TNP ค้าปลีกกำลังซื้อสะพัด รัฐเพิ่มวงเงินบัตรดันยอด

#TNP #ทันหุ้น - TNP มั่นใจโค้งท้ายปียอดขายทะยาน รับเต็มมาตรการรัฐโครงการเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หนุนกำลังซื้อฐานรากพุ่ง เชื่อดัน SSSG ฟื้นแรง เดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง มีลุ้นได้มากกว่าเป้าครบ 6 สาขา
ภญ.อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทเตรียมความพร้อมเต็มที่เพื่อรับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 โดยเฉพาะโครงการเพิ่มวงเงินให้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่ช่วยเสริมกำลังซื้อระดับฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดหนุนยอดขายปลายปี
ขณะที่ปัจจุบันร้านค้าภายใต้เครือ TNP ทุกสาขาในจังหวัดเชียงราย และพื้นที่ใกล้เคียง ได้เข้าร่วมโครงการของกระทรวงพาณิชย์อย่างครบถ้วน และรองรับการใช้ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เต็มระบบ โดยกลุ่มลูกค้าหลักคือครัวเรือนทั่วไป และผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายตรงของมาตรการภาครัฐ
** เพิ่มวงเงินบัตร
ทั้งนี้ มาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจรอบใหม่ในช่วงพฤศจิกายน–ธันวาคม 2568 ที่เพิ่มวงเงินใช้จ่ายต่อเดือนให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ คาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อยอดขายทันที เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มีพฤติกรรม “ใช้เต็มวงเงินทุกเดือน” และเลือกซื้อสินค้าจำเป็นจากร้านค้าธงฟ้าในพื้นที่เป็นหลัก
“การทยอยจ่ายรายเดือนช่วยให้ลูกค้าวางแผนการใช้จ่ายได้ดีขึ้น และช่วยให้ผู้ประกอบการอย่างเรา บริหารสต็อกสินค้าและวางแผนสั่งของได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม” ภญ.อมร กล่าว
ภญ.อมร เปิดเผยว่า แม้ในครึ่งแรกของปี 2568 ยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth : SSSG) จะยังติดลบเล็กน้อยจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เชื่อว่าช่วงไตรมาส 4/2568 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของภาคเหนือและมีเม็ดเงินจากมาตรการรัฐไหลเข้าสู่ระบบ จะเป็นจุดพลิกฟื้นสำคัญ ทำให้ยอดขายกลับมา “เป็นบวกได้”
TNP จัดทำแผนบริหาร “Lean Stock” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหมุนเวียนสินค้า โดยเน้นสินค้าหมวดจำเป็น เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาล ผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ลูกค้าบัตรสวัสดิการนิยมซื้อ
** ท่องเที่ยวฟื้นตัว
อีกปัจจัยสำคัญ คือภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นฐานหลักของ TNP มีนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งถือเป็นช่วงพีคของการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค
ภญ.อมร ระบุว่า ในปี 2568 TNP ยังคงเดินหน้าแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมตั้งเป้าไว้ 5 สาขา คาดว่าภายในสิ้นปีจะสามารถเปิดได้ครบ 6 สาขา แบ่งเป็นจังหวัดเชียงราย 3 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่อีก 3 สาขา ในปัจจุบัน TNP มีสาขาในจังหวัดเชียงรายมากกว่า 30 สาขา (เฉพาะในเขตอำเภอเมืองกว่า 20 แห่ง) ส่วนในจังหวัดเชียงใหม่มีประมาณ 8 สาขา
ในด้านเทคโนโลยี ภญ.อมร เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสนใจในการพัฒนาแพลตฟอร์มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังคงให้ความสำคัญกับ “ความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า” เป็นหลัก โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะพัฒนาเองภายในองค์กรหรือใช้ผู้ให้บริการภายนอกที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
** รับพรีออเดอร์สินค้า
ขณะเดียวกัน TNP ได้ใช้ช่องทาง “LINE Official” เป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสารกับลูกค้า รับพรีออเดอร์สินค้า และให้บริการจัดส่งถึงบ้านภายใน 1 วัน สำหรับบางสาขาในเขตเมืองที่มีระบบโลจิสติกส์รองรับครบถ้วน
ภญ.อมร พุฒิพิริยะ ย้ำว่า ปลายปี 2568 จะมีการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือที่ได้อานิสงส์จากมาตรการรัฐและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก TNP จะเดินหน้าขยายสาขา เพิ่มประสิทธิภาพบริหารสต็อก และเตรียมต่อยอดสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2569
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
