พูดถึงครอบครัวแล้ว นอกจากจะมีความอบอุ่นและความทรงจำที่ดีแล้ว สิ่งหนึ่งที่มีในหลายครอบครัวก็คือความขัดแย้ง หากเป็นความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆก็ยังพอจะอภัยให้ได้ แต่ถ้าเป็นความขัดแย้งเรื่องการมีบ้านเล็กบ้านน้อยจนถึงระดับที่คนในบ้านจะฆ่าให้ตายให้ได้ มันก็ยากที่จะสมานแผลในใจได้ วิกรม กรมดิษฐ์ ผู้เขียนและผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมอมตะ กล้าที่จะนำเรื่องอ่อนไหวในครอบครัวออกมาเปิดเผย ซึ่งหวังจะให้เป็นข้อคิดเตือนใจระหว่างผู้เป็นพ่อกับบุตร แม้พ่อจะทำผิดแค่ไหน แต่ถ้าถึงวาระสุดท้ายของพ่อ ก็อยากให้บุตรเข้ามาเยี่ยมเยือนสักครั้ง แนวคิดที่ได้เรียนรู้ภายในเล่ม1.พ่อของคุณวิกรมเป็นผู้ประกอบการที่มั่งคั่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้คุณวิกรมได้ทำงานแบบผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็ก นั่นทำให้คุณวิกรมรู้จักทำงานแบบคุมคนงานเป็นตลอดเกือบสิบปี 2.พ่อของคุณวิกรมเป็นคนที่อารมณ์รุนแรง และนั่นทำให้มีศัตรูมากโดยปริยาย สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้หล่อหลอมคุณวิกรมเป็นคนอารมณ์รุนแรง และกาญจนบุรีในสมัยนั้นกฎหมายก็ยังไม่ศักดิ์สิทธิ์ การยิงกันถึงแก่ชีวิตเป็นเรื่องปกติ แต่คุณวิกรมก็พ้นจากวังวนความรุนแรงมาได้ด้วยการศึกษาและการสร้างตัวจนเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในที่สุด 3.หลายคนที่ขาดความอบอุ่นมักกลายเป็นคนหัวรุนแรง อารมณ์ร้าย และใช้ความรุนแรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อปกปิดความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น คุณวิกรมอยากให้เปลี่ยนความคิดเสีย นั่นคือทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา เราลิขิตเอง แม้จะไม่อยู่ในการควบคุมในบางเรื่องเนื่องด้วยเพราะเรายังเด็ก แต่กระนั้นเราเลือกที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ 4.คุณวิกรมเชื่อมั่นในตัวเองเสมอมา และไม่เคยพึ่งพาโชคชะตาฟ้าลิขิต หรือสิ่งงมงายไร้สาระต่างๆ พูดง่ายๆก็คือ เราลิขิตความเป็นไปของชีวิตได้ 5.ได้เรียนรู้ว่าการครองคู่อย่างยั่งยืนได้นั้นจะต้องมีความเข้าใจในความต้องการของอีกฝ่ายได้ พูดคุยกันได้ ไม่มีอะไรปิดบัง ไม่มีการโกรธหรือทำร้ายกันเมื่อเปิดอกพูดคุย อีกทั้งยังต้องเอื้ออาทรต่อกันอย่างบริสุทธิ์ใจ หากครองคู่กันเพราะหวังเรื่องทรัพย์สมบัติ หรือเพื่อสนองตัณหาชั่วขณะ การเอื้ออาทรต่อกันก็จะไม่ยั่งยืน และเบื่อหน่ายในชีวิตคู่จนนำไปสู่การหย่าร้างในที่สุด 6.คุณวิกรมเองก็เคยมีความรัก แต่สุดท้ายก็เกิดช่องว่างของความห่างเหินจนนำไปสู่การเลิกรา โชคดีที่ยังไม่มีบุตร ยังไม่ได้เป็นพ่อคน แต่หลังจากนั้นคุณวิกรมก็ไม่ได้พบคู่ชีวิตคนใหม่อีกเลย อีกทั้งยังต้องคอยดูแลกิจการที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย 7.การศึกษาสำคัญที่สุด คุณวิกรมยินดีที่จะส่งเสียน้องต่างมารดาหลายสิบคน (คุณพ่อคุณวิกรมมีภรรยาน้อยอย่างต่อเนื่อง จนถึงช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต) ให้ได้เรียนจนจบอย่างน้อยถึงปริญญาตรี หากมีความสามารถพอก็จะยินดีส่งให้เรียนจนถึงปริญญาเอกอีกด้วย 8.คุณธนินท์ เจียรวนนท์เคยแนะนำคุณวิกรมว่านักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีครอบครัวที่สมบูรณ์และมีทายาทไว้สืบทอดกิจการ ด้วยเหตุการณ์ที่คุณวิกรมเผชิญมาทั้งเรื่องของคุณพ่อและเรื่องแฟนเก่าที่เคยเลิกรา ทำให้ยากจะมีคู่ชีวิตต่อไปได้ ทั้งนี้การมีหลานที่ไว้ใจได้ก็พอจะสืบทอดกิจการได้เหมือนกัน ทั้งหมดนี้ทำให้เราเข้าใจคุณวิกรมมากขึ้น ทั้งเรื่องของแนวคิด เรื่องของชีวิตส่วนตัวที่นักธุรกิจต้องประสบพบเจอก็ไม่ได้แตกต่างจากคนธรรมดาอย่างเรามากนัก โดยเฉพาะความขัดแย้งที่ตกลงผลประโยชน์ไม่ลงตัว ระหว่างความต้องการของพ่อและความต้องการของแม่และบุตร คุณวิกรมอยากย้ำประเด็นในฐานะบุตรว่าต่อให้พ่อทำผิดมากแค่ไหน ก็อย่าลืมที่จะหาทางเคลียร์ใจก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะอีกฝ่ายสิ้นอายุขัยไปแล้ว.....อีกทั้งเราผู้อ่านที่อาจจะกำลังเป็นพ่อคนในอนาคตก็ได้เรียนรู้ว่าการปฏิบัติต่อลูกด้วยความรัก ความอบอุ่น มันสำคัญขนาดไหน... อย่าได้เห็นแก่ตัวเพียงเพราะเห็นแก่ความสุขในกามแล้วพาลทำให้เด็กผู้ซึ่งสืบสายเลือดจากเราต้องเสียใจเพิ่มอีกคน พ่อผม.......หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่เซเว่นอีเลฟเว่น ในราคาเพียง 20 บาทเท่านั้น เครดิตภาพภาพปก โดย victor217 จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย freepic.diller จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย freepik จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ คิดรวยแบบวิกรมรีวิวหนังสือ ความสำเร็จดีใจได้วันเดียวรีวิวหนังสือ เจ้าสัวสอนรวยรีวิวหนังสือ ENTREPRENEUR REVOLUTION ผู้ประกอบการคนต่อไปต้องเป็นคุณรีวิวหนังสือ ทำธุรกิจแบบผู้ชนะในทุกสถานการณ์7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์