'อุตุฯ' หวั่น 5-6 ต.ค. ไทยโดนพายุถล่มอีกลูก ลุ้น กลางเดือนเข้าหน้าหนาว
เมื่อวันที่ 28 กันยายน นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยกับ ‘มติชนออนไลน์’ ว่า ปริมาณฝนที่เกิดยังคงเป็นไปตามคาดการณ์ ในประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2564 ว่า ปีนี้จะมีปริมาณฝนมากกว่าปีที่แล้วและมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 5-10% โดยช่วงต้นของฤดูจะพบว่า ฝนมาเร็วสลับกับลดลง และเริ่มกลับมาตกหนักอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
“น้ำจะท่วมหรือไม่ กรมอุตุนิยมวิทยาไม่สามารถบอกได้ ทำได้เพียงแจ้งเตือนพยากรณ์อากาศ และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และวางแผนในการบริหารจัดการ โดยปัญหาอุทกภัยขณะนี้ เกิดจากการเร่งระบายน้ำจากบริเวณตอนบนของประเทศ จึงอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก รวมถึงแม่น้ำท่าจีน ก่อนที่จะระบายลงสู่ทะเล ซึ่งช่วงสัปดาห์นี้ประเทศไทยมีฝนลดลง จึงเหมาะในการเร่งระบายน้ำ
โดยคาดว่าจะมีร่องมรสุมเกิดขึ้นอีกครั้ง ช่วงวันที่ 1-3 ตุลาคม จากนั้นต้องติดตามว่า ช่วงวันที่ 5-6 ตุลาคม จะมีพายุเข้ามาอีกหรือไม่ ซึ่งขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยาอยู่ระหว่างเฝ้าติดตามพัฒนาการของพายุที่บริเวณทะเลจีนใต้ หากเกิดการก่อตัวเป็นพายุจริงต้องติดตามว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณตอนบนหรือตอนกลางของประเทศเวียดนาม หากเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณตอนกลางจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย แต่เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจน จึงไม่สามารถประเมินได้” นายณัฐพล กล่าว
นายณัฐพล กล่าวว่า ช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไปถึงเดือนธันวาคม ฝนจะเริ่มตกหนักบริเวณภาคใต้ จึงต้องเฝ้าระวังปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ บริเวณตอนบนของประเทศเริ่มมีฝนลดลง จึงคาดว่าประมาณกลางเดือนตุลาคม บริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงตอนบน อุณหภูมิจะเริ่มลดลง และเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งวันเวลาที่ชัดเจนในการประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการของประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาจะมีการพิจารณา และแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
“ยอมรับว่าแอพพลิเคชั่นแจ้งเตือนพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ยังทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากมีการใช้งานมากกว่า 5 ปี จึงติดบางข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีที่ไม่สามารถพัฒนาต่อได้ ล่าสุด จึงได้รับการจัดสรรงบประมาณหลักล้านบาท สำหรับพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างตรงจุด โดยได้ประสานไปยังเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการแจ้งเตือนข้อมูลแล้ว คาดว่าใน 6 เดือนการพัฒนาจะแล้วเสร็จ” นายณัฐพล กล่าว