ทำไมในบ้านถึงมีหนู อะไรคือต้นเหตุ สัตว์พาหนะนำโรคชนิดนี้ มาดูกัน! | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ในด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมนั้น หากเราจะพูดถึงสัตว์ที่สามารถเป็นพาหนะนำโรคได้ ต้องบอกว่ามีหลายชนิดมากค่ะ ซึ่งหนูคือตัวอย่างหนึ่งที่สำคัญ เพราะมีหนูมารบกวน โดยเฉพาะถ้าเป็นในบ้าน เรื่องเล็กก็จะกลายเป็นเรื่องปวดหัวไปเลยค่ะ เพราะหนูจะหลบซ่อนตัวและขยายพันธุ์มีลูกมีหลานอีกจำนวนมาก หากเราเพิกเฉย! และไม่คิดจะทำอะไรเลย โดยตอนนี้หลายคนก็อาจจะสู้รบกับหนูอยู่ ด้วยการพยายามอย่างหนักและหาทางกำจัดหนู ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับการหาแนวทางมากำจัดหนูนั้น คือ การหาต้นเหตุที่แท้จริงที่ทำให้มีหนูเข้ามาในบ้านค่ะ หรือจะเรียกว่าเป็นการจัดการที่ต้นทางก็ได้ ก่อนที่เราจะไปเสียพลังงานทั้งหมดที่มีอยู่สู้กับหนูเพื่อจับหนูนะคะ เพราะถ้าคุณผู้อ่านได้อ่านให้จบแล้ว บางทีอาจจะแค่เส้นผมบังภูเขา ที่ทำไมหนูไม่หายไปจากบ้านสักที ก็เป็นได้ ซึ่งการรู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้มีหนูเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน ก็มีส่วนสำคัญในการควบคุมและกำจัดหนูในบ้านของเราค่ะ และถ้าอยากรู้แล้วว่า ทำไมในบ้านถึงมีหนู อะไรคือต้นเหตุของสัตว์พาหนะนำโรคชนิดนี้ งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ กับข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. แหล่งน้ำ คุณผู้อ่านเคยสังเกตไหมคะว่า บางทีในบ้านเราก็มีหนูโผล่มาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ สาเหตุหนึ่งที่สำคัญมากๆ เลยก็คือแหล่งน้ำค่ะ หนูก็เหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ทั่วไปที่ต้องการน้ำในการดำรงชีวิต ถ้าในบ้านเรามีน้ำรั่วซึมตามท่อ ตามก๊อก หรือมีน้ำขังอยู่ในกระถางต้นไม้ หรือแม้แต่ชามน้ำของสัตว์เลี้ยงที่วางทิ้งไว้ หนูจะรู้ทันทีเลยว่าตรงนี้มีเสบียง ยิ่งถ้ามีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆ กับแหล่งอาหารที่หนูหาเจอได้ง่ายๆ เช่น เศษอาหารที่ตกหล่น หรือถังขยะที่ปิดไม่มิดชิด ก็ยิ่งเป็นการเชื้อเชิญให้หนูเข้ามาปักหลักอยู่ในบ้านของเราเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นการดูแลไม่ให้มีน้ำขังหรือน้ำรั่วซึมในบ้าน จึงเป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยลดโอกาสการมาเยือนของเพื่อนที่ไม่ได้รับเชิญอย่างหนูได้นะคะ 2. ที่หลบภัยและทำรัง นอกจากเรื่องน้ำแล้ว อีกปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้หนูเข้ามาอาศัยอยู่กับเราก็คือ ที่หลบภัยและที่ทำรังค่ะ ลองนึกภาพตามนะคะ ถ้าในบ้านเรามีมุมที่รกๆ เช่น กองหนังสือเก่าๆ กล่องลังที่ไม่ได้ใช้ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่วางทิ้งไว้ หนูจะมองว่าตรงนั้นว่าคือคอนโดสุดหรู เพราะทั้งมิดชิดและปลอดภัยจากอันตราย แถมยังเป็นที่ที่หนูสามารถสร้างครอบครัว ขยายพันธุ์ได้อย่างสบายใจ ยิ่งถ้าที่หลบภัยเหล่านี้อยู่ใกล้กับแหล่งอาหาร ก็ยิ่งเข้าทางหนูเลยค่ะ ดังนั้นการจัดบ้านให้เป็นระเบียบ ลดมุมอับ หรือเคลียร์สิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไป ก็เหมือนเป็นการตัดโอกาสไม่ให้หนูมีบ้านอยู่ในบ้านเรานั่นเองนะคะ 3. แหล่งอาหาร เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอปัญหาหนูเข้าบ้านกันใช่ไหมคะ สาเหตุหลักๆ ที่เจ้าหนูเหล่านี้ชอบมาป้วนเปี้ยนถึงบ้านเราเลยก็คือแหล่งอาหารค่ะ ลองคิดดูง่ายๆ นะคะ ถ้าในบ้านเรามีเศษอาหารตกหล่นตามพื้น โต๊ะกินข้าว หรือในซอกหลืบต่างๆ อาหารที่เก็บไว้ไม่มิดชิด ขนมที่วางทิ้งไว้ หรือแม้แต่ถังขยะที่ไม่ได้ปิดฝาสนิท สิ่งเหล่านี้ก็เหมือนเป็นอาหารบุฟเฟต์ชั้นดีสำหรับหนูเลยค่ะ ยิ่งบ้านไหนมีอาหารทิ้งไว้เยอะแยะ หนูยิ่งชอบ เพราะไม่ต้องออกไปหาอาหารที่ไหนไกล แถมยังอิ่มท้องสบายๆ ในบ้านเราได้ง่ายๆ ดังนั้นการดูแลความสะอาด เก็บกวาดเศษอาหารให้ดี ปิดอาหารและถังขยะให้มิดชิด ก็เป็นวิธีสำคัญที่จะช่วยตัดวงจรอาหารของหนู และลดโอกาสที่หนูจะเข้ามาวุ่นวายในบ้านของเราได้มากเลยทีเดียวค่ะ 4. ช่องทางเข้า เคยสงสัยไหมคะว่า เจ้าหนูตัวเล็กๆ เข้ามาในบ้านเราได้ยังไง ทั้งๆ ที่เราก็ปิดประตูหน้าต่างหมดแล้ว สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งก็คือช่องทางเข้า ที่เราอาจมองข้ามไปนั่นเองค่ะ จากที่บ้านของเราอาจจะมีรอยแตก รูเล็กๆ ตามผนัง พื้น หรือหลังคา หรืออาจจะเป็นช่องว่างรอบๆ ท่อที่ลอดผ่านกำแพง หรือแม้แต่ใต้ประตูและหน้าต่างที่ปิดไม่สนิท โดยช่องทางเหล่านี้เปรียบเสมือนประตูลับ ที่เปิดต้อนรับให้หนูเข้ามาสำรวจและอาศัยอยู่ในบ้านของเราได้ ยิ่งถ้าช่องทางเหล่านี้เชื่อมต่อไปยังแหล่งอาหารหรือที่หลบภัยที่น่าสนใจสำหรับหนูแล้ว พวกหนูก็จะยิ่งไม่ลังเลที่จะเข้ามา ดังนั้นการสำรวจบ้านอย่างละเอียด อุดรอยรั่ว หรือปิดช่องโหว่ต่างๆ ให้มิดชิด ก็เป็นอีกวิธีสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้หนูเข้ามาสร้างความรำคาญในบ้านของเราได้ค่ะ 5. ความไม่สะอาด เพราะความสกปรกมักจะมาพร้อมกับแหล่งอาหารชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหารที่ตกหล่นตามพื้น ตามซอกมุมต่างๆ คราบสกปรกที่หมักหมม หรือแม้แต่ขยะที่ไม่ได้จัดการอย่างถูกสุขลักษณะ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารอันโอชะที่ดึงดูดหนูให้เข้ามาในบ้านของเราได้ง่ายๆ เลยค่ะ ยิ่งถ้าบ้านรก มีข้าวของวางเกะกะ ก็จะกลายเป็นที่หลบภัย ที่สมบูรณ์แบบให้หนูได้ซ่อนตัวและทำรังอีกด้วย ดังนั้นการรักษาความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เก็บกวาดเช็ดถูพื้น จัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบ ก็เป็นปราการด่านสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้หนูเข้ามาอาศัยในบ้านของเราได้ค่ะ 6. ต้นไม้และพุ่มไม้ใกล้บ้าน หลายคนอาจจะชอบปลูกต้นไม้รอบบ้านให้ร่มรื่นสวยงาม แต่รู้ไหมคะว่าบางทีต้นไม้หรือพุ่มไม้ที่อยู่ใกล้บ้านมากเกินไป ก็กลายเป็นเส้นทางพิเศษให้หนูเข้ามาในบ้านของเราได้ง่ายๆ ค่ะ กิ่งไม้ที่ยื่นเข้ามาใกล้หน้าต่างหรือหลังคา หรือพุ่มไม้ที่รกทึบจนติดกับตัวบ้าน เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมให้หนูปีนป่ายเข้ามาสำรวจภายในบ้านของเราได้อย่างสะดวกสบาย ยิ่งถ้าในบ้านเรามีแหล่งอาหารหรือที่หลบภัยที่น่าสนใจสำหรับพวกหนูอยู่แล้ว