ปลูกขนุนหน้าบ้านดีไหม พันธุ์อะไรดี กี่ปีได้กินผล | บทความโดย Pchalisa การปลูกต้นไม้หน้าบ้านเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทยของเรา ซึ่งการจะปลูกต้นไม้ชนิดไหน พันธุ์ไหนนั้น คนไทยเราค่อนข้างให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะเกี่ยวข้องกับความเชื่อส่วนตัวแล้ว ต้นไม้หน้าบ้านยังเชื่อมโยงกับอีกหลายๆ ประเด็น ที่ในเรื่องการปลูกต้นไม้หน้าบ้าน ผู้เขียนก็มีประสบการณ์มาบ้างเหมือนกันค่ะ ดังนั้นในบทความนี้ผู้เขียนจะมาส่งต่อว่า การมีต้นผลไม้หน้าบ้านชื่อขนุนนั้น ดีหรือไม่ดียังไงค่ะ ที่จะข้อเน้นมาในด้านการได้รับประโยชน์และด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมนะคะ ส่วนจะมีเนื้อหาอะไรน่าสนใจบ้างนั้น อ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ ดังข้อมูลต่อไปนี้ ต้องบอกว่าขนุนต้นที่ปลูกหน้าบ้านในตอนนี้ จริงๆ เกิดจากที่เดิมที่มีขนุนเกิดอยู่แล้วค่ะ ที่ตอนแรกจะว่าหน้าบ้านแบบเต็มตัวก็ยังไม่ใช่ แต่อยู่ไปอยู่มาด้วยมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งบ้าน ประกอบกับมีการก่อสร้างโน่นนี่นั่นตลอด สุดท้ายต้นขนุนกลายมาอยู่หน้าบ้าน เพราะไม่ได้ตัดทิ้งนะคะ ต้นขนุนหน้าบ้านที่เห็นในเนื้อหาของบทความนี้มีอายุนานมากแล้วค่ะ น่าจะเกือบ 20 ปีได้ ที่เป็นขนุนหนังที่มีขายต้นพันธุ์ตามร้านขายต้นไม้นะคะ การอยากจะมีต้นขนุนหน้าบ้านมีบางประเด็นต้องนำมาคิดค่ะ โดยเฉพาะตำแหน่งของการปลูกต้นไม้ชนิดนี้ เพราะด้วยความที่ต้นมีความสูงใหญ่ และมีกิ่งก้านสาขาแตกออกในวงกว้าง จึงต้องปลูกให้ห่างจากตัวบ้านพอสมควรค่ะ และถ้าเจอว่ามีกิ่งก้านใกล้แนวเขตบ้าน มีความจำเป็นต้องตัดแต่งกิ่งเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งที่นี่ก็ทำเหมือนกัน โดยทำการตัดแต่งกิ่งนี้จะทำปีละครั้งได้ เสร็จแล้วต้นขนุนมีใบค่อนข้างมาก ทำให้ในพื้นที่ใต้ต้นและบริเวณใกล้เคียงจะมีในส่วนของใบที่ร่วงหล่นจำนวนมาก ที่ในช่วงหน้าฝนก็จะเกบกวาดยากหน่อย และใบขนุนนี้ก็จะเกิดการทับทมและเน่าเปื่อย ถ้าจุดนั้นเป็นสนามหญ้าสวยงาม อาจทำให้หญ้าส่วนหนึ่งตายไปค่ะ แต่ในช่วงหน้าแล้ง ใบขนุนจะกลายเป็นขยะที่สามารถย่อยสลายได้จากบ้านของเรา ที่ต้องเก็บกวาด โดยที่นี่การทิ้งขยะที่เป็นใบไม้จำนวนมาก มักเป็นจุดที่ต้องหันมารณรงค์ค่ะ เพราะการทิ้งเศษกิ่งไม้ไม้ใบจากสวนของเรา ไปทำให้ปริมาณของขยะที่ต้องทิ้งในแต่ละวันเกินกว่าที่ทางเทศบาลกำหนด และถ้าต้นขนุนอยู่ใกล้รางน้ำฝน ปัญหาที่ตามมาก็คือใบขนุนจะไปอุดต้นรางน้ำฝนค่ะ จากที่ใบขนุนได้ปลิวไปสะสมบนหลังคา ดังนั้นหากยังต้องการปลูกต้นขนุน การจัดการใบขนุนต้องนำมาคิดค่ะ ซึ่งที่นี่ดีหน่อยตรงที่ว่า ด้านหลังสุดของพื้นที่บ้านเป็นพื้นที่ทำสวนปลูกผัก จึงสามารถนำใบขนุนที่กวาดสะสมได้มาทิ้งกองหมักเป็นปุ๋ยได้ค่ะ การมีต้นขนุนสามารถให้ร่มเงาแก่บ้านได้นะคะ ยิ่งถ้าต้นขนุนอยู่ด้านทิศตะวันตก ทำให้บ้านมีพื้นที่สีเขียว ยิ่งมีส่วนช่วยลดความร้อนของตัวบ้านค่ะ และข้อดีอย่างอื่นที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ การมีร่มเงาให้กับบ้าน ไม่ว่าต้นขนุนจะอยู่ในทิศไหนก็ตาม โดยเราสามารถปูเสื่อนั่งเล่นได้บางช่วง และมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมนอกบ้านได้แบบไม่ร้อนค่ะ แต่ต้องระวังเรื่องลูกขนุนหล่นลงมาแบบไม่คาดคิดด้วยนะคะ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้โดยเฉพาะในช่วงที่ลูกขนุนมีลูกขนาดใหญ่และใกล้จะสุก มีต้นขนุนหนังหน้าบ้านสามารถลดการซื้อผลไม้ค่ะ อีกทั้งการมีขนุนที่สุกพอดีจำนวนมาก ทำให้เรามีผลไม้ไปแจกให้กับเพื่อนบ้านหรือญาติ ที่ถ้าเราต้องการขายขนุนเป็นลูกให้กับคนที่เขาแกะขนุนขาย แบบนี้ก็ทำได้ด้วยเหมือกนกันค่ะ ที่ในบางช่วงขนุนอ่อนก็ยังสามารถขายให้กับแม่ค้าที่ทำอาหารขายได้ด้วยค่ะ ต้นขนุนหนังให้ลูกดกค่ะ ที่มีโรคพืชบ้างแต่ยังไม่ถึงขนาดว่าเป็นปัญหาต้องตัดต้นขนุนทิ้งค่ะ จากที่ผ่านมาลูกขนุนที่สมบูรณ์มีมากกว่าลูกที่เน่าเสียมากจนเป็นที่น่าพอใจ และเมื่อมองย้อนกลับไปจากที่ ปุ๋ยก็ไม่ได้ใส่ ยาฆ่าแมลงก็ไม่ได้ใช้ จะว่าการดูแลไม่ยุงยากก็ได้ค่ะ ที่สามารถมีผลไม้และประโยชน์ดีๆ อีกหลายข้อ ที่โดยทั่วไปแล้วขนุนหนังจะเริ่มให้ผลผลิตได้เมื่ออายุประมาณ 3-4 ปี หลังจากปลูก แต่ระยะเวลาที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพดินฟ้าอากาศ: ดินที่อุดมสมบูรณ์ และสภาพอากาศที่เหมาะสมจะส่งผลให้ต้นขนุนเจริญเติบโตเร็วขึ้น การดูแลรักษา: การให้น้ำ ปุ๋ย การตัดแต่งกิ่ง และการป้องกันโรคแมลง จะมีผลต่อการให้ผลผลิตของต้นขนุน ที่โดยสรุปแล้วผู้เขียนมองว่าการปลูกขนุนหน้าบ้านดี ถ้าตำแหน่งของต้นขนุนเหมาะสม ที่ต้องมีการตัดแต่งกิ่งและเก็บกวาดใบของขนุนอยู่บ้าง หากมองว่าเป็นการทำสวนหรืองานอดิเรก การปลูกขนุนหน้าบ้านก็จะไม่ใช่ปัญหาค่ะ แต่ถ้าการปลูกขนุนต้นนั้นไปอยู่พื้นที่ที่จำกัด แล้วต้นขนุนและใบขนุนกินพื้นที่ของบ้านข้างเคียง แบบนี้จะเป็นประเด็นทำให้ถกเถียงกันได้ จากที่ใบขนุนทำให้เกิดความสกปรก จนต้องเป็นภาระในการเก็บทำความสะอาด และถ้ากิ่งก้านของต้นขนุนหักและทำให้เกิดความเสียหาย แบบนี้ก็ควรนำมาคิดต่อว่า การปลูกต้นขนุนหน้าบ้านอาจจะไม่เหมาะสมกับบ้านของเราค่ะ จากข้อมูลที่ผู้เขียนได้เล่ามานั้น จะเห็นได้ว่าการปลูกต้นหน้าบ้านมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จึงควรนำคิดต่อว่าสถานการณ์ของเราควรปลูกหรือไม่ค่ะ ที่คนที่รู้ดีที่สุดก็คือเจ้าของบ้านนะคะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://news.trueid.net/detail/oajwBkkj8qpQ https://food.trueid.net/detail/1anGOEepEYNv https://news.trueid.net/detail/MxYOayz0eKr3 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !