เครียดมาก! ตา-ยายโดน เรียกคืนเงินคนแก่เกือบ 2 แสน

เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีผู้สูงอายุ สามี-ภรรยา ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ป่าเลา อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ถูกอบต.ป่าเลา เรียกคืนเงินผู้สูงอายุเกือบ 2 แสนบาทหลังจากถูกตรวจสอบว่าได้รับเงินบำนาญทหารผ่านศึกของลูกชายที่เสียชีวิตในสมรภูมิเขาค้อ จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อไปถึงพบ นายชะอุ้ม อินเหลือง อายุ 87 ปี เปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ลูกชายชื่อนายละออง สมัครเข้าเป็นทหารพรานอาสาที่ค่ายสฤษดิ์เสนา จ.พิษณุโลก และเข้าร่วมรบในสมรภูมิเขาค้อเมื่อปี 2523 ระหว่างออกรบได้เหยียบกับระเบิดจนขาขาดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนกับนางช่อ อายุ 80 ปีภรรยา จึงได้รับเงินบำนาญกรณีลูกชายเสียชีวิตครั้งแรกจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันได้คนละ 1 หมื่นบาทต่อเดือน หลังจากนั้นประมาณปี 2552 อบต.ก็ให้เงินผู้สูงอายุตนกับภรรยาเดือนละ 500 บาท มาจนถึงเดือนพ.ย.2563 อบต.ก็หยุดให้ บอกว่าได้รับเงินซ้ำซ้อนของลูกชายแล้วและให้คืนเงินผู้สูงอายุทั้งหมดภายใน 1 ปี

ขณะที่นางบังอร หะสิตะ อายุ 55 ปี ลูกสาวนายชะอุ้ม กล่าวว่า ปัจจุบันตนเป็นผู้ดูแลพ่อแม่ที่สูงอายุ โดยเฉพาะแม่ที่ป่วยติดเตียงไปไหนมาไหนไม่ได้ เงินของพ่อกับแม่ที่ได้จากบำนาญก็นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ต่อมาอบต.ป่าเลานำหนังสือมาให้พ่อยินยอมรับว่าเป็นหนี้และจะต้องคืนจำนวน 91,000 บาท ส่วนของแม่ 83,600 บาท และให้ผ่อนชำระเดือนละ 7,000 บาท 2 คนก็ตกเดือนละ 14,000 บาท

“พร้อมทั้งให้เราเป็นผู้รับสภาพนี้ของพ่อกับแม่ด้วย ซึ่งเราก็เป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราวของหน่วยงานได้เงินเดือนๆละ 6,900 บาท ไม่มีความสามารถที่จะชำระหนี้ให้ได้ จึงนำเงินบำนาญของพ่อกับแม่ที่ได้นำไปชำระแล้วได้ 2 เดือน คงเหลือเงินของพ่อกับแม่เดือนละ 3,000 บาทต่อคนเท่านั้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในครอบครัวไม่เพียงพอ ซึ่งเราก็มีภาระเลี้ยงดูลูกๆอีกถึง 2 คน ตอนนี้เครียดมากเมื่อ 2-3 วันที่แล้วคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่เมื่อมาคิดว่าหากตายแล้ว พ่อ แม่ และลูกๆใครจะเป็นคนดูแลจึงตั้งสติได้ แต่ก็ยังวิตกกังวลอยู่ว่าหากในแต่ละเดือนหากเงินไม่พอใช้จะทำอย่างไร ขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือด้วย”นางบังอรกล่าว

ภาพและข้อมูลจากข่าวสด