รีเซต

สามีบริจาคดวงตา ภรรยาที่เสียชีวิต เผยกุศลใหญ่ให้แสงสว่างแก่ผู้อื่นได้ 2 ชีวิต

สามีบริจาคดวงตา ภรรยาที่เสียชีวิต เผยกุศลใหญ่ให้แสงสว่างแก่ผู้อื่นได้ 2 ชีวิต
ข่าวสด
13 เมษายน 2564 ( 17:35 )
54

สามีบริจาคดวงตา ภรรยาที่เสียชีวิตจากเส้นเลือดในสมองแตก เผยกุศลใหญ่ให้แสงสว่างช่วยผู้อื่นสามารถมองเห็นได้อีกถึง 2 คน

 

 

วันที่ 13 เมษายน 2564 นายแพทย์ นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารโรงพยาบาลเพชรบูรณ์มอบประกาศเกียรติคุณจากศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยให้แก่ นางอารีรัตน์ มีสันเทียะ อายุ 57 ปี ซึ่งเสียชีวิตด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก โดยสามีได้บริจาคดวงตาของผู้เสียชีวิตให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายได้ได้อีกถึง 2 คน โดยมี นายประโยชน์ ชะเอม อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นสามีเป็นตัวแทนรับมอบ

 

 

นายประโยชน์ กล่าวว่า ตนอยู่บ้านกับภรรยาเพียง 2 คน ส่วนลูกชายอายุ 30 ปี ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ตนและภรรยามีอาชีพปลูกผักสวนครัวไปขายที่ตลาดในหมู่บ้าน และมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งตนและภรรยาก็มีสุขภาพแข็งแรงทั้งคู่ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยมาหลายปีแล้ว กระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา หลังจากทำงานเสร็จภรรยาได้อาบน้ำและเตรียมขึ้นนอนพร้อมกับบ่นว่ามีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ หลังจากนั้นจึงเข้านอน แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลบึงสามพันและส่งต่อมาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์พบว่าเส้นเลือดในสมองแตก

 

 

จึงเข้าทำการผ่าตัด แต่เนื่องจากมีอาการค่อนข้างหนักจึงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ระหว่างนั้นแพทย์และพยาบาลได้มาแจ้งแล้วว่าภรรยาอาการหนักพร้อมทั้งได้แจ้งโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของตนเอง ก่อนหน้านั้นตนได้พูดกับภรรยาว่าหากตนเสียชีวิต ขอให้บริจาคอวัยวะให้แก่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่นึกว่าจะเป็นฝ่ายภรรยาที่เสียชีวิตไปก่อน ตนจึงแจ้งบริจาคอวัยวะของภรรยาที่จะสามารถนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ แต่บริจาคได้เพียงดวงตา 2 ข้าง เนื่องจากทีมแพทย์จากกรุงเทพฯไม่สามารถเดินทางมาผ่าตัดได้เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด ไม่เช่นนั้นก็จะได้ไตอีก 2 ข้าง

 

 

อย่างไรก็ตามดวงตาของภรรยาที่ได้ไปนี้ก็จะสามารถไปให้แสงสว่างให้คนอื่นสามารถมองเห็นได้อีกถึง 2 คน สำหรับศพของภรรยาจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านที่ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร และจำทำการฌาปนกิจที่วัดหนองพะยอม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเพราะต้องรอปรึกษากับญาติ ๆ เสียก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง