เปิด 8 มาตรการ “ฟื้นฟู-เยียวยา” หาดใหญ่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

8 มาตรการ “ฟื้นฟู-เยียวยา” หาดใหญ่

วันนี้ (28 พ.ย. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการทุกหน่วยงานเร่งพิจารณาการฟื้นฟูและเยียวยา  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทุกมิติ ผ่าน 8 มาตรการสำคัญ ดังนี้

1. พักหนี้ พักต้น พักดอกเบี้ย ธนาคารพาณิชย์ - รัฐ รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นเวลา 1 ปี

2. เงินกู้เพื่อการยังชีพและประกอบอาชีพ 100,000 บาท ไม่มีดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน ระยะเวลาเงินกู้ 3 ปี

3. เงินกู้เพื่อการซ่อมแซมที่พักอาศัย 100,000 บาท ไม่มีดอกเบี้ย เป็นเวลา 1 ปี ระยะเวลาเงินกู้ 3 ปี โดยให้คนในครอบครัวค้ำประกันวงเงินกู้ได้

4. ให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ จ่ายชดเชยความเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัย โดยลดขั้นตอนอำนวยความสะดวกประชาชน

5. สำนักงานประกันสังคม “จ่ายชดเชยสูงสุดทุกกรณี” แก่ผู้ประกันตน

6. เงินชดเชยแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติ รายละ 2,000,000 บาท ในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

7. มาตรการช่วยเหลือ SMEs สนับสนุนฟื้นฟูธุรกิจกรณีพิเศษ โดยเร็วที่สุด

8. สนับสนุนมาตรการทางภาษี และการจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่หาดใหญ่ และพื้นที่ประสบภัย “สร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นการใช้จ่าย”

ทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อเร่งฟื้นฟู กระตุ้นให้เศรษฐกิจของหาดใหญ่กลับภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ปรับโหมดฟื้นฟูการเยียวยา เตรียมจัด Big Cleaning Da

นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้การช่วยเหลือประชาชน ได้เปลี่ยนโหมดเป็นการฟื้นฟูการเยียวยาแล้ว โดยจะเร่งให้เมืองหาดใหญ่กลับมาอยู่ในสภาพที่เป็นปกติให้ได้เร็วที่สุด ส่วนมาตรการเยียวยาผู้เสียชีวิต จะแบ่งเป็น 2 กรณี 1) กรณีที่ตกค้างไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม และเสียชีวิตก่อนน้ำท่วม จะไม่ได้รับเงินเยียวยา และ 2) กรณีที่เสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำท่วมจะได้รับเงินเยียวยาจากมาตรการภาครัฐ

สำหรับกรณีเงิน 2 ล้านบาทที่จะจ่ายให้ผู้เสียชีวิตนั้น รัฐบาลจะบริหารจัดการงบประมาณ โดยจะใช้งบในส่วนของกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้สำนักงบประมาณพิจารณานำงบกลางมาเสริม หากวงเงินของกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรีไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้น ศพที่ตกค้างอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เป็นศพที่รอญาติมารับก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม และต่อมาได้ถูกย้ายไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตปะปนกัน 

ดังนั้น วิธีการดำเนินงานที่ถูกต้อง คือการตรวจสอบข้อมูลรายกรณี ซึ่งโรงพยาบาลมีบันทึกข้อมูลอยู่แล้ว จึงสามารถจำแนกว่าเสียชีวิตก่อนหรือหลังเหตุการณ์น้ำท่วมได้อย่างชัดเจน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการข้อมูลกันอย่างครบถ้วนแล้ว เชื่อว่าตัวเลขที่ออกมาก็จะเป็นตัวเลขเดียวกันนับตั้งแต่ 15:00 น. เป็นต้นไป สำหรับหลักเกณฑ์อื่นที่จะเพิ่มเติมให้นั้น นายกรัฐมนตรีจะผู้ชี้แจ้งด้วยตนเองที่หาดใหญ่  

นายสิริพงศ์ฯ กรรมการและโฆษกศูนย์ กล่าวต่อว่า สำหรับเงินเยียวยา 9,000 สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีบัญชีธนาคารออมสิน และบัญชีของธนาครกรุงไทยอยู่แล้วสามารถใช้เป็นบัญชีรับเงินจากทางหน่วยงานได้เลย นายกรัฐมนตรีได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่าในเขตพื้นที่หาดใหญ่และสงขลาเป็นพื้นที่น้ำท่วม 100% เพราะฉะนั้นเรื่องการทำประชาคมหรือกระบวนการขั้นตอนอื่นสามารถที่จะยกเว้นได้ และสามารถจะดำเนินการโอนเงินให้กับพี่น้องประชาชนได้ทันที

สิ่งที่ต้องการทำหลังจากนี้คือ การระดมกำลังของทั้งภาครัฐและจิตอาสาดำเนินการ Big Cleaning ขณะนี้  เปิดรับอาสาสมัครผ่านแอปพิเคชันทางรัฐ ซึ่งมีการลงทะเบียนเข้ามาประมาณ 1,000 คน โดยสิ่งที่จำเป็นมาก คือ ไม้กวาด น้ำยาทำความสะอาด ถุงมือยาง รองเท้ายาง ซึ่งได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว นอกจากนี้นางสาวศุภมาส อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประสานกับภาคเอกชนเพื่อให้นำส่งสิ่งของเหล่านี้แล้ว

“รัฐบาลพร้อมสนับสนุนในทุกสิ่งที่ได้ร้องขอมา สำหรับพี่น้องประชาชนที่ต้องการร่วมเป็นกำลังใจ หรือมีส่วนร่วมกับพี่น้องชาวใต้ รายการสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันทุกอย่างจำเป็นสำหรับประชาชน ส่วนการขนส่งจะมีทั้งส่วนของภาครัฐ กองทัพ หรือในส่วนของภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกขนส่งสินค้า ของใช้ที่มีความจำเป็น พี่น้องประชาชนได้มีความประสงค์จะนำไปช่วยภาคใต้”