สหรัฐฯ สั่งแบนโดรนต่างชาติกระทบ DJI จีนอ้างความมั่นคง

หน่วยงานกำกับดูแลด้านโทรคมนาคมของสหรัฐ หรือ Federal Communications Commission (FCC) ออกกฎใหม่ห้ามนำเข้าและจำหน่ายโดรนต่างชาติรุ่นใหม่ รวมถึงอุปกรณ์สำคัญที่เกี่ยวข้อง โดยเพิ่มผู้ผลิตต่างชาติหลายรายเข้าในบัญชี "Covered List" ซึ่งเป็นรายชื่อหน่วยงานที่ถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงไม่อาจยอมรับได้ต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ

มาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึง DJI ผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ที่สุดของโลก และ Autel Robotics โดยจะมีผลกับโดรนรุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในสหรัฐ ขณะที่โดรนรุ่นเดิมที่ได้รับอนุมัติแล้วและอยู่ระหว่างการใช้งานยังสามารถใช้งานต่อไปได้ตามปกติ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดรนผลิตในจีนถูกใช้อย่างแพร่หลายในสหรัฐ ทั้งในภาคเอกชน หน่วยงานตำรวจ และหน่วยดับเพลิง รวมถึงงานตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน การก่อสร้าง การเกษตร และงานถ่ายภาพระดับมืออาชีพ 

ข้อมูลจาก Research and Markets ระบุว่า DJI ครองส่วนแบ่งตลาดโดรนโลกประมาณร้อยละ 70

กฎใหม่ของ FCC ถือเป็นผลสรุปของความพยายามยาวนานในการจำกัดการใช้งานโดรนจีนในสหรัฐ หลังสภาคองเกรสผ่านกฎหมายงบประมาณกลาโหมปี 2025 ซึ่งกำหนดให้มีการทบทวนความปลอดภัยของอุปกรณ์จากผู้ผลิตต่างชาติภายในปลายปี 2025 ขณะเดียวกัน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมโดรนในประเทศ และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ

ด้าน DJI แสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจดังกล่าว โดยยืนยันความมุ่งมั่นต่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และตลาดสหรัฐ พร้อมระบุว่าข้อกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลยังไม่มีหลักฐานรองรับ และสะท้อนแนวคิดกีดกันทางการค้ามากกว่าการคุ้มครองตลาดเสรี

ขณะที่รัฐบาลจีนออกมาวิพากษ์วิจารณ์การขึ้นบัญชีของ FCC ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ และเรียกร้องให้สหรัฐจัดสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมต่อบริษัทจีน มาตรการครั้งนี้ยังตอกย้ำท่าทีแข็งกร้าวของสหรัฐต่อเทคโนโลยีจีน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทอย่าง Huawei และ ZTE ก็ถูกบรรจุในบัญชีเดียวกันจากเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