พัทลุงผวาอีก! เจอคลัสเตอร์ครอบครัว ป.2 ตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสเสี่ยง 120 คน
พัทลุงผวาอีก! เจอคลัสเตอร์ครอบครัวนักเรียนชั้น ป.2 ติดโควิด เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสเสี่ยง 120 คน แจกถุงยังชีพครอบครัวที่กักตัว
วันที่ 3 ก.ค.64 ที่บริเวณศูนย์ส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านสมหวัง อ.กงหรา จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง พร้อมแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลกงหรา ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองค้นหาเชื้อเชิงรุก หลังพบมีกลุ่มเสี่ยงสูงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย คลัสเตอร์ใหม่บ้านสมหวัง ท้องที่หมู่ 3 โดยผู้ปกครองชาย วัย 38 ปี มีไข้ หลังจากเดินทางส่งของหลายจุด ใน จ.พัทลุง แต่ไม่ทราบว่าติดเชื้อมาจากพื้นที่ใด ก่อนเข้าตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น บุคคลในครอบครัวภรรยาและลูก ที่เป็นนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านสมหวัง ติดเชื้อ และเพื่อนบ้านรวม 8 ราย ทำให้วันนี้เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ เร่งลงพื้นที่คัดกรอง นักเรียนชั้น ป.2 ของโรงเรียนบ้านสมหวัง รวมถึงผู้ปกครอง รวม 120 คน เพื่อตรวจหาเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ดังกล่าว
ขณะที่เทศบาลตำบลสมหวัง อ.กงหรา ได้นำถุงยังชีพ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่สัมผัสเสี่ยงสูง จากผู้ป่วยรายแรกครอบครัวนักเรียนชั้น ป.2 ในเบื้องต้น 16 ครอบครัว ที่กักตัวอยู่บริเวณบ้านพัก ท้องที่ ม.3 ต.สมหวัง อ.กงหรา จ.พัทลุง เป็นเวลา 14 วัน และยังทยอยกักตัวครอบครัวที่สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปทำข่าวการคัดครองเชิงรุกเพื่อหาเชื้อจากผู้สัมผัสเสี่ยงสูง บริเวณด้านนอกกำแพงและริมกำแพง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสมหวัง ทางประธาน อสม. ต.สมหวัง ได้เดินออกมาไล่ผู้สื่อข่าวให้กลับไป พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขได้ประกาศว่าหากนำภาพบริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพไปนำเสนอข่าว ขู่จะฟ้องร้องผู้สื่อข่าวอีกด้วย พร้อมทั้งปลัดอำเภอกงหรา และนายอำเภอกงหรา จ.พัทลุง ได้ให้ผู้ใหญ่บ้านและกำนัน เข้ามาห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวเก็บภาพนำเสนอข่าวการคัดกรองเชิงรุก โดยทางปลัดอำเภอระบุว่า จะทำให้ทางอำเภอกงหราเสียหาย
ล่าสุด นพ.ดุษฎี คงตระกูลทรัพย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง ได้โทรศัพท์ขอโทษผู้สื่อข่าวกับเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข ประธาน อสม.ต.สมหวัง อ.กงหรา ต่อว่าผู้เสื่อข่าว โดยกล่าวว่า ไม่เข้าใจทำไมเจ้าหน้าที่ต้องปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาด ทั้งที่สื่อพยายามที่เสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันเฝ้าระวังตัวเองให้มากขึ้น