วันนี้ผู้เขียนจะมาแชร์เรื่องราวของ ”ทฤษฎีแรงดึงดูด” ตามที่ผู้เขียนเคยทดลองใช้เพราะความสงสัยของตัวเอง พร้อมด้วยวิธีใช้ ”ทฤษฎีแรงดึงดูด” ตามที่ผู้เขียนเคยได้ศึกษามา “ทฤษฎีแรงดึงดูด” ที่ผู้เขียนกล่าวมานี้ถ้าจะทำความเขาใจแบบง่าย ๆ ตามที่ผู้เขียนคิดก็คือ มันเป็นหลักการการดึงดูดความต้องการในสิ่งที่อยากได้อยากเป็นจากความคิดหรือจิตรใต้สำนึกของเรา ทฤษฎีที่ว่านี้มันเป็นหลักการทำงานของจิตรใต้สำนึกที่เชื่อว่าถ้าเราสนใจหรือคิดถึงสิ่งใดมาก ๆ มันจะส่งผลให้เกิดขึ้นจริงในอนาคต มาถึงตรงนี้ผู้อ่านทุกคนคงมีคำถามเกิดขึ้นในใจแล้วใช่ไหมล่ะครับว่า “ฉันก็คิดถึงเรื่องความร่ำรวยมาตลอดทั้งชีวิตแต่ทำไมฉันถึงไม่รวย" ผู้เขียนตอบได้เลยครับว่าคุณไม่รู้วิธีใช้ “ทฤษฎีแรงดึงดูด” ที่ถูกต้องนั้นเองล่ะครับ กล่าวได้ว่าแรงดึงดูดนั้นสามารถใช้เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและในการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมีประสิทธิผลถ้าเราใช้อย่างถูกต้องการใช้ ”ทฤษฎีแรงดึงดูด” แบบเข้าใจงายในชีวิตประจำวันสามารถทำได้โดยการตระหนักถึงสิ่งที่เราให้ความสำคัญและความสนใจ ดังนั้นเพื่อให้สามารถใช้ ”ทฤษฎีแรงดึงดูด” ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เขียนขอแนะนำวิธีการปฏิบัติดังนี้ครับ1. กำหนดเป้าหมาย: คุณจะต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและเหมาะสมกับงานที่คุณกำลังทำหรือสิ่งที่คุณกำลังต้องการ คำถามคือ แล้วการกำหนดเป้าหมายมันจะทำให้สิ่งที่เราต้องการเกิดขึ้นได้อย่างไร ผู้เขียนอธิบายแบบนี้ครับ “ทฤษฎีแรงดึงดูด” มันจะดึงดูดสิ่งที่เราสนใจหรือสิ่งที่เราคิดถึงอยู่บ่อย ๆ เข้ามาและเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยสร้างแรงดึงดูดให้คุณมุ่งมั่นทำในสิ่งที่คุณต้องการให้สำเร็จได้อีกด้วยครับ2. ให้ความสำคัญกับงานที่ทำหรือสิ่งที่ต้องการ: ให้ความสำคัญและความสนใจกับงานที่คุณทำหรือสิ่งที่คุณกำลังสนใจ สำหรับข้อนี้ต้องระวังให้ดีนะครับเพราะคุณอาจจะไปให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่ต้องการโดยไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้ ผู้เขียนขอยกตัวอย่างแบบนี้ครับ สมมุติว่าตอนนี้คุณกำลังตกงานและกำลังหางานอยู่ แต่จิตใต้สำนึกของคุณกำลังคิดว่า ทำไมฉันต้องตกงานด้วยหรือกำลังเซ็งที่กำลังตกานอยู่ แบบนี้แสดงว่าจิตใต้สำนึกของคุณกำลังสนใจคำว่า “ตกงาน” แล้ว ”ทฤษฎีแรงดึงดูด” มันจะทำงานโดยการดึงดูดคำว่า “ตกงาน” มาให้คุณแทนเพราะฉะนั้นวิธีใช้ “ทฤษฎีแรงดึงดูด” ที่ถูกวิธีคุณจะต้องให้ความสนใจกับคำว่า “ฉันจะต้องมีงานทำและหางานให้ได้” แล้ว “ทฤษฎีแรงดึงดูด” จะดึงดูดสิ่งที่คุณสนใจเข้ามาหาคุณเอง กล่าวคือการให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณต้องการจะช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งนั้นให้สำเร็จได้ครับ3. ใช้ความคิดบวก: มองหามุมมองที่ดีในการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ ภาวะการคิดบวกจะช่วยสร้างพลังบันดาลใจและแรงดึงดูดให้กับชีวิตคุณ อันที่จริงเราสามารถคิดบวกได้ในทุกสถานการณ์แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่คุณคิดว่ามันเป็นจังหวะที่ไม่ดีของคุณแต่ถ้าเรารู้จักการคิดบวกเราจะเห็นมุมมองที่ดีที่ช่อนอยู่ในช่วงจังหวะที่คุณคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่แย้สำหรับคุณ ผู้เขียนจะยกตัวอย่าง เช่น สมมุติว่าคุณกำลังเดินออกจากปากซอยแล้วอยู่ดี ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์มาเฉี่ยว แทนที่คุณจะคิดว่าวันนี้ซวยจริง ๆ เลยเดินอยู่ดี ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์มาเฉี่ยว แต่คุณควรจะมองว่าโชคดีจังที่ไม่โดนมอเตอร์ไซค์ชน เพราะถ้าคุณมัวแต่คิดว่าโดนมอเตอร์ไซค์เฉี่ยว แรงดึงดูดก็จะคิดว่าคุณสนใจสิ่งนั้นแล้วมันก็จะดึงดูดสิ่งนั้นเขามาหาคุณอีก4. พัฒนาทักษะ: พัฒนาทักษะและความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณสนใจ เมื่อคุณมีความรู้และทักษะในสิ่งนั้น คุณจะมีความมั่นใจและแรงดึงดูดในการทำในสิ่งที่คุณสนใจให้สำเร็จ วิธีนี้มันเป็นการทำให้ตัวคุณอยู่ในระนาบเดียวกันกับสิ่งที่คุณต้องการแล้ว “ทฤษฎีแรงดึงดูด” ก็จะดึงดูดในสิ่งที่คุณต้องการมาหาคุณเองครับ5. สร้างบรรยากาศที่สนับสนุน: สร้างบรรยากาศที่สนับสนุน ก็คือไม่ว่าคุณต้องการอะไรก็ตามคุณควรนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่จะผักดันให้คุณได้เข้าไกล้สิ่งนั้นได้มากที่สุดและกระตือรือร้นสำหรับการทำในสิ่งที่คุณต้องการให้สำเร็จ การมีสิ่งแวดล้อมที่ทำงานร่วมกับคุณได้ดีจะสนับสนุนและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของคุณแล้วยังจะช่วยเสริมแรงบันดาลใจและจะดึงดูดในสิ่งที่ต้องการเข้ามาหาคุณเอง6. ค้นหาแรงบันดาลใจ: ค้นหาแรงบันดาลใจจากภายนอก เช่น การหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการหรือรับคำปรึกษาจากผู้ที่เคยประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณต้องการมาก่อน จะช่วยเพิ่มความกระตือรือร้นและแรงบันดาลใจในการทำในสิ่งที่คุณต้องการให้สำเร็จ และแน่นอนครับ “ทฤษฎีแรงดึงดูด” ก็จะทำงานโดยดึงดูดในสิ่งที่คุณต้องการเข้ามาหาคุณเช่นกันครับ7. รักษาสมดุล: รักษาสมดุลในชีวิตประจำวัน โดยการให้เวลาสำหรับการพักผ่อนและการทำกิจกรรมที่สนุกสนานผ่อนคลายไม่ทำตัวเองให้เครียดเพราะว่าถ้าคุณเครียด “ทฤษฎีแรงดึงดูด” ก็จะดึงดูดความเครียดเข้ามาหาคุณเช่นกัน และในทางกลับกันถ้าคุณผ่อนคลายมีจิตใจแจ้มใสร่าเริง “ทฤษฎีแรงดึงดูด” ก็จะดึงดูดแต่สิ่งที่ดีที่ทำให้คุณสาบใจเข้ามาหาคุณเช่นกันครับ ซึ่งมันจะทำให้คุณมีพลังงานในการทำในสิ่งที่คุณต้องการให้สำเร็จได้ครับสำหรับตัวผู้เขียนเองคิดว่า การใช้ ”ทฤษฎีแรงดึงดูด” ให้ได้ในสิ่งที่ต้องการนั้น เป็นกระบวนการที่ต้องมีความตั้งใจและพยายามด้วยตนเอง ผู้เขียนหวังว่าทุกคนจะนำเอาหลักการและกลยุทธ์ดังกล่าว มาปรับใช้อย่างต่อเนื่องเชื่อว่าทุกคนจะสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทุกคนต้องการได้อย่างมีประสิทธิผลอย่างแน่นอนครับขอขอบคุณภาพประกอบจาก freepik.com ภาพปกโดย @pikisuperstar จาก freepik.comภาพที่ 1 โดย @asier_relampagoestudio จาก freepik.com ภาพที่ 2 @ijeab จาก freepikภาพที่ 3 โดย @wayhomestudio จาก freepik.com ภาพที่ 4 โดย @rawpixel.com จาก freepik.comภาพที่ 5 โดย @rawpixel.com จาก freepik.com ภาพที่ 6 โดย @freepik จาก freepik.comภาพที่ 7 โดย @creativeart จาก freepik.com ภาพที่ 8 @yanalya จาก freepik.comภาพที่ 9 โดย @rawpixel.com จาก freepik.com7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์