รีเซต

NCHจ่อเปิดโครงการใหม่ รับอานิสงส์ปลดล็อกLTV

NCHจ่อเปิดโครงการใหม่ รับอานิสงส์ปลดล็อกLTV
ทันหุ้น
28 ตุลาคม 2564 ( 10:21 )
125
NCHจ่อเปิดโครงการใหม่ รับอานิสงส์ปลดล็อกLTV

ทันหุ้น - NCH ขานรับแบงก์ชาติปลดล็อกเกณฑ์ LTV ดีเดย์ยาวถึงสิ้นปี 2565 หนุนดีมานด์พุ่ง บิ๊ก "สมนึก ตันฑเทอดธรรม" เดินหน้าปั้นแนวราบเพิ่มราว 2 พันล้านบาท ปั๊ม Backlog เพิ่ม จากเดิม 600 ล้านบาท แถมส่งซิก Q4/2564 ฟอร์มแจ่ม โครงการรอบุ๊กเพียบ ปักหมุดปี 2564 รายได้แตะ 2 พันล้านบาท

 

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า จากประเด็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีนโยบายปลดล็อกเพดานอัตราเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ จาก 70-90% เป็น 100% รวมถึงการรีไฟแนนซ์ และสินเชื่อกู้เพิ่มเติม (ท็อป-อัพ) และให้มีผลต่อเนื่องถึงสิ้นปี 2565 นั้นบริษัทมองเป็นผลดีต่อบริษัท เพราะจะช่วยสนับสนุนให้ยอดขายที่อยู่อาศัยในทำเลต่างๆ ของธุรกิจปรับตัวดีขึ้น

 

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอโอน (Backlog) ประมาณ 600 ล้านบาท จากโครงการแนวราบในทำเลต่างๆ อาทิ บ้านฟ้ากรีนเนอร์รี่-ทิวา (ปิ่นเกล้า-สาย 5), เอ็น ซี ออน กรีน ปาล์ม พาร์ค ฯลฯ โดยคาดว่าจะสามารถทยอยดำเนินการส่งมอบและรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2564  รวมทั้งธุรกิจยังมีแนวทางพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมรายรับในอนาคต

 

สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2564 ทาง NCH มีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบเพิ่มเติมในโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายและรายรับเพิ่มเติมให้กับธุรกิจในอนาคต ซึ่งในส่วนนี้บริษัทได้มีการจัดเตรียมที่ดินรองรับการพัฒนาไว้เรียบร้อยแล้ว

 

โค้งท้ายแจ่ม

 

นายสมนึก กล่าวถึงทิศทางผลงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนจากช่วงไตรมาส 3/2564 เนื่องจากธุรกิจมียอดขายที่รอโอนเป็นจำนวนมาก ประกอบยังจะมียอดขายจากโครงการที่เปิดใหม่ในช่วงที่เหลือปีนี้เข้าเสริมเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ในปี 2564  คาดว่ารายได้ยังคงเป็นตามเป้าที่ตั้งไว้ระดับ 2 พันล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรก 2564 ธุรกิจมีรายได้แล้ว 1.42 พันล้านบาท รวมทั้งยังมี Backlog ที่รอรับรู้อีกค่อนข้างมาก รวมทั้งยังอาจจะมีรายรับจากโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ส่วนแนวทางการบริหารปี 2564 บริษัทยังมุ่งเน้นแนวทางหลัก เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคต โดยในส่วนแรกจะให้ความสำคัญกับการเปิดตลาดเชิงรุก เจาะ Segment กลุ่มใหญ่แนวราบ ทาวน์เฮาส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาทต่อยูนิต  ด้วยราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดบ้านแนวราบ โดยขยายทำเลเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ทำเลศักยภาพ อีกทั้ง ยังเพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัย ให้ความสำคัญในการวางกลยุทธ์ด้าน Segment ของบริษัทที่มีอัตราการเติบโตที่ดี และสอดคล้องกับลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการบ้านในยุคโควิค-19

 

ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าพัฒนากลุ่มฐานลูกค้าภายใต้แบรนด์ “บ้านฟ้ากรีนเนอร์รี่” และ “บ้านฟ้ากรีนพาร์ค” เป็นเรือธงเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมถึงการรุกขยายหาฐานลูกค้าใหม่ ตลาดใหม่เพื่อเพิ่ม Market  Share ของบริษัท ควบคู่การพัฒนาคุณภาพการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีก่อสร้างทันสมัยให้สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น

 

ส่วนงบการเงินครึ่งปีแรกปี 2564 มีกำไรสุทธิ 132.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.38% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 68.46 ล้านบาท หลังมีรายได้รวม 1,424.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.93% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 858.61 ล้านบาท เนื่องจากความสามารถในการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น

 

ด้านการสำรวจมูลค่าทางบัญชีของ NCHล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.22 บาท (อิงข้อมูลของทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ 26 ตุลาคม 2564)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง