วิโรจน์ ถกสางปัญหาทางม้าลาย ยึด 2 หลักการ คืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนกรุงใน 6 เดือน
ข่าววันนี้ 4 กุมภาพันธ์ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคก้าวไกล ร่วมวงเสวนาเวทีสาธารณะ “หมอกระต่าย ต้อง (ไม่) ตายฟรี” จัดโดย มูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์กรสิทธิมนุษยชน
นายวิโรจน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า หากตนได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ภายในระยะ 6 เดือน โดยอิงอยู่กับพื้นฐานงบประมาณที่ได้รับจัดสรรของกทม. นโยบายหลักของตนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมี 2 หลักการใหญ่ ซึ่งสามารถทำได้ทันที โดยหลักการแรกคือ การปรับปรุงโครงสร้างทางวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับทางม้าลาย ไม่ว่าจะเป็นการตีเส้น เพ้นท์สี ระบบสั่นสะเทือนเพื่อชะลอความเร็วของยานพาหนะบริเวณใกล้ทางม้าลาย และโครงสร้างหรือสัญลักษณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น ปรับปรุงระบบสัญญาณข้าม พร้อมกันนี้ได้เสนอวิธีการสอดส่องและบำรุงรักษาโครงสร้างวิศวกรรมทางม้าลายดังกล่าว ด้วยวิธีการง่ายๆ โดยการติดกล้องตรวจจับไว้ที่ทรัพย์สินของกทม. เช่น รถเก็บขยะ รถน้ำ ฯลฯ ที่จะต้องเดินทางไปทุกเขตในกรุงเทพมหานคร และสามารถตรวจสอบความผิดปกติของทางม้าลาย ไฟจราจร หรือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้
“อีกหลักการสำคัญ เป็นประเด็นที่คนมองข้าม นั่นคือความใส่ใจและการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งสามารถบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ โดยเฉพาะหน่วยงานที่สามารถบังคับใช้กฎหมาย ยกตัวอย่างของการบังคับใช้กฎหมายที่ล้มเหลวของกทม. จากสถิติใบสั่ง 13 ล้านใบต่อปี แต่สามารถเก็บค่าปรับจากผู้กระทำความผิดได้เพียง 1 ล้านใบเท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ใส่ใจและจริงจัง ดังนั้น หากได้รับเลือกตั้ง ผมจะทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายภายใน 6 เดือนให้ได้ โดยอาศัยมาตรการปรับ ลด เพิ่มอุปสรรคในการต่อใบขับขี่หรือทะเบียนรถ เป็นต้น” นายวิโรจน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วิโรจน์ ในฐานะว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคก้าวไกล ได้แถลงเปิดตัวนโยบายเกี่ยวกับทางม้าลาย-ทางเท้า ไปเมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่อาคารอนาคตใหม่ ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายด้าน โดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบ City Data Platform, Lidar Scan, LED Embedded Road signs CCTV AI และ Puffin Crossing เป็นต้น