11 วิธีลด PM2.5 ในสิ่งแวดล้อม จากเรื่องใกล้ตัวเรา มีอะไรบ้าง เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนอาจคิดว่าการลด PM2.5 เป็นเรื่องไกลตัว หรือเป็นหน้าที่ของภาครัฐเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วเราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหานี้ได้ง่ายๆ จากเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันค่ะ โดยหลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า หากเราจะแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม จากเรื่องใกล้ของตัวเรา จากที่บ้านของเรา เราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งถ้าตอนนี้ยังบอกตัวเองไม่ได้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ก็ยังไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะในบทความนี้ผู้เขียนจะบอกต่อวิธีง่ายๆ ที่คุณผู้อ่านสามารถเริ่มต้นได้ทันที เพื่อลดการเกิดและลดการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเอง และสร้างอากาศที่สะอาดขึ้นให้กับทุกคน โดยอ่านจบแล้วคุณผู้อ่านจะได้ไอเดียจากเรื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปลงมือทำในทุกๆ วัน โดยหลายแนวทางก็เป็นแนวทางที่หลายคนคิดไม่ถึงมากก่อน ดังนั้นต้องอ่านต่อค่ะ กับเนื้อหาที่น่าสนใจต่อไปนี้ 1. ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ/เดิน/ปั่นจักรยานแทนการขับรถส่วนตัว การลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ในสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่เราทุกคนมีส่วนช่วยได้ง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทาง จากที่อาจจะเคยการขับรถยนต์ส่วนตัวมาใช้เป็นประจำทุกวัน มาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือการเดินและปั่นจักรยานมากขึ้น สาเหตุหลักคือรถยนต์ส่วนตัวเป็นแหล่งกำเนิดสำคัญของฝุ่น PM2.5 จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงและไอเสีย ยิ่งมีรถยนต์บนท้องถนนมากเท่าไหร่ มลพิษทางอากาศก็ยิ่งสูงขึ้น การหันมาใช้ทางเลือกอื่นๆ ไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยมลพิษโดยตรง แต่ยังช่วยลดปริมาณรถติด ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 ค่ะ 2. ดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรถนานๆ การดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรถเป็นเวลานานๆ เป็นวิธีง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดฝุ่น PM2.5 ในสิ่งแวดล้อมได้มากค่ะ เพราะเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเบาหรือการขับเคลื่อน ย่อมมีการเผาไหม้เชื้อเพลิงและปล่อยไอเสียออกมา ซึ่งในไอเสียเหล่านี้มีสารมลพิษต่างๆ รวมถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ด้วย การที่เราจอดรถทิ้งไว้โดยไม่ดับเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ก็จะยังคงทำงานและปล่อย PM2.5 ออกมาเรื่อยๆ ยิ่งจอดนานเท่าไหร่ ปริมาณ PM2.5 ที่ถูกปล่อยออกมาก็ยิ่งสะสมมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นการดับเครื่องยนต์เมื่อจอดนานๆ จึงเป็นการหยุดแหล่งกำเนิด PM2.5 ชั่วคราว ซึ่งมีส่วนช่วยลดการสะสมของมลพิษในอากาศโดยรวม และทำให้เราทุกคนมีอากาศที่สะอาดขึ้นค่ะ 3. ดูแลรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า การดูแลรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญที่ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ในสิ่งแวดล้อมได้จริงค่ะ เพราะรถยนต์ที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ เช็กไส้กรองอากาศ และตรวจสอบระบบเผาไหม้เครื่องยนต์อยู่เสมอ จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเผาไหม้เชื้อเพลิงก็จะสมบูรณ์มากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณไอเสียที่ปล่อยออกมามีมลพิษน้อยลง รวมถึงฝุ่นละอองขนาดเล็กด้วย ในทางกลับกันรถยนต์ที่ขาดการดูแล เครื่องยนต์อาจทำงานผิดปกติ เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้มีการปล่อยควันดำและมลพิษต่างๆ ออกมามากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเพิ่มขึ้นของฝุ่น PM2.5 ในอากาศ การดูแลรักษารถยนต์ของเราให้ดีอยู่เสมอ จึงไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ แต่ยังเป็นการร่วมมือกันสร้างอากาศที่สะอาดขึ้นให้กับทุกคนค่ะ 4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หลายคนอาจไม่รู้ว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบางชนิด โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง เมื่อเราใช้งานหรือเททิ้งลงสู่ระบบระบายน้ำ สารเคมีเหล่านั้นสามารถระเหยกลายเป็นไอหรือทำปฏิกิริยากับสารอื่นๆ ในอากาศ ที่สามารถก่อให้เกิดสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการเกิดฝุ่น PM2.5 ในชั้นบรรยากาศได้ค่ะ นอกจากนี้การผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้สารเคมีรุนแรง ก็มีส่วนในการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมในขั้นตอนการผลิต ดังนั้นการหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติ มีส่วนผสมที่ย่อยสลายง่ายและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นการช่วยลดแหล่งกำเนิดสารตั้งต้นของ PM2.5 ได้ตั้งแต่ต้นทาง ที่สามารถทำให้สิ่งแวดล้อมโดยรวมให้ดีขึ้นได้ค่ะ 5. ปลูกต้นไม้ในบ้านและบริเวณโดยรอบ การปลูกต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือบริเวณรอบๆ บ้าน เป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ เพราะต้นไม้มีใบและลำต้นที่ทำหน้าที่เหมือนเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ จึงสามารถดักจับฝุ่นละออง PM2.5 ที่ลอยอยู่ในอากาศได้ ทั้งยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสารมลพิษอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝุ่น PM2.5 อีกด้วย นอกจากนี้การปลูกต้นไม้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ ลดอุณหภูมิและสร้างร่มเงา ทำให้สภาพแวดล้อมโดยรวมดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยลดการเกิดฝุ่น PM2.5 จากกิจกรรมบางอย่างที่เกี่ยวกับการเผาไหม้และอากาศแห้งร้อน ซึ่งการมีต้นไม้จึงไม่ได้แค่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังเป็นเกราะป้องกันมลพิษทางอากาศที่ดีที่สุดจากธรรมชาติอีกด้วยค่ะ 6. งดการเผาขยะ/ใบไม้/กิ่งไม้ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การที่เรางดการเผาขยะ กิ่งไม้หรือใบไม้ เป็นวิธีที่สำคัญและตรงจุดที่สุดในการช่วยลดฝุ่น PM2.5 ในสิ่งแวดล้อมได้ทันทีเลยค่ะ เพราะการเผาไหม้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร การเผาขยะในครัวเรือน หรือแม้แต่การเผากิ่งไม้ใบไม้ที่ร่วงหล่น ต่างก็เป็นแหล่งกำเนิดสำคัญของฝุ่นละอองขนาดเล็กโดยตรงทั้งสิ้น ลองนึกภาพดูว่า เมื่อมีการเผาไหม้เกิดขึ้น ควันไฟที่ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศจะเต็มไปด้วยอนุภาคเล็กๆ รวมถึงสารเคมีและมลพิษอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อคนเรา ยิ่งเราเผามากเท่าไหร่ ปริมาณ PM2.5 ในอากาศก็ยิ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการหยุดกิจกรรมการเผาขยะ ใบไม้และกิ่งไม้ จึงเป็นการตัดต้นตอของการเกิดฝุ่น PM2.5 ที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้เราและคนรอบข้างมีอากาศที่สะอาดในการหายใจค่ะ 7. ลดการใช้สเปรย์และผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี หลายคนอาจไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กันบ่อยๆ เช่น สเปรย์ฉีดผม สเปรย์ปรับอากาศ น้ำหอม หรือแม้แต่น้ำยาทำความสะอาดบางชนิด มีส่วนประกอบของสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds; VOCs) เมื่อสารเหล่านี้ถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศ จะทำปฏิกิริยากับแสงแดดและสารอื่นๆ ในอากาศ จนก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กขึ้นมาได้ ซึ่งสาร VOCs ไม่เพียงเป็นต้นเหตุของ PM2.5 เท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อคนได้โดยตรงเมื่อสูดดมเข้าไป ดังนั้นการลดการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ หรือหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงเป็นการช่วยลดปริมาณสารตั้งต้นของ PM2.5 ในอากาศ และทำให้เรามีอากาศที่สะอาดมากขึ้นในการหายใจค่ะ 8. หลีกเลี่ยงการจุดธูป เทียน หรือเตาถ่านในที่อับอากาศ รู้ไหมคะว่า การที่เราหลีกเลี่ยงการจุดธูป เทียน หรือเตาถ่านในที่อับอากาศ เป็นสิ่งสำคัญมากในการช่วยลดฝุ่น PM2.5 ในสิ่งแวดล้อม เพราะการเผาไหม้ของสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการจุดธูปบูชาพระ การใช้เทียนให้แสงสว่าง หรือการใช้เตาถ่านประกอบอาหาร ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กและควันพิษจำนวนมากได้โดยตรง ยิ่งถ้าอยู่ในพื้นที่ที่อากาศไม่ถ่ายเทหรือเป็นที่อับลม ควันและฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นจะไม่มีทางระบายออกไปไหน ทำให้ปริมาณฝุ่นสะสมอยู่ในบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วและเข้มข้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อคนเราอย่างมาก การงดกิจกรรมเหล่านี้ในที่อับอากาศ หรือถ้าจำเป็นต้องใช้ ก็ควรทำในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกมากๆ จะช่วยลดการสะสมของ PM2.5 ในบ้านและรอบๆ ตัวเราได้อย่างมีนัยสำคัญค่ะ 9. ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายลดมลพิษจากทุกภาคส่วน การส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายลดมลพิษจากทุกภาคส่วน เป็นหัวใจสำคัญในการต่อสู้กับฝุ่น PM2.5 ค่ะ เพราะปัญหา PM2.5 ไม่ได้เกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง แต่มาจากหลายแหล่งพร้อมๆ กัน ทั้งจากภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง การเกษตร การเผาไหม้ในที่โล่ง ไปจนถึงกิจกรรมในครัวเรือนของเราเอง การแก้ปัญหาจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่ภาครัฐ แต่รวมถึงภาคเอกชน ประชาชน และชุมชนต่างๆ ด้วย ซึ่งนโยบายที่ครอบคลุมและได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน จะช่วยให้มาตรการลดมลพิษถูกนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงาน การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่ดีขึ้น หรือแม้แต่การให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการลดการเผาในที่โล่ง เมื่อทุกภาคส่วนหันมาร่วมมือกัน ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในภาพรวมก็จะลดลงอย่างยั่งยืน ทำให้เราทุกคนมีอากาศที่สะอาดขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริงค่ะ 10. เลือกใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือน โดยปกติแล้วการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ยังคงพึ่งพาการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งกระบวนการเผาไหม้เหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดสำคัญของฝุ่นละอองขนาดเล็กและมลพิษทางอากาศอื่นๆ ค่ะ แต่ถ้าเราหันมาใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือนมากขึ้น เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน หรือการเลือกซื้อไฟฟ้าจากผู้ให้บริการที่ใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน การใช้พลังงานนะอาดจะช่วยลดการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลลงได้ ยิ่งมีการใช้พลังงานสะอาดมากเท่าไหร่ การปล่อยมลพิษจากโรงไฟฟ้าและแหล่งพลังงานอื่นๆ ก็จะลดลงตามไปด้วย ที่ส่งผลให้ปริมาณ PM2.5 ในอากาศลดลง และทำให้เรามีอากาศที่สะอาดขึ้นเพื่อคุณภาพที่ดีของทุกคนในระยะยาวค่ะ 11. เผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชน การเผยแพร่ความรู้และการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ให้กับประชาชนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยลดปัญหานี้ได้ค่ะ เพราะเมื่อประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ PM2.5 คืออะไร มาจากไหน มีผลกระทบต่อคนเราอย่างไร และเราจะป้องกันหรือมีส่วนร่วมลดได้อย่างไรบ้าง ทุกคนในประเทศก็จะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม และเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหานี้ได้อย่างแท้จริงค่ะ ตัวอย่างเช่น การที่ประชาชนรู้ว่าการเผาในที่โล่งเป็นสาเหตุสำคัญของ PM2.5 คนในพื้นที่นั้นก็จะงดการเผา หรือหากรู้ว่าการดูแลรถยนต์ช่วยลดการปล่อยควันดำได้ ก็จะนำรถไปตรวจเช็กสม่ำเสมอ นอกจากนี้ความตระหนักรู้ยังช่วยให้เกิดการเรียกร้องและสนับสนุนนโยบายจากภาครัฐและภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดมลพิษ จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาคได้ การสร้างความเข้าใจร่วมกันในสังคมจึงเป็นรากฐานสำคัญ ที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหา PM2.5 ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวค่ะ ที่โดยสรุปแล้วปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้น ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องที่เราทุกคนสามารถร่วมมือกันแก้ไขได้ เริ่มต้นง่ายๆ จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การดับเครื่องยนต์เมื่อจอดนานๆ ดูแลรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งาน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการปลูกต้นไม้รอบบ้าน และที่สำคัญคือการงดการเผาขยะหรือเศษกิ่งไม้ใบไม้ กิจกรรมเล็กๆ เหล่านี้ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่เมื่อทุกคนร่วมมือกันทำ ก็จะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อการลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอากาศได้อย่างมหาศาลค่ะ นอกจากนี้การลดการใช้สเปรย์และผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี การหลีกเลี่ยงการจุดธูปเทียนในที่อับอากาศ การเลือกใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือน รวมถึงการร่วมกันสนับสนุนนโยบายลดมลพิษจากทุกภาคส่วน และการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ PM2.5 ให้กับคนรอบข้าง ล้วนเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้ภาพรวมของปัญหา PM2.5 ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เพราะอากาศที่เราหายใจคือสิ่งที่เราใช้ร่วมกัน การดูแลสิ่งแวดล้อมให้ปราศจากมลพิษจึงเป็นความรับผิดชอบของทุกคน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตัวเราเองและคนที่เราห่วงใยนะคะ โดยหลายๆ อย่างจากเนื้อหาข้างต้นผู้เขียนได้นำมาประยุกต์ใช้เหมือนกันค่ะ ซึ่งล่าสุดคือได้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เข้ากับปั๊มน้ำบาดาลแบบโซล่าเซลล์ เลือกใช้ไฟโซล่าเซลล์ในพื้นที่ครัวแบบเปิดโล่ง ที่ปกติโดยส่วนตัวให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ และไม่ค่อยได้ใช้สเปรย์กำจัดแมลงหรือสเปรย์ปรับอากาศมากนัก ซึ่งแนวทางอื่นๆ ก็นำมาใช้มากบ้างน้อยบ้าง ตามสถานการณ์จริงในชีวิตประจำวันค่ะ ที่พยายามหาทางทำอย่างต่อเนื่อง ยังไงนั้นอยากเชิญชวนคนไทยทุกคนให้หันมาช่วยกันลดฝุ่น PM2.5 จากเรื่องใกล้ตัวกันค่ะ เพราะเราทุกคนสามารถร่วมด้วยช่วยกันได้ ที่อาจเป็นการเริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อนก็ได้นะคะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Rawpixel.com จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย Danila Perevoshchikov จาก Pexels, ภาพที่ 2-3 โดยผู้เขียน และภาพที่ 4 โดย Mark Stebnicki จาก Pexels เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 แหล่งกำเนิด PM 2.5 ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่สามารถคุกคามสุขภาพได้ ทำไมควรดูแลบ้าน ทำให้หน้าบ้านน่ามอง และมีสิ่งแวดล้อมดี 8 ผลเสียที่เกิดจากการเผา ตอซังและฟางข้าว ในการเกษตร เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !