แคลิฟอร์เนีย 'ดึงเบรกฉุกเฉิน' คุมโควิด-19 ลามหนัก
ลอสแองเจลิส, 18 พ.ย. (ซินหัว) -- เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ประกาศชุดมาตรการ "ฉุกเฉิน" เพื่อยับยั้งโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่ง "ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การระบาดใหญ่ของแคลิฟอร์เนีย"
แถลงการณ์ที่ออกโดยสำนักงานของนิวซัมเมื่อวันจันทร์ (16 พ.ย.) ระบุว่าเทศมณฑล 41 จาก 58 แห่งของรัฐ ซึ่งครองสัดส่วนประชากรมากกว่าร้อยละ 94 ของรัฐ ได้ถูกจัดเป็นพื้นที่สีม่วง ซึ่งเป็นระดับที่เข้มงวดสูงสุด ขณะที่มาตรการต้านโรคระบาดใหญ่ที่สอดคล้องกับระดับนี้เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันอังคาร (17 พ.ย.) ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีเทศมณฑลถูกจัดเป็นพื้นที่สีม่วงเพียง 13 แห่งในสัปดาห์ก่อน โดยพื้นที่สีม่วงจะไม่อนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมในร่มสำหรับสถานที่ต่างๆ อาทิ พิพิธภัณฑ์ สถานที่สักการะบูชา โรงยิม และร้านอาหาร
ทางการรัฐแคลิฟอร์เนียจะปรับเปลี่ยนระบบการจัดระดับดังกล่าวทุกวันอังคาร ขณะที่นิวซัมระบุว่ารัฐบาลต้องเร่งดำเนินการประเมินเนื่องจาก "จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแคลิฟอร์เนียและทั่วประเทศ"
นิวซัมเผยว่าจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตรวจพบผู้ป่วยใหม่ 10,968 ราย ในวันจันทร์ (16 พ.ย.) ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่เร็วที่สุดนับแต่การระบาดใหญ่เริ่มอุบัติขึ้น พร้อมเสริมว่าผู้ป่วยโรคโควิด-19 ครองสัดส่วนเตียงในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 48 ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นร้อยละ 38 ในช่วงเวลาเดียวกัน
"เรากำลังส่งสัญญาณเตือน แคลิฟอร์เนียกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเร็วกว่าที่เราเคยเผชิญในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่หรือแม้แต่ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา หากเราปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป อาจทำให้ระบบการดูแลสุขภาพของเราแบกรับภาระไม่ไหวและนำไปสู่หายนะในที่สุด"
แถลงการณ์ชี้ว่าแคลิฟอร์เนียกำลังเพิ่มประสิทธิภาพคำสั่งสวมสิ่งปกคลุมใบหน้า เพื่อกำหนดให้บุคคลสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะอยู่นอกบ้าน ขณะเดียวกันแคลิฟอร์เนียกำลังดำเนินแผนการเพิ่มทรัพยากรทางการแพทย์ เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น โดยเริ่มจากเทศมณฑลอิมพีเรียล ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง