ประเทศไทยตอนบน สภาพอากาศร้อนจัด ฝนฟ้าคะนอง - ลมแรงบางพื้นที่

ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

สภาพอากาศดังกล่าวเป็นผลจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนที่ปกคลุมอยู่ในบริเวณดังกล่าว ร่วมกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดเข้ามา ทำให้ยังมีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในบางพื้นที่

คำแนะนำ: ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน

เตือนพายุฤดูร้อน 12–14 เมษายน 2568

ในช่วงวันที่ 12–14 เมษายน 2568 ประเทศไทยตอนบนจะได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ซึ่งอาจมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่าบางพื้นที่

ปรากฏการณ์นี้เกิดจากมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย และทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

สภาพอากาศรายภูมิภาค วันที่ 10 เม.ย. 68

ภาคเหนือ


อากาศร้อนถึงร้อนจัด ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่


พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ: แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก


อุณหภูมิต่ำสุด 21–25 องศาเซลเซียส


อุณหภูมิสูงสุด 37–40 องศาเซลเซียส


ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5–15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


อากาศร้อนโดยทั่วไป มีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่


พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ: เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ สกลนคร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี


อุณหภูมิต่ำสุด 23–26 องศาเซลเซียส


อุณหภูมิสูงสุด 36–40 องศาเซลเซียส


ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10–20 กม./ชม.

ภาคกลาง


อากาศร้อนโดยทั่วไป และ มีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่


พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ: นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี


อุณหภูมิต่ำสุด 26–27 องศาเซลเซียส


อุณหภูมิสูงสุด 37–40 องศาเซลเซียส


ลมใต้ ความเร็ว 10–20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก


อากาศร้อนทางตอนบน ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่


พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ: ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี ตราด


อุณหภูมิต่ำสุด 25–27 องศาเซลเซียส


อุณหภูมิสูงสุด 33–37 องศาเซลเซีย

ส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.


ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)


ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่


พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส


อุณหภูมิต่ำสุด 24–26 องศาเซลเซียส


อุณหภูมิสูงสุด 32–35 องศาเซลเซียส


ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.


ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)


ฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่


พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ: ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล


อุณหภูมิต่ำสุด 24–26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33–35 องศาเซลเซียส


ลมใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.


ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร


บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล


อากาศร้อนโดยทั่วไป ฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่


ลมกระโชกแรงบางแห่ง


อุณหภูมิต่ำสุด 26–27 องศาเซลเซียส


อุณหภูมิสูงสุด 34–38 องศาเซลเซียส


ลมใต้ ความเร็ว 10–20 กม./ชม.

สถานการณ์ฝุ่นละออง

พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันในระดับ ปานกลางถึงค่อนข้างมาก
แนวโน้มมี สภาพทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย เนื่องจากฝนตกในบางพื้นที่