กสิกรฯคาด จีนแล้งหนัก หนุนส่งออกข้าวไทยไปแดนมังกร!

จีนเผชิญคลื่นความร้อนและภัยแล้งรุนแรงที่สุดในปี 2565 โดยเผชิญคลื่นความร้อนที่ยาวนานที่สุดในรอบ 60 ปี ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายลดลงอย่างมาก และเมื่อในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ทางการจีนได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านภัยแล้งระดับชาติแล้ว

ขณะนี้ แม้ว่าสถานการณ์ได้เริ่มบรรเทาลง แต่คาดว่า วิกฤติคลื่นความร้อนนี้อาจลากยาวและส่งผลต่อพืชที่กำลังจะเก็บเกี่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพิ่มความต้องการนำเข้าจากจีน โดยเฉพาะข้าว ข้าวสาลี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า จีนน่าจะนำเข้าข้าวจากไทยเป็นหลักในช่วงที่เหลือของปี เพื่อชดเชยผลผลิตข้าวที่เสียหายของจีน 

ขณะที่แหล่งนำเข้าข้าวอื่น อาทิ เวียดนาม ปากีสถาน รวมถึงอินเดีย น่าจะมีข้อจำกัดด้านผลผลิตและมาตรการจำกัดการส่งออก แต่ต้องจับตาสถานการณ์น้ำท่วมในไทยและเศรษฐกิจจีนที่ยังมีความไม่แน่นอนอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาจีนนำเข้าจากไทยในปริมาณที่มากกว่าแหล่งนำเข้าอื่นๆ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ข้าวหอมมะลิไทยน่าจะได้รับผลบวกในการส่งออกไปจีน 

ซึ่งคาดว่า ในช่วงเดือนกันยายน - ธันวาคม 2565 ไทยอาจมีปริมาณการส่งออกข้าวหอมมะลิไปจีนอยู่ที่ราว 95,000-100,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7-11.3 จากปีก่อน และทำให้ภาพรวมทั้งปี 2565 การส่งออกข้าวหอมมะลิของไทยไปจีนอาจอยู่ที่ราว 155,480-160,480 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7-22.5 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

นอกจากข้าวแล้ว คาดความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของจีนจะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะทำให้ไทยได้รับอานิสงส์ในการส่งออกมันสำปะหลัง เนื่องจากเป็นสินค้าทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ 

สำหรับในระยะข้างหน้า การส่งออกข้าวไทยไปจีนอาจเผชิญความท้าทายจากนโยบายของทางการจีนที่เร่งลงทุนด้านการเกษตรเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ดังนั้น ไทยควรเตรียมความพร้อม เช่น เน้นผลิตสินค้าเกษตรให้เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างข้าวพื้นนุ่ม รวมถึงการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ อีกทั้งควรขยายไปยังตลาดศักยภาพใหม่ๆ นอกจากจีน เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย เกาหลีใต้ เป็นต้น

ข้อมูลจาก : TNN ONLINE

ภาพจาก : TNN