รีเซต

'บิ๊กป้อม' ผอ.กองอำนวยการน้ำฯ ห่วง 9 จังหวัดน้ำท่วม เร่งทุกหน่วยงานช่วย ปชช.

'บิ๊กป้อม' ผอ.กองอำนวยการน้ำฯ ห่วง 9 จังหวัดน้ำท่วม เร่งทุกหน่วยงานช่วย ปชช.
มติชน
14 กรกฎาคม 2565 ( 18:08 )
98

ข่าววันนี้ 14 กรกฎาคม นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า ตามที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้พบว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบเกิดอุทกภัยขึ้น โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า (ข้อมูลวันที่ 13 ก.ค.65) มี 9 จังหวัด รวม 17 อำเภอ 21 ตำบล 37 หมู่บ้าน ได้แก่ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร จันทบุรี และ ระนอง

 

นายสุรสีห์กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยทั้ง 9 จังหวัด เป็นพื้นที่ที่ กอนช.ได้มีการประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้า พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ เตรียมพร้อมรับมือทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้เร็ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเข้าสู่การฟื้นฟูเยียวยาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สำหรับสถานการณ์ล่าสุดขณะนี้ในเขตพื้นที่ จ.พิษณุโลก ขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์ มุกดาหาร จันทบุรี และระนอง สถานการณ์ได้คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ เหลือเพียง จ.เพชรบูรณ์ และ นครราชสีมา ที่มียังมีพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยปัจจุบันระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

 

นายสุรสีห์กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กอนช. มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ได้สั่งการให้ สทนช.ดำเนินการแจ้งเตือนและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ จ.เพชรบูรณ์ และนครราชสีมาอย่างเต็มที่

 

“สำหรับในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. เวลา 18.00 น. ได้เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมในพื้นที่ ต.ในเมือง ต.น้ำร้อน อ.เมือง ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ ต.ศาลาลาย อ.ชลแดน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 24 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 2 (สทนช.ภาค 2) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ อ.หล่มสัก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

“ระดับน้ำและทางระบายน้ำในพื้นที่บริเวณฝายศรีจันทร์ ต.ท่าอิฐ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีน้ำจาก อ.หล่มเก่า ไหลมาถึงฝายศรีจันทร์ แม่น้ำป่าสักในพื้นที่ หมู่ 4 ขณะที่ฝ่ายริมแม่น้ำป่าสักฝั่งซ้าย หมู่ 5 ต.ห้วยไร่ ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเตือนภัยระดับ ธงสีแดง ส่วนสะพานตาลเดี่ยว เป็นเขตรอยต่อเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก-ต.ตาลเดียว ปริมาณน้ำเริ่มล้นตลิ่งบ้างเล็กน้อย โดยพื้นที่ที่ต่ำฝั่งเทศบาลตำบลตาลเดี่ยวได้มีการเตือนภัยระดับ ธงสีแดง เพื่อแจ้งเตือนระดับน้ำที่จะล้นตลิ่งเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลตาลเดี่ยว และอาสาสมัครต่างๆ ได้บรรจุถุงกระสอบทรายให้กับประชาชน เพื่อใช้ในการบรรเทาผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งของแม่น้ำป่าสักและลำน้ำพุง” รองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติกล่าว

 

นายสุรสีห์กล่าวว่า กู้ภัยกกไทร อ.หล่มสัก ได้จัดกำลังพลอาสาสมัครกู้ภัย จำนวน 20 นาย เรือ 3 ลำ สนับสนุนช่วยเหลือในเขตตำบลสักหลงและห้วยไร่ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักเมื่อวันที่ 13 ก.ค. และเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.พิมาย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานในพื้นที่ อาสาสมัคร จิตอาสามูลนิธิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือแล้ว ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้วเช่นกัน

“ใน วันที่ 15 ก.ค. กอนช.คาดการณ์ว่าแม่น้ำเลยมีโอกาสน้ำจะล้นตลิ่งที่ อ.เมือง จ.เลย ซึ่ง สทนช.ในฐานะเลขานุการ กอนช.จะติดตามประเมินสถานการณ์ เพื่อประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังและลดผลกระทบให้ประชาชนในช่วงฤดูฝนนี้ในทุกพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด” นายสุรสีห์กล่าว

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง