มองขึ้นไปบนฟ้าดูขมุกขมัวสีหม่นๆไม่สดใสเหมือนอย่างเคยเนื่องจากปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอากาศมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกวัน มีผลกระทบต่ออากาศที่เราจำเป็นต้องหายใจเข้าไป หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าฝุ่นควันเหล่านี้เกิดจากอะไร ทั้งควันจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่ไม่สมบูรณ์ ฝุ่นจากการก่อสร้าง จากโรงงานอุตสาหกรรม ควันจากการเผาป่าเผาซากวัชพืช มีการรณรงค์กันอย่างต่อเนื่องแต่หลายคนก็ไม่ค่อยให้ความสนใจ ไม่สนใจอากาศที่กำลังแย่ลง และหลายคนไม่สนใจสุขภาพปอดของตนเองด้วย!! อย่างเช่นผมเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมาประมาณสิบคนใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นเพียงสองคน อีกแปดคนไม่ใส่ โปรดอย่าชะล่าใจไปนะคุณ วันนี้พรุ่งนี้มันไม่เป็นไรแต่ถ้าสะสมเข้าไปในปอดทุกวันๆ มันจะทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาได้โดยเฉพาะโรคที่เกิดกับทางเดินหายใจของคุณเอง ซึ่งค่าความหนาแน่ของฝุ่นในช่วงต้นเดือนมกราคมถึงกลางเดือนสูงขึ้นค่อนข้างน่าเป็นห่วง และอาจจะหนักหน่วงกว่าช่วงปีที่แล้วด้วยซ้ำ แต่คนไทยกลับดูแลตัวเองน้อยลง เราไม่ค่อยเห็นใครใส่หน้ากาก และผู้คนก็ยังใช้ชีวิตกลางแจ้งเหมือนปกติ ภาพจาก : https://www.freepik.com ทำอย่างไรดีถึงจะลดปริมาณฝุ่นควันพิษนี้ลงไปได้ ในกรุงเทพฯเอง ทางกรมควบคุมมลพิษก็กำลังจะมีการออกมาตรการห้ามรถสิบล้อรถใหญ่วิ่งในเขตเมือง "วันคี่" ให้วิ่งได้เฉพาะ "วันคู่" โดยมีการตรวจเข้มโดยเฉพาะรถที่ใช้น้ำมันดีเซลที่ปล่อยควันดำ ก็ไม่รู้ว่าจะลดได้สักแค่ไหน ถึงรถใหญ่เครื่องยนต์ดีเซลจะไม่วิ่งบนถนนเลยฝุ่นควันพิษเหล่านี้มันก็ลอยมาจากที่อื่นได้อยู่ดี ซึ่งในสภาวะอากาศเช่นนี้ก็ส่งผลให้ยอดขายเครื่องฟอกอากาศขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนบางแห่งถึวกับขาดตลาด ผมขอยกตัวอย่างในต่างประเทศใกล้ๆเรา ที่เคยประสบปัญหากับฝุ่น PM 2.5 ว่าเขามีวิธีลดปัญหาฝุ่นกันอย่างไร อย่างประเทศเกาหลีใต้ ก็เคยเกิดปริมาณค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานนานเป็นเดือน เขาก็แก้ปัญหาโดยการขอความร่วมมือลดการใช้รถยนต์ ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น ตามสถานที่จอดรถในที่สาธารณะหรือตามห้างที่เป็นลานจอดรถสาธารณะ นี่เขาปิดที่จอดรถไม่ให้รถจอดเลยนะ ถ้าไม่มีที่จอดรถยนต์คนก็ลดการใช้รถยนต์ลงไปใช้บริการขนส่งสาธารณะต่างๆแทน อย่างในเมืองจีนเขาก็รณรงค์ให้ใช้จักรยาน, รถจักยานไฟฟ้า หรือใช้บริการขนส่งต่างๆแทนการใช้รถยนต์ ซึ่งก็ได้ผลดี เมืองไทยเราก็กำลังพึ่งเริ่มทำ ความจริงน่าจะคิดนโยบายและทำตั้งนานแล้วฝุ่นควันพิษเหล่านี้มันเกิดขึ้นทุกปี แต่ก็อย่างที่กล่าวมาข้างต้นนั่นละครับ มองไปรอบๆตัวทุกคนยังใช้ชีวิตกันอย่างปกติเหมือนกับอากาศยังสดชื่นอยู่ ภาพจาก : https://www.pexels.com กรมควบคุมมลพิษของไทยได้มีการจัดทำดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) โดยระดับที่กรมควบคุมมลพิษแนะนำในระดับที่ปลอดภัย คือไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่อค่าเฉลี่ยภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ระดับ โดยใช้สัญลักษณ์สีแทนคุณภาพของอากาศดังนี้ 1.) สีฟ้า/ดีมาก 2.) สีเขียว/ดี 3.) สีเหลือง/ปานกลาง 4.) สีส้ม/เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 5.) สีแดง/มีผลกระทบต่อสุขภาพ ผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 เมื่อเราได้สูดเอาฝุ่นเข้าไปในระยะเวลานานคือ จะทำให้เกิดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด มีผลต่อการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และโรคระบบทางเดินหายใจ ในระยะฉับพลันจะทำให้มีอาการ แสบจมูก แน่นจมูก หอบหืดกำเริบฉับพลัน ถ้าได้รับเชื้อโรคจะมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรงกว่าภาวะปกติ ผลเสียระยะยาวทำให้สมรรถภาพปอดลดลง และยังพบว่าเด็กที่เกิดมาจากมารดาที่ได้รับ PM 2.5 มีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ เช่น แพ้ละอองเกสรดอกไม้ ภาพจาก : https://www.freepik.com นอกจากนี้การได้รับ PM 2.5 ทำให้เกิดผลเสียต่อการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังมีผลต่อการทำงานของสมอง และการพัฒนาของสมองของเด็ก มีผลต่อการทำงานของเชลล์ภูมิคุ้มกัน เพิ่มโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอด จะเห็นได้ว่าฝุ่นPM 2.5 นั้นมีความเสี่ยงและอันตรายอย่างมากโดยเฉพาะกับ เด็ก ผู้สูงอายุ มารดาที่ตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ และคนที่ทำงานอยู่ในที่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ หากไม่ได้ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นจิ๋ว ก็จะมีความเสียงเกิดโรคต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาเป็นอย่างมาก ข้อแนะนำสำหรับการปฏิบัติตัวในกรณีที่มีระดับฝุ่น PM 2.5 สูง 1. เมื่อระดับฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับสูงควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง ปิดประตูหน้าต่างในบ้าน หากที่บ้านมีเครื่องฟอกอากาศก็ควรอยู่ในห้องที่ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศนั้น 2. ถ้าจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรใส่หน้ากากกันฝุ่นที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้ 3. ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด และโรคปอด ถุงลมโป่งพอง ควรพกยาฉุกเฉินประจำตัว และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ 4. การออกกำลังกายควรเลือกออกกำลังกายภายในสวนสาธารณะที่มีต้นไม้เยอะๆต้นไม้สามารถกรองฝุ่นให้ลดลงได้ เมื่อระดับฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับสีส้ม ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และไม่ควรสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นในขณะออกกำลังกาย เพราะจะทำให้เราหายใจแรงและเร็วขึ้น 5. ควรร่วมกันลดแหล่งกำเนิด PM 2.5 ได้แก่ ลดปริมาณรถยนต์ที่ปล่อยควันดำ ลดการปล่อยควันที่เป็นพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ลดการเผาในที่โล่ง ลดฝุ่นจากการก่อสร้างอาจต้องมีการพ่นละอองน้ำ อากาศภายนอกในตอนนี้ค่าฝุ่นอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ แม้ว่าหลายคนจำเป็นต้องออกไปทำงาน ไปทำธุระต่างๆในที่โล่งแจ้ง แต่เรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือสุขภาพของเราเอง สำหรับผู้ที่วางแผนจะออกไปข้างนอก อย่าลืมหาหน้ากากป้องกันฝุ่นมาใส่กันด้วยนะครับ สุขภาพร่างกายของเราทุกคนสำคัญมากป้องกันไว้ก่อนดีที่สุดครับ สภาพอากาศที่นิ่งๆไม่มีลมพัด และหากยังไม่มีฝนตกลงมาชะล้างฝุ่นในอากาศ เราก็ยังต้องอยู่กับฝุ่น PM 2.5 นี้ไปอีกนานครับ อยากให้ทุกท่านทุกคนรักษาสุขภาพดูแลตัวเองและดูแลคนที่ท่านรักด้วยครับ บทความโดย : กัมบี้บ็อกซ์