เกตรบ้านๆ การทำนาหว่าน การทำการเกษตร เช่น การทำนานั้นมีอยู่หลายวิธีมาก การดำนา การหว่านแบบแห้ง การหว่านแบบโคลน การทำนาโยน เป็นต้น ยกตัวอย่างในวันนี้ คือ การทำนาหว่านแบบแห้ง การทำเกษตรแบบนี้จะลดเวลาในการทำนาลง ประหยัดต้นทุน ไม่ต้องรอน้ำ แต่ข้อเสียก็มีด้วยเช่นกันเดี๋ยวเราจะมาพูดถึงที่หลัง การทำนาหว่านแบบแห้งโดยไม่ต้องรอน้ำแต่ต้องกะระยะวันที่ฝนจะตกด้วยเพราะหลังจากที่เพาะปลูกไปแล้วนั้น พอต้นข้าวโตจะต้องใช้น้ำหล่อเลี้ยงด้วยเช่นกัน เริ่มต้นการทำนาหว่านต้องเตรียมดินที่นาให้พร้อม ต้องใช้รถไถไร่เข้ามาไถแปลงให้หมดก่อน หลังจากนั้นให้เราทำการหว่านหรือโยนเมล็ดที่เราเตรียมไว้แล้วหลังจากนั้นให้รถไถตีดินให้ละเอียดอีกครั้ง และให้ดินกลบเมล็ดข้าวด้วยเสร็จแล้วปล่อยทิ้งไว้ 1 เดือน รอฝนตก สิ่งต่อไปที่จะทำคือ กำจัดวัชพืชนั้นก็คือหญ้านั้นเอง มีหลายวิธีมาก บางคนมักที่จะเลือกใช้ สารเคมีเป็นวิธีทำเห็นผลเร็ว แต่หลังจากที่ใช้ไปแล้วเราจะไม่สามารถไปในพื้นที่ที่เราใช้สารเคมีได้ มันอันตรายต่อคนใช้ เคมีบางตัวมีการห้ามใช้โดยเด็ดขาดด้วย ถ้าใช้อาจถึงตายทั้งคนใช้และคนโดยรอบได้เลย ต่อได้มีการใช้ยาฆ่าหญ้าที่ปลอดภัยกว่าเดิมหรือการใช้ยาฆ่าหญ้าแบบน้ำยาชีวภาพ เป็นทางเลือกที่คนส่วนมากมักจะใช้วิธีนี้มากกว่า หรือถ้าวัชพืชมีน้อยบางที่อาจจะถอนออกโดยไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า หลังจากที่เราทำการกำจัดวัชพืชออกแล้ว ต่อไปเป็นการใส่ปุ๋ยเพื่อบำรุงต้นข้าวและก่อนที่เราจะลงมือใส่ปุ๋ยนั้น ต้นข้าวเรานั้นจะต้องมีน้ำก่อน น้ำจะต้องมีประมาณครึ่งหนึ่งของต้นข้าวที่เราปลูกเพราะเมื่อที่เราใส่ปุ๋ย ปุ๋ยที่เราใส่จะละลายค่อยๆ ซึมลงไปในดินต้นข้าวจะได้รับปุ๋ยอย่างทั่วถึงทุกต้น แต่ถ้าไม่มีน้ำในที่เพาะปลูกเราก็จำเป็นที่ต้องหาแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุด ฉะนั้นแล้วชาวนาจะนิยมขุดสระน้ำไว้อย่างน้อยหนึ่งบ่อ เพื่อในตอนที่ไม่มีน้ำไปเลี้ยงข้าว กรณีที่ไม่มีน้ำในต้นข้าวนั้นจะทำการใช้เครื่องดูดน้ำมาดูดน้ำใส่ในนาข้าว เมื่อมีน้ำพอแล้วเราก็ทำการใส่ปุ๋ยในนาข้าวให้ทั่ว ในขณะที่รอเวลาการเก็บเกี่ยว ส่าวมากชาวนาก็จะนิยมปลูกผักสวนครัวไว้ด้วย ในพื้นที่ที่เราไม่ได้ปลูกต้นข้าวเป็นการประหยัดอีกอย่าง ชาวนาจะไม่ปล่อยให้พื้นที่ว่างเปล่าเพราะกว่าที่จะเก็บเกี่ยวนั้นก็อีกหลายเดือนอยู่ บางคนถึงขั้นปลูกผักสวนครัวขายอีกด้วย เช่น การปลูกตะไคร้ ข้าวโพด มะเขือ โหระพา เป็นต้น ได้เงินไว้ใช้จ่ายในครอบครัวอีกด้วย พอถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตนั้นเราต้องยอมรับว่า การทำนาแบบนี้นั้นใช้เวลาในการเพาะปลูกไม่นาน แต่ข้อเสีย คือได้ผลผลิตน้อย ต้องดูแลเอาใจใส่มากกว่าการทำนาแบบดำ หรือที่เรียกกันว่า การดำนา ต้องคอยดูวัชพืชที่จะเกิดมากกว่าวิธีทำนาแบบอื่นนั่นเอง