ยุคนี้ ปี 2021 การเลือกแอร์เพียงแค่ดูว่ามีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือ ซื้อโดยดูจากแบรนด์ที่คุ้นชิน และบอกต่อๆกันมา คงไม่เพียงพออีกต่อไปเพราะ การประหยัดไฟมีมาตรฐานใหม่เพิ่มเข้ามาคือ นอกจากมีฉลากประหยัดไฟเบอร์5แล้ว หรือแม้แต่เป็นระบบ inverter แล้วยังต้องมีดาวแสดงระดับการประหยัดไฟด้วยนั่นเอง ปัจจุบันสูงสุดอยู่ที่ 3 ดาวการจะได้ฉลาก3ดาวนั้น ค่า SEER (ค่าแสดงประสิทธิภาพการใช้ไฟ BTU/ชั่วโมง/วัตต์ ตัวเลขยิ่งมากยิ่งประหยัด) ต้องทำได้มากกว่า 21 ขึ้นไป ที่จะยกตัวอย่างพูดถึงนี้คือ แอร์ที่ผมซื้อมาใช้เองที่บ้าน เป็นแอร์ของ Carrier รุ่น X INVERTER Plus ปี 2021 ขนาด 18,000 BTU (เครดิตภาพ : ถ่ายด้วยตนเอง)ได้ค่า SEER อยู่ที่ 22.5 อยู่ในระดับประหยัดไฟเบอร์ 5 ระบบ INVERTER ที่ได้ 3 ดาว (เครดิตภาพ : https://carrierthailand.com/air-conditioner/xinverterplus/)ซึ่งแน่นอนว่าราคาค่าตัวอาจจะสูงกว่าเมื่อเทียบกันที่ขนาด BTUเท่ากันในแบรนเดียวกันหรือต่างแบรนในรุ่นที่ต่ำกว่า แต่เท่าที่ทำการบ้านมา ในชั่วโมงนี้ถ้านับกันเฉพาะ 3 ดาว INVERTER ตัดแบรนจากจีน และไทยที่เพิ่งทำตลาดได้ไม่นานถือว่า Carrier ตัวนี้ทำราคาได้ดี สามารถจับต้องได้ คิดง่ายๆว่า แอร์เราติดกันทีนึงก็ใช้กันยาวๆ 5-10 ปีอยู่แล้ว การยอมจ่ายแพงกว่าในวันนี้เพื่อได้แอร์ที่มีความสามารถในการประหยัดไฟได้มากกว่าบางทีแค่1ปี ก็ได้เงินค่าไฟส่วนต่างคืนครบแล้ว ที่เหลือถือเป็นกำไรกันไป ยกตัวอย่าง จากฉลากแสดงประสิทธิภาพการใช้ไฟโดยจะเทียบกันกับแอร์อีกตัวของที่บ้านที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบไม่ INVERTER ค่า SEER 15.29 รุ่นปี 2018 (เครดิตภาพ : ถ่ายด้วยตนเอง) กับตัวที่ติดใหม่นี้ ระบบ INVERTER 3 ดาว ค่า SEER 22.5 (เครดิตภาพ : ถ่ายด้วยตนเอง) โดย BTU จริงๆของแอร์ทั้ง 2 ตัวอาจจะเหลื่อมๆ กันเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าอยู่ในพิกัดขนาด 18,000 BTU เช่นกันผลก็คือตัวที่ติดใหม่ประหยัดไฟมากกว่าถึงเดือนละ 433 บาท ปีละ 5,200 บาทเลยทีเดียว หลายๆ คนรวมถึงตัวผมเองก็เคยมองว่าแอร์ที่ใช้อยู่ตัวเก่าก็ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาอะไรไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน หรือการซื้อแอร์ก็เลือกขนาด BTU ที่ต้องการ และตัดสินใจซื้อแอร์ตัวที่ราคาถูก หรือมีโปรโมชั่นลดราคา ความจริงแล้วอาจไม่ถูกซะทีเดียว เพราะบางทีค่าไฟที่ต้องจ่ายให้กับแอร์ตัวเก่าที่ใช้อยู่หรือแอร์ราคาถูกที่เลือกซื้อกันมานั้น แต่ละเดือนแต่ละปีรวมกันแล้วส่วนต่างของค่าไฟสามารถซื้อแอร์ตัวใหม่ หรือแอร์ตัวที่เราเคยมองว่าแพงกว่าได้เลย และนี่ยังไม่รวมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มักมากับแอร์ที่มีมาตรฐานสูงหรือตัว TOP ของแบรนด์ต่างๆ ที่จัดอัดเข้ามาให้แบบจัดเต็มเพิ่มอีกเช่น ความเงียบที่มากกว่า แบบรู้สึกได้ โดยไม่ต้องวัดเป็นเดซิเบล (ในคำว่าเงียบที่นี้พูดถึงทั้งคอยล์ร้อนที่อยู่นอกบ้าน และคอยล์เย็นที่อยู่ภายในบ้านเลย), ความสามารถในการกรองฝุ่นpm2.5 (จำเป็นมากในปัจจุบัน), มีระบบช่วยดักจับเชื้อแบคทีเรียในอากาศ, มีระบบป้องกันไฟตกไฟกระชาก, ระบบล้างทำความสะอาดหลังเลิกใช้งานป้องกันกลิ่นอับเป็นยังไงกันบ้างครับกับเกล็ดเล็กๆ น้อยๆในการเลือกแอร์เพียงแค่มีฉลากแสดงประหยัดไฟเบอร์5ไม่พอแล้วสำหรับปัจจุบันซื้อแอร์ครั้งต่อไปอย่าลืมสังเกตเลือกแบบที่เป็นระบบ INVERTER และมีดาว 3 ดาวด้วยจะดีมากเพราะมันแสดงให้เห็นว่าแอร์ตัวนี้ช่วยเราประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะแน่นอน เครดิตภาพหน้าปก : ถ่ายด้วยตนเองเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !