.)  ก่อนถึงวันสวนสนาม 1 วัน นายคิมและนางรี ซอล จู ภริยาและสตรีหมายเลขหนึ่งเกาหลีเหนือ  ได้นำจู-แอ ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำของกองทัพที่กรุงเปียงยางด้วย  จูแอแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ดูเคร่งขรึม และชุดกระโปรงติดกระดุมสีดำ รวบผมไว้ด้านหลัง 

ภาพถ่ายดังกล่าวทำให้ผู้ชมชาวเกาหลีเหนือหลายคนต้องตะลึง ในแต่ละภาพเธอนั่งอยู่ตรงกลางเวที ระหว่างแม่และพ่อของเธอ และล้อมรอบด้วยเจ้าหน้าที่กองทัพ

เธอได้รับการแนะนำตัวครั้งแรกจากสื่อทางการของรัฐ ที่เรียกเธอว่า เป็น “ลูกสาวที่รัก" และ “ลูกสาวที่เคารพ” ของท่านผู้นำ  มีภาพเธอเดินจูงมือกับพ่อ ในขณะที่แม่ของเธอเดินตามหลังพวกเขา

ชอง ซองชาง นักวิจัยจากสถาบันเซจองของเกาหลีใต้มองว่า  สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือเริ่มสร้าง "ลัทธิบูชาบุคคล”รอบๆ ตัวจู-แอ  มันบ่งชี้ว่า คิม จูแอ จะกลายเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพในอนาคต และเป็นการส่งสัญญาณว่าเธอถูกกำหนดให้เป็นผู้สืบทอดโดยพฤตินัย แม้ว่าเธอจะยังไม่มีสถานะ 'ผู้สืบทอด' อย่างเป็นทางการก็ตาม 

ลูกสาวที่ "น่าเคารพ" เป็นคำที่สงวนไว้สำหรับผู้ที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดเท่านั้น  แม้แต่ คิม จอง-อึน เอง ยังถูกเรียกว่าเป็น “สหายที่เคารพ” หลังได้รับรองสถานะ ว่าเป็นว่าที่ผู้นำในอนาคตแล้ว 

มีคำถามตามมาว่า แม้จู-แอ จะเป็นทายาทที่คิม จอง-อึน ตั้งใจให้สืบทอดอำนาจต่อจากตนจริง  เหตุใดจึงต้องแนะนำเธอต่อสาธารณะเร็วขนาดนี้ เพราะคิมเองเพิ่งอายุเพียง 39 ปี และลูกสาวของเขาก็ยังเด็ก

มีรายงานว่า คิม ได้รับการเปิดเผยว่า จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากนายคิม จอง-อิล บิดาของเขาเมื่อเขาอายุได้ 8 ขวบ แต่เป็นการแนะนำส่วนตัวต่อผู้นำทางทหารเท่านั้น  และมีเปิดเผยต่อสาธารณชนเพียงหนึ่งปีก่อนที่พ่อของเขาจะเสียชีวิต สิ่งนี้ทำให้เขาเริ่มงานได้อย่างยากลำบาก ในขณะที่เขต้องทำงานหนักอย่างไร้ความปรานีเพื่อรวบรวมอำนาจให้ได้

นักวิเคราะห์มองว่า บางทีเขาอาจกำลังพยายามให้ลูกสาวขึ้นครองอำนาจง่ายขึ้น โดยทำให้แน่ใจว่าตำแหน่งของเธอมั่นคงขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องรับช่วงต่อ หรืออาจเป็นเพราะสุขภาพของเขาไม่ค่อยดีนักก็เป็นได้

นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ เกาหลีเหนือถูกปกครองโดยตระกูลคิมมาสามชั่วอายุคนแล้วประชาชนได้รับการบอกเล่าว่า ครอบครัวนี้มาจากสายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์ นั่นหมายความว่า พวกเขาเท่านั้นที่จะเป็นผู้นำประเทศได้ และคิม จอง-อึน ต้องการแน่ใจว่า จะส่งต่ออำนาจไปสู่รุ่นที่ 4  

นักวิเคราะห์บางคนมองว่า อีกเหตุผลหนึ่งที่คิม จอง อึน อาจต้องใช้เวลามากสักหน่อย  นั่นคือการเอาชนะอคติของสังคมปิตาธิปไตยอย่างลึกซึ้ง  เนื่องจาก เกาหลีเหนือไม่เคยมีผู้หญิงเป็นผู้นำ แม้จะมีผู้หญิงบางคนดำรงตำแหน่งสูงในรัฐบาลก็ตาม เช่น โช ซอน-ฮุย รัฐมนตรีต่างประเทศ และคิม โยจอง น้องสาวของคิม จอง-อึน ในฐานะโฆษกหญิงของรัฐบาล

เจมส์ เฟรตเวลล์ นักวิเคราะห์ของ NK News ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มตรวจสอบเกาหลีเหนือ คิดว่า เป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะมีผู้นำเป็นผู้หญิง เขาระบุว่า ในขณะที่เกาหลีเหนือเป็นสังคมชายเป็นใหญ่ แต่ก็เป็นสังคมที่มีคิมเป็นใหญ่ เหนือสิ่งอื่นใด สายเลือดของคิม จู-แอ จะทำให้เธอมีศักยภาพในการชิงตำแหน่งผู้นำ และคงจะน่าแปลกใจกว่านี้ หากมีคนนอกตระกูลคิมเป็นผู้ปกครองประเทศ

อัน ชาน-อิล ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่ผันตัวมาเป็นนักวิจัยที่สถาบันโลกเพื่อการศึกษาด้านเกาหลีเหนือ ระบุว่า เป็นไปไมได้ที่ผู้หญิงจะเป็นผู้นำเกาหลีเหนือในตอนนี้ 

ไม่มีใครยินดีกับความคิดนี้ หากคิม จอง อึน หายตัวไปในทันที และจู แอ ต้องรับตำแหน่งแทน  

อย่างไรก็ตาม เขามองว่า การแนะนำเธออย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อสาธารณะในช่วงทศวรรษหรือ อีกสองปี ควบคู่ไปกับการศึกษาเชิงอุดมการณ์ น่าจะช่วยได้ พร้อมทิ้งท้ายว่า "ชาวเกาหลีเหนือไม่ค่อยตั้งคำถามว่าใครจะเป็นผู้ปกครอง"

นักวิเคราะห์บางคนบอกว่า คิม จอง-อึน กำลังสร้างโฆษณาชวนเชื่อ ที่สร้างเรื่องราวเกี่ยวกับสถานะใหม่ของผู้หญิง ขณะที่บทบาทสำคัญที่สุดของผู้หญิงเกาหลีเหนือทุกคนยังคงเป็น "การอุทิศตนต่อ 'บิดา' ของพวกเธอ นั่นคือ “คิม จอง อึน" ซึ่งจู แอ แสดงให้เห็นได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

แม้ว่าการรับประกันว่า คิม จู-แอ จะได้ดำรงตำแหน่งผู้นำคนต่อไปของเกาหลีเหนือ จะยังคงห่างไกล แต่จากการปรากฏตัวแต่ละครั้งของเธอ ต้องเหตุผลอย่างแน่นอน และไม่ว่าเธอจะเป็นทายาทของคิมหรือไม่ก็ตาม แต่การปรากฏตัวทุกครั้งของเธอ จะมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นเสมอ

ภาพจาก : รอยเตอร์