ความรัก ไม่เคยมีขอบเขตของมัน และมักจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ประโยคนี้หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินและได้ฟังมาบ่อยจนนับไม่ถ้วนแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ที่ผู้เขีนอยากจะสื่อสารคือ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน ฐานะเป็นยังไง หรือเพศและวัยอะไรก็ตามแต่ ชีวิตเราทุกคนมักจะมีพลังขับเคลื่อนชีวิตที่เรียกว่า "ความรัก" กันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นความรักในรูปแบบของครอบครัว พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือความรักแบบเพื่อนและคนรัก เป็นสิ่งที่ทุก ๆ คนใช้เป็นพลังใจในการมีชีวิตต่อไปในทุก ๆ วัน ที่ผู้เขียนเกริ่นถึงนิยามความรักแบบนี้เพราะหนังเรื่อง The Half Of It รักครึ่ง ๆ กลาง ๆ หนังเรื่องใหม่บน Netflix จะพาคุณไปพบกับเรื่องราวความรักในรูปแบบต่าง ๆ ที่ผู้เขียนได้เกริ่นไปเมื่อข้างต้นที่คุณผู้อ่านได้เห็น หนังเรื่องนี้จะพาคุณไปพบกับเรื่องราวความรักวุ่น ๆ ของวัยรุ่นสาวเอเชียคนหนึ่งมีชื่อว่า 'เอลลี่ ชู' เด็กสาวที่มีเชื้อชาติจีนที่ต้องมาอาศัยอยู่ในเมือง 'สควอเฮมิส' ของอมาริกาตั้งแต่ยังตัวเล็ก ๆ ซึ่งพ่อของเธอมีอาชีพเป็นนายสถานีรถไฟของเมืองนี้ แถมเธอยังถูกบูลลี่ด้วยเพราะเชื้อชาติของเธอ และด้วยปัญหาด้านการเงินของครอบครัวของเธอทำให้เธอต้องรับจ๊อบเพื่อหาเงินมาประทังชีวิตของตัวเอง รวมถึงรับจ้างเขียนจดหมายรัก และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เธอต้องรับจ้างเขียนจดหมายรักให้แก่หนุ่มนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลชื่อว่า 'พอล มันสกี้' ที่แอบหลงรักและอยากจะจีบ 'เอสเตอร์ โฟลเรส' สาวที่มีใจรักศิลปะ และเพราะความช่วยเหลือของเอลลี่ในการเป็นแม่สื่อให้พอลนั้น ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนที่เข้าใจกันมากขึ้น แถมพอลยังคอยปกป้องเอลลี่จากการถูกรังแกอีกด้วย แต่เมื่อนานวันเข้าเรื่องราวความรักทั้งหมดก็เริ่มซับซ้อนขึ้นเมื่อเอลลี่ได้รู้ตัวว่า เธอเองก็หลงรักเอสเตอร์อยู่เหมือนกัน กลายเป็นเรื่องราวของรักสามเศร้าเราสามคน เอาล่ะผู้เขียนไม่อยากสปอยเนื้อเรื่องที่เหลือ อยากให้ลองไปติดตามชมกันดูนะคะ บน NETFLIX วันนี้ ซึ่งสามารถรับชใผ่านกล่อง TrueID ได้แล้วด้วย แต่ ๆ เรื่องราวความรักสามเศร้าของทั้ง 3 สามคน ไม่น้ำเน่าจนเกินไปเหมือนกับหนังรัก ๆ เรื่องอื่น ๆ แน่นอนค่ะ เพราะหนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบของหนังที่ค่อนข้างดีทีเดียว มีการนำเสนอปรัชญาความคิดด้านความรักของตัวละครให้เราติดตาม และนิยามความรักต่าง ๆ ที่จะชวนให้คนดูได้คิดตาม นอกจากคามรักของวัยหนุ่มสาวแล้ว เรื่องนี้ยังเสนอมุมมองความรักของครอบครัวอีกด้วย และองค์ประกอบอีกอย่างที่ไม่พูดถึงเลยของหนังเรื่องนี้คือ คนตรีประกอบที่เป็นสิ่งที่เพิ่มอรรถรสในการรับชมของเราได้ดีทีเดียว ทำให้เรื่องราวของตัวละมีสีสันมากขึ้น ถือว่าเป็นหนังรักโรแมนติคคอมเมดี้ ที่ควรค่าแก่การดูจริง ๆคะแนน 9/10 : โดยรวมของหนังถือว่าเป็นหนังรักวัยรุ่นที่แตกต่างและสร้างออกได้ดีทีเดียว ดำเนินเรื่องราวที่ทำให้คนดูอย่างเราคาดเดาตัวละครยาก มีการหักมุมที่เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ที่เราหักไป 1 คะแนนเพราะว่าเรื่องราวของหนังเรื่องนี้บกบอกว่าเป็นหนังรักก็จริง แต่ว่ากลับไม่ค่อยมีฉากโรแมนติกให้เราได้ฟินเหมือนกับหนังรักวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป แต่ยังไงก็ยังถือว่าเป็นหนังน้ำดีอีกเรื่องที่ควรดูจริง ๆ แน่นอนว่าทุกคนจะไม่ผิดหวังกับหนังเรื่องนี้แน่นอนค่ะ เพราะว่าเป็นหนังที่ทางผู้กำกับอย่าง อลิส วู ได้นำเรื่องราวจากชีวิตจริงของตัวเธอเองมาดัดแปลงกับบทและเนื้อหาของหนังให้มีความน่าสนใจและเข้มข้นขึ้น การันตีจากผลงานการกำกับของเธอก่อนหน้านี้อย่างเรื่อง Saving Face ที่เคยได้รับรางวัลมาแล้ว จนทำให้ทาง NETFLIX ถึงกับทุ้มทุนสร้างให้หนังเรื่องนี้ของเธอได้ประสบความสำเร็จและปังอีกเรื่อง ไม่แพ้หนังรักวัยรุ่นเรื่องอื่น ๆ แน่นอนเครดิตรูปภาพ : ภาพที่ 1-3 จากตัวอย่างหนัง The half of if / ภาพที่ 4