ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ต่อสิ่งแวดล้อม | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนน่าจะได้สังเกตกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว และพบว่าสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ๆ ก็หนาวนานขึ้น จากนั้นก็ร้อนมากสลับกันไปมา แถมในบางช่วงก็มีฝนตกลงมาด้วย ซึ่งนอกจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะทำให้หลายคนสับสนในชีวิตแล้ว คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การที่อากาศเปลี่ยนแปลงนั้นมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งคำว่า “สิ่งแวดล้อม” ในที่นี้ ผู้เขียนไม่ได้หมายถึงเฉพาะต้นไม้ สัตว์ป่าหรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ เพราะคนเราก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมค่ะ และความจำเป็นของการรู้เกี่ยวกับผลเสียจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป ก็เพราะเราทุกคนได้รับผลกระทบด้วย ดังนั้นในบทความนี้ผู้เขียนจะมาบอกต่อในประเด็นที่ว่า เราจะต้องเจออะไรบ้างในระหว่างที่สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แบบนี้ต่อไป โดยข้อมูลในนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง ที่รวมไปถึงการหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้กับตัวเองด้วยค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะมีผลเสียอะไรเกิดขึ้นได้บ้าง งั้นเราอ่านต่อกันเลยดีกว่า กับเนื้อหาที่น่าสนใจดังนี้ 1. อุณหภูมิสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดคืออุณหภูมิที่สูงขึ้นทั่วโลก ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่หน้าร้อนที่ยาวนานขึ้น แต่ยังรวมถึงคลื่นความร้อนที่รุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น สิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อคนเรา ทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความร้อนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคประจำตัว 2. รูปแบบสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศไม่ได้ส่งผลกระทบแค่อุณหภูมิที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้รูปแบบสภาพอากาศที่เราคุ้นเคยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สังเกตได้ว่าฤดูกาลต่างๆ เริ่มไม่เป็นไปตามปกติ บางพื้นที่อาจเผชิญกับฤดูฝนที่ยาวนานและมีปริมาณน้ำฝนมากเกินไปจนเกิดน้ำท่วม ในขณะที่บางพื้นที่กลับแห้งแล้งยาวนานจนเกิดวิกฤตการณ์ขาดแคลนน้ำ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เคยเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เช่น พายุที่มีความรุนแรงมากขึ้น หรือการเกิดคลื่นความร้อนและคลื่นความเย็นจัดผิดฤดูกาล กำลังกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและคาดเดาได้ยากขึ้น รูปแบบสภาพอากาศที่แปรปรวนนี้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำการเกษตร การประมง หรือแม้แต่การดำเนินชีวิตประจำวัน 3. ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น การที่ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของน้ำทะเลเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น และการละลายของน้ำแข็งบนบก ทั้งจากธารน้ำแข็งและแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่บริเวณขั้วโลก ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั่วโลก ทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงขึ้น พื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ใกล้ชายฝั่งมีความเสี่ยงที่จะถูกน้ำทะเลท่วมสูงขึ้น นอกจากนี้การรุกล้ำของน้ำเค็มยังส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำจืดและระบบนิเวศชายฝั่ง ทำให้เกิดความเสียหายต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว การตระหนักถึงผลกระทบของการที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนำไปสู่การวางแผนและดำเนินมาตรการป้องกันและปรับตัวที่เหมาะสมสำหรับชุมชนและระบบนิเวศที่เปราะบางต่อภัยคุกคามนี้ค่ะ 4. ทะเลเป็นกรด การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศไม่ได้ส่งผลกระทบแค่บนบกและในชั้นบรรยากาศเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อมหาสมุทรด้วย หนึ่งในผลกระทบที่น่ากังวลคือภาวะที่ทะเลเป็นกรดมากขึ้น เมื่อก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศเพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งจะถูกดูดซับโดยมหาสมุทร ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่เพิ่มความเป็นกรดของน้ำทะเล ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล โดยเฉพาะสัตว์ทะเลที่มีเปลือก เช่น ปะการัง หอย และแพลงก์ตอนบางชนิด เนื่องจากความเป็นกรดที่เพิ่มขึ้นจะทำให้พวกมันสร้างและรักษาเปลือกหรือโครงสร้างเหล่านี้ได้ยากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเลที่ซับซ้อน และมีความสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพและห่วงโซ่อาหาร 5. การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศ หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า การที่มีอุณหภูมิที่สูงขึ้น รูปแบบสภาพอากาศที่แปรปรวน และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น กำลังสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตและถิ่นที่อยู่ พืชและสัตว์หลายชนิดกำลังเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ บางชนิดอาจต้องย้ายถิ่นที่อยู่เพื่อหาพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกว่า ในขณะที่บางชนิดอาจไม่สามารถปรับตัวได้ทันและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ทำให้ห่วงโซ่อาหารและวัฏจักรทางธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศยังส่งผลกระทบต่อมนุษย์โดยตรง เช่น การลดลงของความหลากหลายทางชีวภาพอาจส่งผลกระทบต่อแหล่งอาหาร ยา และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ 6. เกิดโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ รูปแบบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น อุณหภูมิที่สูงขึ้น ปริมาณน้ำฝนที่ผิดปกติและภัยแล้ง อาจส่งผลกระทบต่อวงจรชีวิตและการแพร่กระจายของพาหะนำโรค เช่น ยุง แมลงและสัตว์อื่นๆ ทำให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้สามารถขยายพันธุ์และแพร่กระจายไปยังพื้นที่ที่ไม่เคยมีการระบาดมาก่อน นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศและการสูญเสียถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่า อาจนำไปสู่การใกล้ชิดกันระหว่างสัตว์ป่ากับมนุษย์มากขึ้น เพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากสัตว์สู่คน การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศยังอาจส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ ทำให้ผู้คนอ่อนแอต่อการติดเชื้อมากขึ้นอีกด้วยค่ะ 7. ภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงขึ้น อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศสุดขั้ว เช่น คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมเป็นบริเวณกว้างและมีอุณหภูมิสูงทำลายสถิติ พายุหมุนที่มีกำลังแรงขึ้นและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ในขณะเดียวกันบางพื้นที่กลับเผชิญกับภาวะแห้งแล้งรุนแรงและยาวนานจนเกิดไฟป่าลุกลามได้ง่ายขึ้น ภัยพิบัติเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินโดยตรงเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ที่โดยสรุปแล้วการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภัยพิบัติทางธรรมชาติมีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นค่ะ 8. การขาดแคลนทรัพยากรน้ำ ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก จากที่รูปแบบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ปริมาณน้ำฝนในหลายพื้นที่ไม่แน่นอน บางแห่งมีฝนตกหนักจนเกิดอุทกภัย ในขณะที่บางแห่งกลับเผชิญกับภาวะแห้งแล้งยาวนาน ปริมาณน้ำแข็งและหิมะที่สะสมอยู่บนภูเขาลดลงเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับหลายล้านคน นอกจากนี้อุณหภูมิที่สูงขึ้นยังทำให้เกิดการระเหยของน้ำมากขึ้น ทั้งจากแหล่งน้ำผิวดินและจากดิน ทำให้ปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้ได้ลดลง การขาดแคลนน้ำนี้ส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร อุตสาหกรรม หรือแม้แต่การอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน 9. ผลกระทบต่อเกษตรกรรม อุณหภูมิที่สูงขึ้นและรูปแบบสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น ภัยแล้งที่ยาวนาน น้ำท่วมฉับพลัน และพายุที่รุนแรงขึ้น สร้างความเสียหายโดยตรงต่อผลผลิตทางการเกษตร ทำให้พืชผลไม่เจริญเติบโตตามปกติ ผลผลิตลดลงหรือเสียหายทั้งหมด และการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลและปริมาณน้ำฝนยังส่งผลกระทบต่อวงจรชีวิตของศัตรูพืชและโรค ทำให้เกษตรกรต้องเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมและป้องกันมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อปริมาณอาหารที่ผลิตได้ แต่ยังกระทบต่อคุณภาพของผลผลิต และอาจนำไปสู่ความไม่มั่นคงทางอาหารและราคาอาหารที่สูงขึ้น จากผลเสียทั้งหมดจะเห็นได้ว่า หลายเรื่องก็เป็นเรื่องใกล้ตัวของเรา และในหลายพื้นที่ก็กำลังประสบปัญหานั้นอยู่ อย่างในกรณีของชุมชนที่นี่ ผู้เขียนมีข้อมูลว่าสัตว์ป่าขาดแหล่งอาหาร จนทำให้พากันออกมาหากินในพื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งแบบนี้นอกจากผลผลิตทางการเกษตรจะถูกทำลายแล้วโรคภัยต่างๆ จากสัตว์กลุ่มนี้มีโอกาสแพร่กระจายไปในหลายพื้นที่ได้ค่ะ อีกทั้งยังพบว่าในหน้าร้อนทรัพยากรน้ำขาดแคลน ผลผลิตทางการเกษตรลดลง เช่น มะพร้าวน้ำหอมที่สวนออกดอกดกจริง แต่ไม่ติดดอก และได้ผลผลิตน้อย ทำให้รายได้จากการขายมะพร้าวน้อยลงไปด้วยค่ะ แล้วคุณผู้อ่านล่ะคะ พบหรือกำลังประสบกับปัญหาไหนอยู่ แต่ถ้ายังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังความเสียหาย ก็ให้นำข้อมูลในบทความนี้ไปเป็นแนวทางค่ะ อย่างไรก็ตามปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เวลาเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าปัญหานั้นจะเป็นด้านใดก็ตาม ปัญหาจะกลายเป็นส่วนรวม เพราะเวลาอุณหภูมิสูงขึ้น ไม่ได้เพิ่มขึ้นเพียงบ้านใดบ้านหนึ่ง หรือรับรู้ได้ว่าอุณหภูมิสูงขึ้นที่คนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่เราทุกคนในโลกใบนี้เจอกันหมด ดังนั้นการหันมาใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมจึงมีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบันค่ะ และผู้เขียนหวังว่าเนื้อหาในบทความนี้จะสามารถเป็นแนวทางให้กับคุณผู้อ่านได้บ้าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะเพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆนี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Tahir Shaw จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1, 4 โดยผู้เขียน, ภาพที่ 2 โดย 文毅 歐陽 จาก Pexels และภาพที่ 3 โดย Owen.outdoors จาก Pexels ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่เกี่ยวข้องโดยผู้เขียน 7 วิธีปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ในที่อยู่อาศัย ให้น่าอยู่ ดีต่อสุขภาพ 11 วิธีป้องกันโรคไข้เลือดออก ทำยังไงดี ด้วยตัวเอง จากที่บ้าน 6 แมลงที่บ่งชี้คุณภาพอากาศ ก่อนที่จะมีฝนตก เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !