ทำไมต้องเปิดใช้งาน System Restore บน Windows การตั้งค่า (Config) System Restore บน Windows เป็นเรื่องสำคัญ เพราะช่วยให้ระบบสามารถสำรองและกู้คืนสถานะเดิมได้เมื่อเกิดปัญหา เช่น ไฟล์ระบบเสียหาย, การติดตั้งโปรแกรมที่ผิดพลาด, หรือการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อความเสถียรของระบบ เหตุผลที่ต้องตั้งค่า System Restore ป้องกันปัญหาหลังการเปลี่ยนแปลง หากคุณติดตั้งโปรแกรมใหม่, อัปเดตไดรเวอร์, หรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าระบบ แล้วเกิดปัญหา คุณสามารถย้อนกลับไปยังสถานะก่อนการเปลี่ยนแปลงได้ กู้คืนระบบเมื่อเกิดปัญหา ช่วยแก้ไขปัญหาเมื่อ Windows ทำงานผิดปกติ เช่น หน้าจอฟ้า (Blue Screen) หรือโปรแกรมสำคัญไม่ทำงาน ลดความเสี่ยงข้อมูลหาย System Restore ไม่ได้กู้คืนไฟล์ส่วนตัว เช่น เอกสารหรือรูปภาพ แต่ช่วยรักษาไฟล์ระบบและการตั้งค่าที่สำคัญไว้ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงของข้อมูลระบบเสียหาย ขั้นตอนการเปิดใช้งานมีดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 คลิกขวาที่ This PC หรือ My Computer แล้วเลือก Properties ขั้นตอนที่ 2 ทำการมองหาหัวข้อ system protection แล้วทำการเปิดขึ้นมา ขั้นตอนที่ 3 ทำการเลือกหัวข้อ configgure ขั้นตอนที่ 4 เมื่อเข้ามาที่หน้า configgure ให้ทำการเปิด turn on system protection ทำการเลือก max usage ตามที่ต้องการแล้วทำการกด ok การใช้งาน System Restore หากเกิดปัญหา: เปิด System Protection คลิก System Restore เลือกจุด Restore Point ที่ต้องการ แล้วทำตามคำแนะนำเพื่อกู้คืนระบบ ระบบจะรีสตาร์ทและย้อนสถานะกลับไปยังจุดที่เลือก ข้อควรทราบ System Restore ไม่ใช่การสำรองข้อมูล มันไม่ได้ปกป้องไฟล์ส่วนตัว เช่น เอกสาร, รูปภาพ หรือวิดีโอ หากต้องการสำรองไฟล์ส่วนตัว คุณควรใช้เครื่องมือสำรองข้อมูลแยกต่างหาก พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ System Restore ใช้พื้นที่บางส่วนบนฮาร์ดดิสก์ ดังนั้นควรตั้งค่าขนาดที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้กินพื้นที่เกินไป ไม่สามารถแก้ปัญหาฮาร์ดแวร์ หากปัญหาเกิดจากฮาร์ดแวร์เสียหาย เช่น HDD หรือ RAM, System Restore จะไม่สามารถช่วยได้ ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ช่องทาง YouTube https://youtube.com/@basicitsupport1996?si=6Cy_wvzZuC1jWnzi หรือที่ช่องทาง TikTok https://www.tiktok.com/@nametgt