รีเซต

อนุทิน ปลื้มเห็น บิ๊กตู่ มีรอยยิ้ม ดีใจที่ได้พบ อสม.นักรบสู้โควิด-19

อนุทิน ปลื้มเห็น บิ๊กตู่ มีรอยยิ้ม ดีใจที่ได้พบ อสม.นักรบสู้โควิด-19
มติชน
21 กันยายน 2563 ( 13:27 )
115
อนุทิน ปลื้มเห็น บิ๊กตู่ มีรอยยิ้ม ดีใจที่ได้พบ อสม.นักรบสู้โควิด-19

วันนี้ (21 กันยายน 2563) ที่อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในการจัดงานรณรงค์เตรียมความพร้อม “อสม.เฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกที่ 2″ ว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาพบกับตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มาจากทั่วประเทศ ในนามของ สธ.ต้องขอขอบคุณทุกคน ที่ได้ให้การต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อย่างอบอุ่น

 

“ผมไม่ได้เห็นรอยยิ้มของนายกฯ มานานแล้ว และท่านให้เกียรติ สธ. อสม. แพทย์ และพยาบาล ด้วยการสวมชุดสีขาว เพื่อให้รู้ว่าเราเป็นพวกเดียวกัน และร่วมกันป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 ความสำคัญของ อสม.มีมากในสถานการณ์นี้ ระบบการสาธารณสุขของเราภายใต้แพทย์ และ อสม.มีประสิทธิภาพมาก เรามาขอบคุณนายกฯ และท่านก็ได้มาทำพิธีโอนค่าตอบแทนให้กับ อสม.ในส่วนของโควิด-19 รวม 3,500 บาท และได้รับแจ้งจาก นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ว่า นอกจากนี้ จะมีค่าตอบแทนของ อสม.ที่ได้ตามสิทธิอยู่แล้ว 1,000 บาท จำนวน 2 เดือน รวมเป็น 5,000 บาท แต่หากใครที่ยังไม่ได้รับ ให้ไปตามที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. ได้เลย” นายอนุทิน กล่าว

 

นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า การมอบค่าตอบแทน อสม. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตอบแทนความเสียสละ เป็นแขนขาป้องกันโควิด-19 รัฐเป็นหนี้บุญคุณ อสม. เพราะลำพังกำลังเจ้าหน้าที่เพียงอย่างคงไม่พอ หวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือที่เช่นนี้ต่อไป ช่วงแรกเรายังไม่รู้จักโรค ไม่มียา ไม่มีเตียง แต่ 9 เดือนผ่านมา เรามีความพร้อมเต็มที่ เรารุกโควิด-19 ด้วยความพร้อม สิ่งสำคัญคือ ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน การเว้นระยะห่าง อาจทำได้ยาก แต่ถ้าสวมหน้ากากไว้ก็ป้องกันได้ ดังนั้นเรื่องนี้เป็นความโชคดีของประเทศไทย และประเทศอื่นไม่มีแบบเรา และหลังจากนี้ สธ.จะมีการทำงานแบบใหม่ เป็นรูปแบบ       นิว นอร์มอล (New normal) เป็นการสู้กับโควิด-19 เชิงรุก ด้วยการเข้าใจโรค ไม่ล็อกดาวน์ตัวเองที่บ้าน สอดส่องดูแลประชาชนและมีความพร้อมรับมือ

 

ด้าน นายจำรัส คำรอด ประธาน อสม.แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา อสม.เป็นประชาชนจิตอาสาที่เสียสละดูแลประชาชนในชุมชนมากว่า 40 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงการระบาดโควิด-19 อสม.เป็นกำลังสำคัญในการดูแลชุมชน และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ทั้งในและนอกประเทศ อสม.ได้ทุ่มเทอย่างเสียสละโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ชักชวนให้คนในชุมชนร่วมกันป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มแข็ง ทำให้ อสม.บางรายได้รับผลกระทบทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของ อสม.ที่เป็นผู้เสียสละ อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลมอบค่าตอบแทนให้ อสม.จำนวน 7 เดือน รวมทั้งสิ้น 3,500 บาท พร้อมทั้งให้ความเชื่อมั่นว่าจะดูแล อสม.อย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้เป็นการสร้างความมั่นใจและขวัญกำลังใจให้กับอสม.อย่างยิ่ง

 

“ขอให้คำมั่นสัญญาว่า อสม.ทุกคนจะปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลประชาชนคนไทยอย่างเต็มที่ โดยไม่หวังผลตอบแทน และจะเดินหน้าป้องกันโควิด-19 ให้ประเทศไทยอย่างเข้มแข็งต่อไป” นายจำรัส กล่าว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีแผนงานของ อสม.ในการเฝ้าระวังการระบาดระลอก 2 อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า จากนี้ต่อไปการระบาดระลอก 2 ขอให้พี่น้อง อสม. อย่าถอดใจ อาจจะทำงานกันหนักขึ้น เพราะจะมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และยังต้องช่วยกันป้องกันควบคุมพื้นที่ขอบชายแดน เพื่อไม่ให้มีการลักลอกเข้ามาในประเทศแบบผิดกฎหมาย

 

“ต้องมีการผ่อนคลาย เพื่อทำมาหากินต่อไป อสม.ก็จะต้องเคาะประตูบ้าน เตือนคนให้สวมหน้ากากอยู่เสมอ และช่วยสอดส่องคนแปลกหน้าในพื้นที่ เรียกได้ว่า อสม.เป็นเสมือนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเช่นกัน” นายอนุทิน กล่าว

 

ต่อข้อถามว่า จะมีการดูแล อสม.เพิ่มเติม หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่นายกฯ กล่าวไว้ว่า เราจะดูแลอสม.ต่อไป ถ้าโควิด-19 ยังไม่จบ เราก็พร้อมจะดูแล อสม.ต่อไปเรื่อยๆ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง