‘เตือนอเมริกันหนีออกจากยูเครน’ ชี้ รัสเซียอาจบุกถล่มได้ทุกเมื่อ หลังเริ่มซ้อมรบใหญ่กับเบลารุส ปิดตายทะเลดำ

ล่าสุดมีรายงานว่าการเจรจาทางการทูตระหว่างรัสเซีย ยูเครน ฝรั่งเศสและเยอรมนี เพื่อคลี่คลายวิกฤตที่กรุงเบอร์ลิน ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ขณะที่ สหรัฐฯ ประเมินว่าการโจมตีจากรัสเซียอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเตือนให้พลเมืองอเมริกันออกจากยูเครนตั้งแต่บัดนี้
---เตือนชาวอเมริกันออกจากยูเครน---
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า เตือนพลเมืองอเมริกันให้ออกจากยูเครนตั้งแต่บัดนี้ แต่จะไม่ส่งทหารเข้าไปช่วยอพยพออกมา หากว่ารัสเซียบุกยูเครน เพราะการทำเช่นนั้น อาจจุดชนวนให้เกิด “สงครามโลก” ขึ้น และจะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างแย่ลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้มีชาวอเมริกันอยู่ในยูเครนประมาณ 30,000 คน
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า เราไม่ได้กำลังจัดการกับองค์กรก่อการร้าย แต่กำลังเกี่ยวข้องกับประเทศที่มีกองทัพใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และสิ่งต่าง ๆ อาจเปลี่ยนแปลงในทางเลวร้ายได้อย่างรวดเร็ว
ไบเดนยังกล่าวถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียว่า เขาเชื่อว่าปูตินไม่โง่พอที่จะบุกยูเครน และฉลาดพอที่จะไม่ทำสิ่งใด ที่จะส่งผลกระทบในทางลบต่อคนอเมริกันในยูเครน
ท่าทีของไบเดนมีขึ้นในการให้สัมภาษณ์ NBC News เป็นการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกของเขาในปีนี้
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ออกมาเตือนเช่นกันว่า ให้ชาวอเมริกันออกจากยูเครนทันที และขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังยูเครนด้วย
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ เคยเตือนชาวอเมริกันให้รีบออกจากยูเครนมาแล้ว ให้เหตุผลเดียวกันคือ ภัยคุกคามเพิ่มมากขึ้น จากการเคลื่อนไหวทางทหารของรัสเซีย รวมถึงการระบาดของโควิด-19 แต่คำเตือนในเดือนที่แล้ว ยังไม่ถึงขั้นให้เดินทางออกจากยูเครนทันทีเหมือนครั้งล่าสุดนี้
ไบเดนเคยกล่าวก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาว่า จะไม่มีการส่งทหารสหรัฐฯ เข้าไปในยูเครน เพื่อช่วยขัดขวางไม่ให้รัสเซียบุกยูเครน เนื่องจากยูเครนไม่ได้เป็นประเทศพันธมิตรอย่างเป็นทางการ
เมื่อเดือนที่แล้ว ไบเดนเคยทำให้รัฐบาลยูเครนตกใจมาก เมื่อเขากล่าวว่า หากรัสเซียบุกยูเครน “เพียงเล็กน้อย” สหรัฐฯ ก็อาจลงโทษรัสเซียแบบรุนแรงน้อยลง เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนรายหนึ่งถึงกับพูดว่า คำพูดของไบเดนดังกล่าว เหมือนเป็นการ “ไฟเขียว” ให้รัสเซียบุกยูเครนได้
---รัสเซีย-เบลารุสซ้อมรบครั้งใหญ่---
สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซีย รายงานว่า ทางการรัสเซียไม่ปฏิเสธที่จะอพยพเจ้าหน้าการทูตของตนออกจากยูเครน เพื่อคุ้มครองพวกเขาจากการยั่วยุของยูเครนและประเทศที่สาม
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตก ประเมินว่า รัสเซียจะบุกยูเครนทุกเมื่อ นั่นคือการเริ่มต้นซ้อมรบร่วมกันระหว่างรัสเซียกับเบลารุสนาน 10 วัน ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของเบลารุส ซึ่งใกล้กับพรมแดนโปแลนด์และยูเครน
กลุ่มชาติพันธมิตรป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ชี้ว่า การซ้อมรบดังกล่าว ถือเป็นการระดมอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังประเทศอดีตสหภาพโซเวียตครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น
นาโต คาดว่า จะมีทหารรัสเซียราว 30,000 นาย เข้าร่วมการซ้อมรบกับเบลารุส แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่แน่ชัดว่ามีอาวุธนิวเคลียร์เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบด้วยหรือไม่ แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า จรวด Iskander-M ซึ่งนาโตชี้ว่ามีการนำไปยังเบลารุส สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ด้วย
โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึงการซ้อมรบครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่จริงจังอย่างมาก เนื่องจากว่า ทั้งรัสเซียและเบลารุส "กำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน"
ขณะที่ สหรัฐฯเรียกการซ้อมรบนี้ว่า "เป็นการทำให้สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก"
ด้านผู้เชี่ยวชาญ มองว่า การซ้อมรบร่วมครั้งนี้ เป็นการส่งสาส์นถึงชาติตะวันตกและยูเครนให้เห็นถึงศักยภาพของรัสเซียในการทำสงครามอย่างจริงจัง
---ยูเครนซ้อมรบตอบโต้---
ยูเครน ระบุว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างรัสเซียกับเบลารุสเป็นการเพิ่มแรงกดดันทางจิตวิทยาแก่ยูเครน ขณะที่ ยูเครนได้เดินหน้าซ้อมรบเมื่อวานนี้ (10 กุมภาพันธ์) เช่นกัน เพื่อตอบโต้การซ้อมรบร่วมในเบลารุส
โอเลคซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครน เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ ยูเครนจะเริ่มซ้อมรบตั้งแต่วันที่ 10 -20 กุมภาพันธ์ และกองกำลังติดอาวุธจะฝึกซ้อมด้วยโดรน Bayraktar และขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Javelin และ NLAW ที่ได้รับจากพันธมิตรต่างชาติ แต่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนทหารและอาวุธที่ร่วมซ้อมรบแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยูเครนยังกล่าวหารัสเซีย ว่าปิดทางเข้าสู่ทะเล ขณะที่รัสเซียเตรียมจัดการซ้อมรบทางทะเลในสัปดาห์หน้า ด้านรัสเซียประกาศคำเตือนตามแนวชายฝั่ง ว่าจะมีการยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่
ดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน กล่าวว่า ทะเลอาซอฟ ถูกปิดกั้นอย่างสิ้นเชิง และทะเลดำก็ถูกกองทัพรัสเซียตัดขาดเกือบทั้งหมด
กระทรวงต่างประเทศของยูเครน ระบุว่า นี่เป็นการซ้อมรบในพื้นที่กว้างใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเรือได้ตามปกติ
ด้านโอเล็กซี เรซนีคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ทวีตข้อความว่า น่านน้ำสากลของทะเลทั้ง 2 แห่ง ถูกรัสเซียปิดแล้วเรียบร้อย
ความตึงเครียดในทะเลดำและทะเลอาซอฟ ระหว่างรัสเซียและยูเครน อยู่ในระดับสูง ตั้งแต่รัสเซียผนวกเอาไครเมียเป็นของตนในปี 2014 และในปี 2018 รัสเซียก็ยึดเรือรบยูเครน 3 ลำ การซ้อมรบทางทะเลนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของยูเครนนั้น เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับการซ้อมรบร่วมระหว่างรัสเซียกับเบลารุส
---ปฏิริยาชาวรัสเซียและยูเครน---
รัสเซียส่งรถถัง, ปืนใหญ่และทหารอีกกว่า 1 แสนนาย ไปประจำการบริเวณพรมแดนที่ติดกับยูเครน แต่ปฏิเสธมาตลอดว่า ไม่มีแผนที่จะบุกยูเครน ขณะที่ สหรัฐฯและชาติตะวันตกอื่น ๆ เตือนว่า การโจมตีอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ชาวรัสเซียจำนวนมากไม่เชื่อว่ารัสเซียเตรียมรุกรานยูเครนตามที่ถูกกล่าวหา แต่หากเกิดสงครามขึ้น ก็ถือเป็นความผิดของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกมากกว่า
ขณะที่ ชาวยูเครนหลายคนที่อาศัยอยู่ชานเมืองในภูมิภาคโดเนตสค์ ใกล้กับพื้นที่กองทัพยูเครนกำลังต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียระบุว่า รู้สึกเบื่อหน่ายกับความขัดแย้งเหลือเกิน และหากเกิดสงครามขึ้นจริง พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน
---ท่าทีจากนานาชาติ---
ฝรั่งเศสเรียกการซ้อมรบร่วมของรัสเซียกับเบลารุสว่า “เป็นการแสดงท่าทีที่รุนแรง”
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร กล่าวระหว่างเยือนโปแลนด์ว่า หากทหารรัสเซียบุกยูเครน จะเกิดเหตุการณ์นองเลือด และเขาคิดว่า ทุกคนในรัสเซียต้องเข้าใจสิ่งนี้ ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรได้ส่งทหารอีกราว 1,000 นาย ไปให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในภูมิภาค
จอห์นสัน และ มาแตอุช มอราวีแยตสกี นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ เดินทางไปเยี่ยมทหารอังกฤษที่ศูนย์บัญชาการกองพลน้อยหุ้มเกราะวอร์ซอว์ที่ 1 ซึ่งผู้นำโปแลนด์ กล่าวขอบคุณจอห์นสัน ที่ส่งทหารมายังโปแลนด์
ขณะที่ ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เดินทางเยือนกรุงมอสโกของรัสเซียในวันพฤหัสบดี (10 กุมภาพันธ์) และหารือกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เพื่อหาหนทางทางการทูตคลี่คลายความขัดแย้งประเด็นรัสเซีย-ยูเครน
โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้เรียกร้องให้เปิดช่องทางทางการทูตทุกช่องทาง แต่พันธมิตรก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อมหากรัสเซียบุกยูเครน เพื่อรับประกันความมั่นคงในยุโรป และเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จ
---การเจรจาที่กรุงเบอร์ลินล้มเหลว---
มีรายงานว่า การเจรจาที่มีเป้าหมายเพื่อยุติการต่อสู้ระหว่างกองทัพยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียที่กรุงเบอร์ลินของเยอรมนีไม่ประสบความสำเร็จ
แอนดรีย์ เยอร์มัคทูตของยูเครน กล่าวว่า แม้จะยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แต่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะพูดคุยกันต่อไป
ขณะที่ ดมิทรี โคซัค ทูตรัสเซียระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่การเจรจาครั้งนี้ จะทำให้รัสเซียและยูเครนตีความข้อตกลงปี 2015 ที่ต่างกันออกไป
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Reuters