เคยไหมคะ? ที่เรานั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ก้มหน้าทำงานไม่หยุด แล้วพอมองไปทางเพื่อนอีกคน… เห้ย! ทำไมเขายังมีเวลาชิลจิบกาแฟ ☕ ไปเที่ยว 🧳 ออกกำลังกาย 💪 หรือแม้กระทั่งเริ่มโปรเจกต์ใหม่ๆ ได้อีก ทั้งที่เราก็ทำงานหนักเหมือนกันนะ! บางทีเราอาจไม่ได้ “ขี้เกียจ” หรือ “บริหารเวลาแย่” เสมอไป แต่สิ่งที่ต่างกันจริงๆ อาจอยู่ที่ “วิธีจัดการเวลา” ของแต่ละคนค่ะ 🧩 วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมานั่งคุยกันแบบสบายๆ ว่า... ทำไมบางคนถึงดูมีเวลาเสมอ ทั้งที่ชีวิตก็ยุ่งพอๆ กับเรา ลองมาดูด้วยกันเลยค่ะ 😊 🧠 1. พวกเขา “เลือก” ก่อนจะ “ลงมือทำ” หลายคนที่ดูเหมือนจะมีเวลาเยอะ ไม่ใช่เพราะเขามี 48 ชั่วโมงในหนึ่งวันนะคะ แต่เขาแค่รู้จัก “เลือก” ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในช่วงเวลานั้น ⏳ บางคนใช้หลัก Eisenhower Matrix (การแบ่งงานเป็น 4 ประเภท: ด่วน-สำคัญ, ด่วน-ไม่สำคัญ, ไม่ด่วน-สำคัญ, ไม่ด่วน-ไม่สำคัญ) ซึ่งช่วยให้รู้ว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรปล่อยผ่านไปก่อน เพราะบางอย่างเราไม่จำเป็นต้องทำทันทีหรือทำเองทั้งหมดก็ได้ 😉 🧱 2. เขาจัดลำดับวันให้มี “โครงสร้าง” คนที่ดูมีเวลา มักจะไม่ปล่อยให้วันไหลไปตามใจ แต่ออกแบบมันขึ้นมา ✍️ เช่น ตื่นตอน 7 โมง เช็คอีเมล 30 นาที ทำงานลึก (deep work) 3 ชั่วโมง พักเที่ยง เขียนงานช่วงบ่าย ออกกำลังกายตอนเย็น ฯลฯ ไม่ใช่ต้องเคร่งทุกนาที แต่การมี routine ที่ชัดเจน ทำให้พลังงานไม่หมดไปกับการ “คิดว่าจะทำอะไรก่อนดี” 📦 3. พวกเขารู้จัก “บอกปัดอย่างสุภาพ” นี่คือสกิลที่สำคัญสุดๆ ค่ะ — การ “ไม่” บางอย่างเพื่อ “ใช่” กับสิ่งที่สำคัญกว่า 🙏 ไม่ใช่เพื่อนไม่สำคัญนะคะ แต่การที่เราไปร่วมทุกกิจกรรม หรือรับทุกคำขอโดยไม่กลั่นกรอง สุดท้ายเราก็จะไม่มีเวลาเหลือให้ตัวเองเลย 🥲 คำว่า “ขอโทษนะ วันนี้เราไม่สะดวกจริงๆ ไว้รอบหน้านะ” ก็สุภาพและรักษาความสัมพันธ์ได้ดีเช่นกันค่ะ ❤️ 📱 4. เขาจัดการกับ “เวลารั่ว” ได้ดี เวลารั่วคือเวลาที่ไหลออกไปแบบไม่รู้ตัว เช่น เล่นมือถือ 📱 เลื่อน TikTok แบบไม่มีจุดจบ ดูคลิป “อีกแป๊บเดียว” แต่กลายเป็นอีกชั่วโมง 😂 คนที่จัดการเวลาดี ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เล่นโทรศัพท์นะคะ แต่เขาอาจตั้งเวลาเล่น หรือแยกมือถือไว้ห่างจากตัวตอนโฟกัสงาน ลองใช้เทคนิค Pomodoro (ทำงาน 25 นาที พัก 5 นาที) หรือแอปช่วยจับเวลา ก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ⏲️ 🧠 5. เขาให้ความสำคัญกับ “พลังงาน” มากกว่า “เวลา” แค่มีเวลา 2 ชั่วโมงก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำงานได้ดีเสมอไป ถ้าตอนนั้นสมองเราหมดพลังแล้ว 🥱 คนที่บริหารเวลาดีจะรู้ว่าช่วงไหนของวันเป็นช่วงที่เขาทำงานได้ดีที่สุด แล้วเขาจะใช้เวลาช่วงนั้นให้คุ้ม อย่างบางคนเป็นสายเช้า บางคนเป็นสายกลางคืน ก็ต้องเลือกเวลาทำงานหลักให้เหมาะกับจังหวะพลังงานของตัวเอง 🔋 🎯 6. พวกเขารู้ว่า “ความว่าง” ก็สำคัญ ใช่ค่ะ... บางคนดูเหมือนว่าง ทั้งที่จริงๆ เขา “ตั้งใจว่าง” เพราะการว่างทำให้สมองได้พัก 🧘♀️ เหมือนการกดปุ่มรีเซ็ต จะได้มีพลังไปทำสิ่งต่อๆ ไปได้ดีขึ้น ไม่ใช่ทำไปหมดแรงไปเหมือนวิ่งมาราธอนไม่หยุดเลย ช่วงเวลานั่งเฉยๆ เดินเล่น หรือแม้แต่ดูซีรีส์ ก็อาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขากลับมาทำงานได้ดีขึ้นค่ะ 🍃 📊 7. เขาไม่พยายาม “ทำทุกอย่าง” ด้วยตัวเอง ใช่ค่ะ บางคนดูมีเวลามากขึ้นเพราะเขา “ใช้เวลาอย่างชาญฉลาด” เช่นจ้างคนช่วยทำงานบางอย่าง หรือใช้เครื่องมือจัดการแทน อย่างใช้ Google Calendar, Notion หรือแอปจัดการโปรเจกต์ต่างๆ ก็ช่วยให้ไม่ต้องจำเองทั้งหมด หรือถ้ามีทีม เขาก็ “ไว้วางใจให้คนอื่นช่วย” มากกว่าพยายามแบกไว้คนเดียว 🎈 8. เขารู้จักตัวเองและ “ยอมรับจังหวะชีวิตตัวเอง” สุดท้ายแล้ว... คนที่ดูเหมือนมีเวลามาก อาจเพราะเขา “ไม่ได้เปรียบเทียบตัวเองกับใคร” และพอใจในสิ่งที่ตัวเองเลือกทำค่ะ เขาอาจไม่ได้ไปทุกที่ ทำทุกอย่าง หรือเก่งในทุกเรื่อง แต่เขารู้ว่าเขาทำสิ่งที่สำคัญกับเขา นั่นแหละคือความสำเร็จที่แท้จริง 💕 🧩 สรุป: เวลาเท่ากัน อยู่ที่วิธีใช้ ไม่มีใครได้เวลาเพิ่มมาเป็นพิเศษ ทุกคนมี 24 ชั่วโมงเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างคือ… การวางแผนที่ดี 📝 การรู้จักตัวเอง 🎈 การบอกปัดอย่างสุภาพ 🙏 การพักอย่างตั้งใจ 🧘 และการไม่พยายามแบกทุกอย่างไว้คนเดียวค่ะ 🧡 อย่าเพิ่งรู้สึกแย่ถ้าวันนี้ยังรู้สึก “ไม่ทันเวลา” หรือ “จัดการไม่ดี” นะคะ เพราะทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์เหมือนกัน ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ ฝึกไป วันหนึ่งเราก็จะกลายเป็นคนที่คนอื่นมองว่า “ทำไมเขาถึงดูมีเวลาเสมอเลยนะ?” เหมือนกัน 😄 #จัดการเวลา #TimeManagement #ชีวิตดีเพราะวางแผน #วางแผนชีวิต #สร้างวินัยให้ตัวเอง #ProductivityTips #บริหารเวลาอย่างชาญฉลาด #ชีวิตสมดุล ถ้าชอบบทความนี้ ฝากแชร์ต่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ 💬💕 ภาพปก โดย Nataly K / Unsplash ภาพที่ 1 โดย Rey Joson / Unsplash ภาพที่ 2 โดย Daniel Herron / Unsplash ภาพที่ 3 โดย Toa Heftiba / Unsplash ภาพที่ 4 โดย Brett Jordan / Unsplash เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !