"เครือสหพัฒน์" ทุ่ม 1,000 ล้านบาท เปิดคอมมูนิตี้มอลล์ KINGSQUARE

การเปิดตัวโครงการ KINGSQUARE คอมมูนิตี้ มอลล์ แห่งใหม่ของเครือสหพัฒน์ นั้น คุณธนินธร โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิง สแควร์ จำกัด เผยว่า ต้องการให้ คอมมูนิตี้ มอลล์ แห่งนี้ เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ครบวงจร สำหรับคนในพื้นที่ย่านพระราม 3 จึงได้รวบรวมร้านค้าและบริการหลากหลาย มาเติมเต็มความต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าใจกลางเมือง ซึ่งศูนย์ค้าปลีกแห่งใหม่นี้ มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ KINGSQUARE ซึ่งเป็นโครงการ มิกซ์ยูส ขนาดใหญ่ด้วยเงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงเรียน นานาชาติคิงส์คอลเลจ และที่พักอาศัย คือ คิงสแควร์ เรสซิเดนซ์ และ ดุสิต สูทส์ คิงสแควร์

และยังเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของเครือสหพัฒน์ ภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และสุดท้าย คือกลุ่มการพัฒนาอุตสาหกรรม ค้าปลีก และบริการ ซึ่งมอลล์แห่งนี้ ถูกพัฒนาเป็น รีเทล แพลตฟอร์ม ที่รองรับทั้งสินค้าและบริการเพื่อเชื่อมโยงกับธุรกิจในเครือ

โครงการ KINGSQUARE คอมมูนิตี้ มอลล์ เป็นโครงการคอมมูนิตี้ มอลล์ แห่งที่ 2 ของ เครือสหพัฒน์ ต่อจาก เจปาร์ค ที่ศรีราชา และเกิดขึ้นจากความตั้งใจของเครือฯ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในย่านพระราม 3 โดยเฉพาะ

โดยย่านพระราม 3 เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีประชากรรวมกันกว่า 250,000 คน และมีกำลังซื้อสูง ดังนั้น กลุ่มเป้าหมาย จะมีทั้ง กลุ่มครอบครัวจากโรงเรียนนานาชาติ คิงส์ คอลเลจ ที่มีกว่า 1,600 ครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่มมีรายได้สูง และมีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างพิถีพิถัน กลุ่มที่อยู่อาศัยในย่านพระราม 3 สาทร และสาธุประดิษฐ์ และกลุ่มคนทำงานในย่านพระราม 3 

ด้านคุณ จักรกฤษณ์ สันติรัตนกุล กรรมการ บริษัท คิง สแควร์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน มีผู้เช่าพื้นที่แล้วถึงร้อยละ 95 และมีร้านค้าเปิดให้บริการแล้วมากกว่าร้อยละ 80 ส่วนการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ จะมีขึ้นอีกครั้งภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ ความน่าสนใจของโครงการคอมมูนิตี้ มอลล์ คือ การมีร้านผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นสาขาแรกมาเปิดตัวในไทยคือ สแตนดาร์ด โพรดักส์ เป็นแบรนด์ร้านค้าปลีกในเครือ ไดโซะ ที่ขายสินค้าส่วนใหญ่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่ญี่ปุ่นร้านดังกล่าวจะขายสินค้าราคาตั้งแต่ 300 เยน ขึ้นไป

และยังมีร้านเบอร์เกอร์ชื่อดัง จากญี่ปุ่นมาเปิดตัวในไทยสาขาแรก คือ ไดโชกุน เบอร์เกอร์ (DAISHOGUN BURGER) ร้านแชมเปี้ยนเบอร์เกอร์อันดับ 1 ของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท สห โอชา จำกัด บริษัทจัดตั้งใหม่ในเครือสหพัฒน์ ที่ต้องการขยายพอร์ตกลุ่มธุรกิจร้านอาหารและบริการให้เติบโต

โดยเครือสหพัฒน์ มองว่าธุรกิจร้านอาหารและบริการจะมีความทนทานต่อทุกสภาพเศรษฐกิจ แม้แต่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หากบริหารใด้ดี ธุรกิจร้านอาหาร ก็จะยังเดินหน้าต่อไปได้

ก่อนหน้านี้ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI รายงานภาพรวมธุรกิจ ต่อตลาดหลักทรัพย์ โดยแจ้งว่า ในช่วงไตรมาส 1 ได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ ในชื่อ บริษัท สหโอชา จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการร้านอาหาร และบริการอื่น ๆ โดย SPI ถือหุ้นทั้ง 100% 

จากนั้น ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัท สห โอชา ได้เข้าลงทุนในบริษัท คาเนโกะ ฮันโนะสึเกะ (ประเทศไทย) จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 76 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจหลักในการขายอาหารและเครื่องดื่ม เป็นร้านข้าวหน้าเทมปุระ

ทำให้ปัจจุบัน สหโอชา มีแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในกลุ่ม คือ ร้านข้าวหน้าเทมปุระ ฮันโนะสึเกะ, ไดโชกุน เบอร์เกอร์ และร้านปิ้งย่าง กิวคาขุ 

ส่วนภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน คุณ จักรกฤษณ์ ประเมินว่า เริ่มทรงตัว และคาดว่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง