เครดิตภาพ : unsplash1 / unsplash2 / unsplash3 อย่างที่เพื่อน ๆ คงทราบกันเป็นอย่างดีว่าทั่วโลกในตอนนี้มีโรคไวรัสร้ายแรงอย่างไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือเรียกอีกอย่างว่าโควิด 19 นั้นเอง และหนึ่งในประเทศที่กำลังประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงนี้ก็คือประเทศไทยของเรานั้นเองค่ะ ซึ่งส่งผลให้ภาครัฐได้ออกมาตราการ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือที่เรียกว่าให้ทุกคนมีการกักตัวอยู่บ้าน และมีประกาศในเรื่องของเคอร์ฟิวเวลา 22:00-04:00 น.ในช่วงเช้า แน่นอนค่ะดังนั้นจึงจะต้องมีผลกระทบที่ร้ายแรงเป็นเสมือนโดมิโน่เกิดขึ้น ซึ่งในด้านที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ ด้านเศรษฐกิจ เรียกได้ว่าผู้ประกอบการหลายคนนั้นเป็นกังวลสุด ๆ วันนี้ nowadaysgirl จะมาแชร์พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงนี้ สินค้าที่สามารถขายได้มากขึ้นหรือน้อยลง หากพร้อมแล้วเรามาดูกันเลยค่ะ เครดิตภาพ : unsplash พฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงโควิด เครดิตภาพ : unsplash เรียกได้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคหรือกำลังการใช้สอยใช้จ่ายของหลาย ๆ คนหรือหลาย ๆ ครอบครัวนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ต้นเหตุมาจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่นั้นเป็นในแนวของการระบาดแบบละอองฝอย ซึ่งหากมีการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อแล้วจะอยู่ในอากาศได้นานมาก ๆ และไวรัสตัวนี้จะมึชีวิตอยู่ 2-3 วันเลยหล่ะค่ะ ดังนั้นทำให้ไวรัสโควิด 19 นั้นน่ากลัวและอันตรายมาก ๆ จึงต้องมีมาตราการควบคุมและเฝ้าระวังในเบื้องต้นก็คือ การห้ามอยู่ในพื้นที่แออัด(โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่เปิดแอร์จะอันตรายมาก) เว้นระยะห่างกัน เมื่อเห็นแบบนี้แล้วนั้นก็ส่งผลต่อไปยังเรื่องด้านการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งจะต้องมีความจำเป็นปิดชั่วคราวจึงทำให้ธุรกิจประเภทโรงแรมหรือแหล่งที่พักต่าง ๆ จำต้องปิดชั่วคราวไปด้วยหรือบางรายอาจถึงขั้นจะตัองปิดบริการถาวรเลยทีเดียวค่ะ ส่งผลให้พนักงานหรือลูกจ้างหลาย ๆ คนโดนพักงานเป็นเวลาหลากหลายเดือน หรือ lay off ออกจากงานไป หรือบางบริษัทที่ไม่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวก็ต้องปิดตัวลงเพราะขาดรายได้ จากเหตุผลดังกล่าวทำให้หลากหลายคนนั้นมีการตกงานเป็นจำนวนมากและแน่นอนค่ะการหางานในช่วงเวลาแบบนี้นั้นยากมาก ๆ ทำให้ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค มีการระมัดระวังในการซื้อของมากยิ่งขึ้น หรือหากอยู่กันเป็นครอบครัวก็ต้องมีการวางแผนในการใช้เงินอย่างรัดกุม จะซื้อจะใช้อะไรก็ต้องมีการคิดอย่างรอบคอบ ซึ่งจะซื้อทีละมาก ๆ และเน้นของที่มีขนาดใหญ่ สินค้าที่ขายได้มากขึ้นในช่วง Covid-19 Low Involvement เครดิตภาพ : unsplash ของใช้อุปโภคบริโภค แน่นอนค่ะว่าเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นและสำคัญของผู้บริโภคทุกคนและยิ่งในช่วงนี้นั้นยิ่งมี Demand ที่สูงและเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความสำคัญและจำเป็นในการดำรงชีวิต ยิ่งในช่วงเวลาแบบนี้มีการกักตัวเกิดขึ้นทำให้เราอาศัยในบ้าน มีเวลาอยู่กับบ้านเพิ่มมากขึ้น การทานอาหารและการใช้ก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น และของประเภทนี้นั้นผู้บริโภคมักจะซื้อครั้งละจำนวนมาก ๆ อาทิเช่น ข้าวสารไซด์ใหญ่ขึ้น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ซื้อเป็นแบบแพ็คใหญ่ ๆ เพราะว่าจะมองว่ามันคุ้มค่ามากกว่า มีราคาที่ถูกกว่าค่ะ หรือหากเป็นแบรนด์ที่มีสินค้าทดแทน และสินค้าทดแทนนั้นมีราคาที่ถูกกว่า ผู้บริโภคบางรายก็อาจจะหันไปซื้อสินค้าทดแทนเพื่อทดแทน เป็นต้น สินค้าที่ขายได้น้อยลงจากเศรษฐกิจช่วง Covid-19 High Involvement เครดิตภาพ : unsplash1 / unsplash2 / unsplash3 / unsplash4 เป็นพวกของที่มีราคาแพงราคาสูง อาทิเช่น โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ยานพาหนะต่าง ๆ รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสิ่งของเหล่านี้จะ Demand ที่ต่ำมาก ๆ เพราะในเศรษฐกิจที่เรียกว่าถดถอยแบบนี้แล้วนั้นผู้บริโภคยังไม่เห็นถึงความสำคัญและจำเป็นในของเหล่านี้ ดังนั้นธุรกิจที่ขายของประเภทนี้ต้องมีการสื่อสาร โฆษณาไปยังผู้บริโภคอยู่เสมอ ๆ เป็นเสมือนการย้ำ จดจำแบรนด์เพื่อรักษาลูกค้าไว้ Retail & Services เครดิตภาพ : unsplash1 / unsplash2 / unsplash3 / unsplash4 คือพวกร้านค้าปลีกและงานที่เป็นบริการ ไม่ว่าจะเป็นพวกห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หรือเล็กก็ต่างได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น รวมถึงร้านเกี่ยวกับบริการต่าง ๆ ร้านเสริมสวย ร้านนวด ผับบาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากฤทธิ์ของไวรัสโควิด 19 เพราะมีการให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น โดยรัฐบาลได้ออกมาตราการให้ปิดร้านค้า ห้างประเภทนี้ทุกชนิดเพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้น อาทิเช่น หากเป็นร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่ อาจจะมีการส่งกับ Food Delivery หรือเป็นรูปแบบ Take home แทน หรือพวกร้านเสริมสวยก็อาจจะมีการให้บริการโดยให้ช่างไปหาที่บ้าน เป็นต้น ซึ่งเมื่อโควิดหายอาจจะมีแนวโน้วว่าลูกค้าหันกลับมาใช้บริการมากขึ้นเท่าตัว ช่องทางในการสั่งซื้อของในวิกฤต Covid-19 เครดิตภาพ : unsplash1 / unsplash2 เรื่องช่องทางในการสั่งซื้อของในช่วงนี้ที่ปลอดภัยและ safe ที่สุดก็คือ 'ช่องทางแบบออนไลน์' เพราะหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านไปจับจ่ายซื้อของซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส อาทิเช่น คุณแม่บ้านอาจจะมีการจับจ่ายของสดผ่านช่องทางออนไลน์ Big C online,Tesco Lotus ช้อปออนไลน์ หรือ Robinson เป็นต้น จะเห็นว่ามีหลากหลายช่องทางมากค่ะ หรือแม้กระทั้งในการสั่งอาหาร เราก็ไม่จำเป็นต้องมีการออกจากบ้านเลยค่ะ อาจจะเลือกใช้บริการของ 'Food Delivery' ในขณะนี้ได้รับความนิยมและมีการใช้งานจำนวนมากเพราะ สะดวกรวดเร็ว ค่าส่งมีราคาไม่แพง และไม่ต้องออกจากบ้าน เป็นการลดความเสี่ยงได้ดีเลยหล่ะค่ะ อาทิเช่น Grab Food,Food Panda หรือ Line man เป็นต้น ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ "COVID-19" ทำคนไทยกังวลเรื่องเศรษฐกิจมากสุดในเอเปก ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่าเจ้าไวรัส Covid 19 ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในด้านของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ทำให้หลาย ๆ เกิดชะงักและชะลอตัวลงมาก ๆ เราก็อยากเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการทุกท่านที่กำลังเผชิญปัญหานี้นะคะ 🙂❤️