“7 เทคนิคอ่านหนังสือยังไงไม่ให้ง่วง (และจำได้จริง)” อ่านที ไร ง่วงทุกที แก้ยังไงดีนะ? เคยเป็นกันมั้ย? เปิดหนังสือปุ๊บ หนังตาก็เริ่มหย่อน จะจำเนื้อหาก็ไม่เข้า จะฝืนใจก็เหมือนฝืนร่างกายสุด ๆ ยิ่งใกล้สอบเท่าไหร่ ความง่วงก็เหมือนจะมาหาเราบ่อยขึ้นเท่านั้น รู้ตัวอีกที หนังสือยังเปิดอยู่ที่หน้าเดิม แต่เราหลับไปเรียบร้อยแล้ว! จริง ๆ แล้ว การอ่านหนังสือไม่ควรเป็นกิจกรรมที่ทรมานตัวเองขนาดนั้นนะ การอ่านที่ดีควรจะ “จำได้จริง” ไม่ใช่แค่นั่งจ้องตัวหนังสือแล้วปล่อยให้หลุดโฟกัสไปคิดถึงอย่างอื่น หรือเลื่อน TikTok วนไปมา อ่านหนังสือแบบ “มีประสิทธิภาพ” คือการอ่านที่ทำให้เราเข้าใจสิ่งที่อ่าน จำได้เมื่อต้องใช้ และรู้วิธีจัดการกับข้อมูลในหัวอย่างเป็นระบบ ซึ่งความจริงแล้ว มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย แค่เราต้องรู้ "วิธีที่เหมาะกับตัวเอง" และ "เทคนิคเล็ก ๆ" ที่จะช่วยให้สมองทำงานดีขึ้น และร่างกายไม่หลับไปก่อน บทความนี้เลยอยากชวนทุกคนมาลอง 7 เทคนิคอ่านหนังสือ ที่ทั้งช่วยให้ตื่นตัวขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และสำคัญที่สุด... ไม่ง่วงอีกต่อไป! พร้อมแล้วไปดูกันเลยว่าแต่ละเทคนิคจะช่วยยังไงได้บ้าง เทคนิคที่ 1: อ่านทีละน้อย แต่บ่อย ๆ อธิบายว่าไม่ต้องนั่งยาว ๆ ครั้งละ 3 ชั่วโมง แบ่งเป็นรอบละ 25-30 นาที แล้วพัก 5 นาที (เทคนิค Pomodoro) ช่วยให้สมองไม่ล้าและมีสมาธิดีขึ้น 📌 ผลลัพธ์: สมาธิดีขึ้น เหนื่อยน้อยลง จำได้นานกว่าเดิม เพราะไม่ฝืนสมองทีละนาน ๆ เทคนิคที่ 2: หาที่อ่านให้เหมาะกับตัวเอง บางคนชอบอ่านเงียบ ๆ คนเดียว บางคนชอบเปิดเพลงเบา ๆ แสงไฟ โต๊ะ เก้าอี้ ก็มีผลกับความง่วง แนะนำการทดลองหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะที่สุดกับตัวเอง 📌 ผลลัพธ์: ลดสิ่งรบกวน เพิ่มโฟกัส การอ่านราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เทคนิคที่ 3: สรุปเนื้อหาด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่กวาดตาอ่านไปเรื่อย ๆ แต่ลองเขียน Mindmap หรือ Bullet Note ยิ่งเขียนยิ่งจำ ช่วยให้สมองจัดระเบียบความรู้ เสนอแอปหรือวิธีทำโน้ตแบบง่าย ๆ 📌ผลลัพธ์: เข้าใจลึกมากขึ้น จำเนื้อหาได้นาน ใช้ต่อยอดเวลาทำข้อสอบหรือเขียนได้ดี เทคนิคที่ 4: ใช้เสียงช่วยจำ อัดเสียงตัวเองอ่าน แล้วเปิดฟังก่อนนอนหรือระหว่างเดินทาง หรือฟัง Podcast ที่เกี่ยวกับวิชาเรียน เสียงช่วยกระตุ้นสมอง และเปลี่ยนบรรยากาศจากการอ่านล้วน ๆ 📌 ผลลัพธ์: ได้ทบทวนซ้ำแบบไม่ต้องนั่งอ่าน เช่น ฟังขณะเดินทางหรือก่อนนอน กระตุ้นการจำแบบไม่รู้ตัว เทคนิคที่ 5: เปลี่ยนสถานที่ บางทีแค่เปลี่ยนจากห้องนอนไปอ่านที่ร้านกาแฟ ห้องสมุด หรือสวนสาธารณะ สิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ กระตุ้นสมอง ทำให้รู้สึกว่า “การอ่านไม่ได้น่าเบื่อเสมอไป” 📌 ผลลัพธ์: รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ลดความเบื่อหน่ายจากสภาพแวดล้อมเดิม ๆ เทคนิคที่ 6: ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน อ่านไปเรื่อย ๆ มักจะหลุดโฟกัส ลองตั้งเป้าเล็ก ๆ เช่น “วันนี้ต้องอ่านให้จบบทนี้” เขียน checklist แล้วติ๊กออก ช่วยให้รู้สึกสำเร็จและมีแรงอ่านต่อ 📌 ผลลัพธ์: มีแรงจูงใจมากขึ้น ไม่หลุดโฟกัส รู้สึกว่าตัวเอง “ทำได้สำเร็จ” ทีละขั้น เทคนิคที่ 7: ให้รางวัลตัวเอง หลังจากอ่านจบ 1 บท จะได้กินขนม หรือดูซีรีส์ 1 ตอน เทคนิคเล็ก ๆ ที่ใช้แรงจูงใจช่วยกระตุ้น ทำให้การอ่านกลายเป็นกิจกรรมที่ “รอคอย” มากขึ้น 📌 ผลลัพธ์: สมองเชื่อมโยงการอ่านกับความรู้สึกดี ๆ ช่วยให้การอ่านกลายเป็นเรื่องน่าสนุก ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ เครดิต ภาพหน้าปก โดย Pexels เครดิต ภาพที่ 1 โดย Pexels เครดิต ภาพที่ 2 โดย Pezibear เครดิต ภาพที่ 3 โดย buivuong เครดิต ภาพที่ 4 โดย Surprising_Media เครดิต ภาพที่ 5 โดย FunkyFocus เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !