รีเซต

TNP ค้าปลีกกำลังซื้อสะพัด  รัฐเพิ่มวงเงินบัตรดันยอด

TNP ค้าปลีกกำลังซื้อสะพัด  รัฐเพิ่มวงเงินบัตรดันยอด
ทันหุ้น
13 ตุลาคม 2568 ( 23:50 )
23

               ภญ.อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทเตรียมความพร้อมเต็มที่เพื่อรับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 โดยเฉพาะโครงการเพิ่มวงเงินให้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่ช่วยเสริมกำลังซื้อระดับฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดหนุนยอดขายปลายปี

               ขณะที่ปัจจุบันร้านค้าภายใต้เครือ TNP ทุกสาขาในจังหวัดเชียงราย และพื้นที่ใกล้เคียง ได้เข้าร่วมโครงการของกระทรวงพาณิชย์อย่างครบถ้วน และรองรับการใช้ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เต็มระบบ โดยกลุ่มลูกค้าหลักคือครัวเรือนทั่วไป และผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายตรงของมาตรการภาครัฐ

               ทั้งนี้ มาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจรอบใหม่ในช่วงพฤศจิกายน–ธันวาคม 2568 ที่เพิ่มวงเงินใช้จ่ายต่อเดือนให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ คาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อยอดขายทันที เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มีพฤติกรรม “ใช้เต็มวงเงินทุกเดือน” และเลือกซื้อสินค้าจำเป็นจากร้านค้าธงฟ้าในพื้นที่เป็นหลัก

               “การทยอยจ่ายรายเดือนช่วยให้ลูกค้าวางแผนการใช้จ่ายได้ดีขึ้น และช่วยให้ผู้ประกอบการอย่างเรา บริหารสต็อกสินค้าและวางแผนสั่งของได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม” ภญ.อมร กล่าว

               ภญ.อมร เปิดเผยว่า แม้ในครึ่งแรกของปี 2568 ยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth : SSSG) จะยังติดลบเล็กน้อยจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เชื่อว่าช่วงไตรมาส 4/2568 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของภาคเหนือและมีเม็ดเงินจากมาตรการรัฐไหลเข้าสู่ระบบ จะเป็นจุดพลิกฟื้นสำคัญ ทำให้ยอดขายกลับมา “เป็นบวกได้”

               TNP จัดทำแผนบริหาร “Lean Stock” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหมุนเวียนสินค้า โดยเน้นสินค้าหมวดจำเป็น เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาล ผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ลูกค้าบัตรสวัสดิการนิยมซื้อ

               อีกปัจจัยสำคัญ คือภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นฐานหลักของ TNP มีนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งถือเป็นช่วงพีคของการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค

               ภญ.อมร ระบุว่า ในปี 2568 TNP ยังคงเดินหน้าแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมตั้งเป้าไว้ 5 สาขา คาดว่าภายในสิ้นปีจะสามารถเปิดได้ครบ 6 สาขา แบ่งเป็นจังหวัดเชียงราย 3 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่อีก 3 สาขา ในปัจจุบัน TNP มีสาขาในจังหวัดเชียงรายมากกว่า 30 สาขา (เฉพาะในเขตอำเภอเมืองกว่า 20 แห่ง) ส่วนในจังหวัดเชียงใหม่มีประมาณ 8 สาขา

               ในด้านเทคโนโลยี ภญ.อมร เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสนใจในการพัฒนาแพลตฟอร์มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังคงให้ความสำคัญกับ “ความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า” เป็นหลัก โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะพัฒนาเองภายในองค์กรหรือใช้ผู้ให้บริการภายนอกที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง

               ขณะเดียวกัน TNP ได้ใช้ช่องทาง “LINE Official” เป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสารกับลูกค้า รับพรีออเดอร์สินค้า และให้บริการจัดส่งถึงบ้านภายใน 1 วัน สำหรับบางสาขาในเขตเมืองที่มีระบบโลจิสติกส์รองรับครบถ้วน

               ภญ.อมร พุฒิพิริยะ ย้ำว่า  ปลายปี 2568 จะมีการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือที่ได้อานิสงส์จากมาตรการรัฐและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก TNP จะเดินหน้าขยายสาขา เพิ่มประสิทธิภาพบริหารสต็อก และเตรียมต่อยอดสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2569

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง