เมื่อถึงวันหยุดเพื่อน ๆ แต่ละคนก็จะมีวิธีพักกายพักใจที่แตกต่างกัน ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็เลือกที่จะพักผ่อนในวันหยุดโดยการออกไปเที่ยว ซึ่งบอกเลยว่ายุคสมัยนี้ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในสนามบินนานาชาติ บางครั้งเวลามีเสียงประกาศ หรือตามป้ายประกาศ อาจจะเต็มไปด้วยภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่รู้คำศัพท์ต่าง ๆ ที่ใช้กันในสนามบิน เราก็อาจจะสื่อสารกับพนังงานไม่เข้าใจ วันนี้เราจึงจะมาพูดถึงคำศัพท์สำคัญ ๆ และประโยคที่มักจะต้องใช้ในสนามบินนั่นเองค่ะ ใครพร้อมแล้วไปลุยกันเลย !มาเริ่มต้นกันที่คำศัพท์สำคัญ ๆ ในสนามบินกันก่อนดีกว่าAir Ticket ซึ่งก็คือ " ตั๋วเครื่องบิน " นั่นเองจ้า คำนี้ทุกคนจะไม่ทราบไม่ได้เลย เพราะถ้าเพื่อน ๆ ไม่มี Air Ticket ก็จะไม่สามารถจะบินไปเที่ยวตามจุดหมายที่แพลนไว้ได้น้า Airline คำนี้หมายถึง " สายการบิน " ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็จะมี Air Asia, VietJetAir, Jetstar เชื่อว่าเพื่อน ๆ พอจะนึกออกกันใช่มั้ยคะBaggage / Luggage สำหรับสองคำนี้หมายถึง " กระเป๋าเดินทาง " แต่ในส่วนของ " Baggage " จะเป็นกระเป๋าเดินทางที่ต้องมีของอยู่ข้างใน แต่สำหรับ " Luggage " จะเป็นกระเป๋าเดินทางที่มีหรือไม่มีของอยู่ด้านในก็ได้ นั่นเองค่ะCarry on คำนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อคุณมี " กระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง " หรือกระเป๋าที่ไม่โหลดนั่นเองจ้ามาต่อกันด้วยคำศัพท์อีก 8 คำ ที่จะใช้คู่กัน กันดีกว่าคู่ที่ 1 Arrivals " เที่ยวบินขาเข้า " เมื่อเราไปถึงสนามบิน เชคอินเสร็จเรียบร้อย สิ่งที่เราจะต้องมองหานั่นก็คือ " Arrivals " นั่นเองค่ะ Departures " เที่ยวบินขาออก " เมื่อเราถึงสนามบินปลายทางแล้วเดินออกมาด้านนอกก็จะเห็นป้าย " Departures "คู่ที่ 2 Domestic Flight " เที่ยวบินภายในประเทศ " อย่างเช่น เวลาเพื่อน ๆ บินจากดอนเมืองไปจังหวัดตรัง เป็นต้น International Flight " เที่ยวบินต่างประเทศ " อย่างเช่น เวลาเพื่อนบินจากสุวรรณภูมิไปโตเกียว นั่นเองจ้าคู่ที่ 3 Connecting Flight " เที่ยวบินต่อ " อย่างเช่น เพื่อน ๆ ต้องการจะไปเที่ยวโอซาก้า แต่เพื่อน ๆ ไม่สามารถบินจากสุวรรณภูมิไปลงโอซาก้าได้เลย จะต้องไปต่อเครื่องที่โฮจิมินห์ แบบนี้จะเรียกว่า " Connecting Flight " Direct Flight " เที่ยวบินตรง " อย่างเช่น เพื่อน ๆ ต้องการจะไปเที่ยวโอซาก้า แล้วสามารถบินตรงจากสุวรรณภูมิไปถึงโอซาก้าได้เลยโดยไม่ต้องแวะต่อเครื่อง แบบนี้จะเรียกว่า " Direct Flight " นั่นเองค่ะคู่ที่ 4 One-way Trip " เดินทางเที่ยวเดียว " กรณีที่เพื่อน ๆ ต้องการจะบินไปเที่ยวแบบยาว ๆ ยังไม่มีกำหนดที่จะจองตั๋วกลับ จะเรียกว่า " One-way Trip " Round Trip " เดินทางไป - กลับ " กรณีที่เพื่อน ๆ ไปเที่ยวในระยะสั้น มีการจองตั๋วทั้งขาไปและขากลับ จะเรียกว่า " Round Trip "เพื่อน ๆ รู้คำศัพท์พื้นฐานในสนามบินกันแล้ว งั้นต่อไปเรามาดูกันว่าเวลาเช็คอินจะต้องพูดอะไรบ้างเมื่อเราไปถึงสนามบินแล้วต้องการจะหาโต๊ะเช็คอิน เราก็จะต้องถามพนักงานภาคพื้นว่า " Excuse me, Where is the + สายการบินที่เราจองตั๋วไว้ + check-in desk ? " เช่น " Excuse me, Where is the Singapore Airlines check-in desk ? "หากเพื่อน ๆ ไม่ทราบว่าสามารถเช็คอินกระเป๋าได้กี่ใบ จะต้องถามว่า " How many bags can I check in ? "ในกรณีที่กระเป๋าของเพื่อน ๆ มีน้ำหนักเกิน พนังงานจะบอกว่า " I'm afraid your bag is overweight. "และหากคุณอยากรู้ว่าน้ำหนักกระเป๋าของคุณเกินไปเท่าไหร่ สามารถถามพนักงานว่า " How much is the fee ? "ในกรณีที่กระเป๋าของคุณมีสัมภาระที่จะต้องระวังแตกอยู่ สามารถบอกพนักงานว่า " Please mask this bag as fragile. "ถ้าหากว่าคุณไปไม่ทันเวลา ทำให้คุณตกเครื่อง สามารถพูดกับคนที่บ้านได้ว่า " I missed the flight. "หรือกรณีที่เที่ยวบินเกิดความล่าช้าก็สามารถพูดได้ว่า " My flight was delayed. "แต่ถ้าหากว่าเที่ยวบินตรงเวลาตามที่ระบุไว้ สามารถพูดได้ว่า " My flight on schedule " เป็นยังไงกันบ้างคะกับคำศัพท์และประโยคที่พบได้บ่อยในสนามบิน เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมีแพลนจะไปเที่ยวก็อย่าลืมศึกษากันด้วยนะ ขอให้สนุกกับการเดินทางค่า ปล. ภาพหน้าปกและทุกภาพที่ใช้เป็นภาพโดยนักเขียน