หญิงแกร่งยูนนานผู้พลิกดินให้เป็นอาชีพด้วย "สตรอว์เบอร์รี"

(แฟ้มภาพซินหัว :จางกุ้ยเซียงและสามีกำลังดูแลสตรอว์เบอร์รี)

คุนหมิง, 13 ม.ค. (ซินหัว) -- "คุณดูสิ ฉันสามารถทำงานได้ไม่เหมือนกับคนพิการเลยใช่ไหม?" จางกุ้ยเซียง กล่าวกับนักข่าวขณะตัดเล็มต้นสตรอว์เบอร์รีอย่างเชี่ยวชาญ ไม่มีทีท่าเหนื่อยล้าให้เห็นแม้แต่น้อย

แวบแรกที่เห็น นักข่าวไม่สามารถบอกได้เลยว่า "จางกุ้ยเซียง" เป็นผู้พิการระดับ 2 ตามการจัดประเภทผู้พิการของจีน ทั้งยังเป็นแม่ของเด็กหญิงวัย 11 ปีผู้มีภาวะสมองพิการ

จางอาศัยอยู่ในอำเภอซีโฉว แคว้นปกครองตนเองเหวินซาน กลุ่มชาติพันธุ์จ้วงและเหมียว มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งและหน้าดินถูกทำลายมากจนเผยให้เห็นชั้นหิน และเคยถูกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่น่ามีคนอาศัยอยู่ได้ อย่างไรก็ดี ดินแดนหินแห่งนี้กลับปลุกจิตวิญญาณแห่งความหวังให้แก่จางและชาวบ้านในอำเภอคนอื่นๆ ที่เชื่อว่า "ความหวังไม่ใช่การรอคอย แต่คือการลงมือทำ"

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 จางได้ให้กำเนิดลูกสาวคนเล็กที่มีภาวะสมองพิการ เธอและสามีจึงจำเป็นต้องพาลูกสาวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง อยู่มาวันหนึ่งในปี 2013 จางประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และอยู่ในอาการโคม่านาน 10 วัน หลังฟื้นขึ้นมา หมอบอกกับเธอว่ากระดูกส่วนคอและกระดูกสันหลังได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แม้จะเข้ารับการผ่าตัด แต่มีความหวังเพียงเล็กน้อยที่เธอจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง นับแต่นั้นมาครอบครัวเธอจึงตกอยู่ในที่นั่งลำบาก

"ฉันจะยอมแพ้ไม่ได้" ด้วยความคิดเช่นนี้ จางจึงเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บไปพร้อมๆ กับเริ่มต้นวางแผนทำธุรกิจ เธอบอกกับตัวเองว่า "เราจะต้องลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ" แม้จะไม่มีเงินไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล แต่สามารถออกกำลังกายด้วยเชือกได้เองที่บ้าน โดยขณะที่จางยังคงนอนรักษาตัวอยู่นั้น "อู๋ซิ่งหรง" สามีของเธอ เป็นผู้แบกรับภาระทั้งหมดไว้ จนกระทั่งราว 1 ปีถัดมา จางสามารถกลับมาลุกขึ้นยืนได้ราวปาฏิหาริย์

ต่อมาในปี 2015 ด้วยความช่วยเหลือจากสมาคมผู้พิการประจำอำเภอ จางที่ยังรับผลกระทบสืบเนื่องหลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ได้เช่าที่ดินสำหรับปลูกสตรอว์เบอร์รีขนาด 5 หมู่ (ราว 2 ไร่) และก้มหน้าก้มตาทำงานในไร่สตรอว์เบอร์รี่ต่อไปอย่างไม่ลดละ โดยเธอมีรายได้จากการขายสตรอว์เบอร์รีที่ 15 หยวน (ราว 69 บาท) ต่อครึ่งกิโลกรัมในปีแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 20 หยวน (ราว 92 บาท) ในปีถัดมา ก่อนจะพุ่งแตะ 25 หยวน (ราว 115 บาท) ในปีที่สาม

ปัจจุบันจางก่อตั้งไร่สตรอว์เบอร์รีเป็นของตนเองในชื่อ "สหกรณ์สตรอว์เบอร์รีกุ้ยเซียง" พร้อมทั้งมุ่งมั่นพัฒนาการปลูกสตรอว์เบอร์รีสู่ระดับมืออาชีพ เพื่อช่วยเหลือผู้พิการคนอื่นๆ และครอบครัวยากจนในหมู่บ้านให้หลุดพ้นจากความยากจนไปด้วยกัน

ทั้งนี้ มณฑลอวิ๋นหนานมีผู้พิการที่มีฐานะยากจนอาศัยอยู่ราว 410,000 คน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากสมาคมผู้พิการประจำมณฑล และความพยายามอย่างไม่ย่อท้อของพวกเขาเอง ทำให้พวกเขาสามารถหลุดพ้นจากความยากจนและมีชีวิตที่ดีขึ้น

"ความหวังคือการลงมือทำ! ช่วงเวลาที่ยากลำบากผ่านพ้นไปแล้ว อนาคตจะต้องค่อยๆ ดีขึ้นอย่างแน่นอน" จางกล่าวปิดท้ายขณะมองไปรอบๆ ไร่สตรอว์เบอร์รีของตนด้วยแววตาเปี่ยมหวัง