ต้นไม้เหล่านี้ก็ยิ่งเป็นตัวช่วยชั้นดีให้หนูเข้ามาตั้งรกรากได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการดูแลตัดแต่งกิ่งไม้ที่ยื่นเข้ามาใกล้บ้าน และจัดระเบียบพุ่มไม้ไม่ให้รกทึบจนเกินไป ก็เป็นอีกวิธีที่เราสามารถทำได้ง่ายๆ เพื่อลดโอกาสที่หนูจะใช้ธรรมชาติรอบบ้านเป็นทางเข้าสู่บ้านของเราค่ะ 7. เพื่อนบ้านที่มีปัญหาหนู เคยได้ยินไหมคะว่า "เพื่อนบ้านดีมีสุข" ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องคนเท่านั้นนะคะ แต่ยังรวมไปถึงเรื่องสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์อย่างหนูด้วยค่ะ เพราะว่าถ้าบ้านข้างๆ ของเรากำลังเผชิญกับปัญหาหนูระบาด โอกาสที่หนูเหล่านั้นจะย้ายถิ่นฐานมาเยี่ยมเยียนบ้านเราก็มีสูงมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะหนูไม่ได้มีพรมแดนกั้นเหมือนคน หนูสามารถวิ่งลอดรั้ว ปีนกำแพง หรือแม้แต่คลานตามท่อต่างๆ มายังบ้านของเราได้ง่ายๆ ยิ่งถ้าบ้านเรามีแหล่งอาหารหรือที่หลบภัยที่น่าสนใจกว่าบ้านเพื่อนบ้านที่กำลังกำจัดหนูอยู่แล้ว ก็ยิ่งเป็นการเชื้อเชิญให้หนูเข้ามาอาศัยอยู่กับเรา ดังนั้นการพูดคุยและร่วมมือกับเพื่อนบ้านในการจัดการปัญหาหนูจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามมาถึงบ้านของเราด้วยค่ะ 8. สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง หลายคนอาจจะสงสัยว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวอะไรกับการมีหนูในบ้าน? ลองคิดดูนะคะ เวลาที่ฝนตกหนักๆ น้ำท่วม หรืออากาศหนาวจัดๆ หนูที่อาศัยอยู่ตามท่อระบายน้ำหรือตามที่โล่งแจ้ง ก็จะเริ่มมองหาที่หลบภัยใหม่ ที่แห้งและอบอุ่นกว่าเดิม ซึ่งบ้านของเราก็กลายเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจทันที ยิ่งถ้าบ้านเรามีช่องโหว่เล็กๆ น้อยๆ หรือมีแหล่งอาหารที่หนูสามารถเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายภายนอกก็ยิ่งผลักดันให้หนู พยายามเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเรามากขึ้น เพื่อความอยู่รอดนั่นเองค่ะ ดังนั้นการดูแลบ้านให้มีสภาพดี ปิดช่องทางเข้าต่างๆ และจัดการเรื่องอาหารและน้ำให้ดี ก็เป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญ ที่อาจมาพร้อมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้ค่ะ 9. การสะสมของสิ่งที่ไม่จำเป็น ของที่ไม่จำเป็นที่เราเก็บสะสมไว้เยอะๆ ในบ้าน ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้หนูชอบมาเยี่ยมเยียนได้เหมือนกัน ลองจินตนาการดูนะคะ พวกกล่องกระดาษเก่าๆ หนังสือพิมพ์ที่กองทับถม เสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้ว หรือข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นที่หลบซ่อนและทำรังชั้นดีให้กับหนู เพราะทั้งมิดชิด ปลอดภัย แถมยังเงียบสงบ จึงเหมาะแก่การอยู่อาศัยและขยายพันธุ์ ยิ่งถ้าบริเวณที่เราเก็บของเหล่านี้ไม่ค่อยได้เข้าไปทำความสะอาด ก็จะยิ่งเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเศษสิ่งสกปรก ซึ่งอาจกลายเป็นอาหารเสริมเล็กๆ น้อยๆ ให้หนูได้อีกด้วย ดังนั้นการหมั่นสำรวจ จัดระเบียบ และกำจัดสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากบ้าน ก็เป็นการลดพื้นที่ปลอดภัยและตัดโอกาสที่หนู จะเข้ามาตั้งรกรากในบ้านของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยล่ะค่ะ 10. การก่อสร้างหรือต่อเติมบ้าน สำหรับบ้านไหนที่กำลังมีการก่อสร้างหรือต่อเติมอยู่ ต้องระวังเรื่องหนูให้ดีเลยนะคะ เพราะในช่วงนี้แหละค่ะ ที่บ้านของเราอาจจะกลายเป็นเหมือนโรงแรมสำหรับเจ้าหนูโดยไม่รู้ตัว ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า ในระหว่างการก่อสร้างมักจะมีเศษวัสดุก่อสร้างกองทิ้งไว้ หรือมีช่องโหว่ รู หรือรอยแตกเกิดขึ้นตามผนัง พื้นหรือหลังคา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็กลายเป็นที่หลบซ่อนและเส้นทางเข้าออกบ้านชั้นดีของหนูเลยค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นเศษอาหารหรือวัสดุเหลือใช้จากการก่อสร้างบางอย่าง ก็อาจเป็นแหล่งอาหารที่ดึงดูดพวกมันได้อีกด้วย ดังนั้นในช่วงที่มีการก่อสร้างหรือต่อเติมบ้าน ควรดูแลความสะอาดเป็นพิเศษ จัดเก็บวัสดุให้เป็นระเบียบ และหมั่นตรวจสอบรอยรั่วหรือช่องโหว่ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้หนูฉวยโอกาสเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเราถาวรค่ะ และทั้งหมดนั้นคือต้นเหตุที่ทำให้บ้านของเรามีหนูเข้ามาอาศัยอยู่ได้ค่ะ ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียนที่มีมานั้น เคยเจอทั้งที่นี่มีหนูและบ้านคนอื่นมีหนู ที่รู้เพราะเขามาเล่าให้ฟังค่ะ หนูมีแล้วต้องควบคุมและกำจัดนะคะ เพราะหนูสามารถเป็นพาหนะนำโรคต่างๆ ได้ โดยจากที่มีคนมาเล่าให้ฟังว่า บ้านเขามีหนูแถวๆ ข้างบ้าน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้นไม้และไม้ดอกไม้ประดับ ที่ใกล้กับบริเวณบ้านเกินไปค่ะ สำหรับที่นี่มีข้าวของบางส่วนที่จะไปขายทิ้งก็ไม่ได้ จะเอาย้ายไปที่อื่นก็ยังไม่มีที่ที่สะดวก สุดท้ายเลยกลายเป็นแหล่งที่ทำให้มีหนู ที่ในตอนหลังมาผู้เขียนเริ่มนำข้าวของที่สภาพไม่ดีมาขายเป็นขยะรีไซเคิล บางอย่างที่ใช้ได้ก็นำออกมาใช้ แจกจ่ายและบริจาคไปบางส่วนด้วย สถานการณ์ก็ดีขึ้นค่ะ แต่ยังไม่หยุดที่จะจับตามองหาหนูที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านค่ะ ขยะพยายามจัดการตลอด และอื่นๆ อีกตามที่จะเป็นไปได้ในตอนนั้น เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งที่ไปเอื้อให้หนูมาทำรังค่ะ ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่บ้านของคุณผู้อ่านเป็นยังไงบ้าง ยังไงลองอ่านทำความเข้าใจดี และนำไปสังเกตต้นเหตุของหนูกันค่ะ จากนั้นคุณผู้อ่านก็จะมองภาพออกมากขึ้นแล้วว่า ต้องทำอะไรต่อ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย freepik จาก FREEPIK ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1, 3 โดยผู้เขียน, ภาพที่ 2 โดย Wallace Chuck จาก Pexels และภาพที่ 4 โดย Denniz Futalan จาก Pexels ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่คล้ายกันโดยผู้เขียน สัตว์และแมลงพาหนะนำโรค ที่สามารถพบได้ ภายในบ้าน ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต่อสิ่งแวดล้อม 10 สาเหตุที่ทำให้มีแมลงวัน ในสิ่งแวดล้อม รอบบ้านของเรา เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !