รีเซต

สรุปปฏิบัติการอเมริกา สังหารผู้นำกลุ่มไอเอสสำเร็จ กับอนาคตของกลุ่มต่อจากนี้

สรุปปฏิบัติการอเมริกา สังหารผู้นำกลุ่มไอเอสสำเร็จ กับอนาคตของกลุ่มต่อจากนี้
TNN ช่อง16
4 กุมภาพันธ์ 2565 ( 11:36 )
109
สรุปปฏิบัติการอเมริกา สังหารผู้นำกลุ่มไอเอสสำเร็จ กับอนาคตของกลุ่มต่อจากนี้

หน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีแหล่งกบดานของผู้นำรัฐอิสลามหรือ ไอเอส ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ทำให้ผู้นำไอเอสจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายไปพร้อมกับสมาชิกครอบครัว มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน


กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย มีขึ้นช่วงกลางดึกที่เมืองอัตเมห์ จังหวัดอิดลิบ ที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลควบคุมอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย


ปฏิบัติการประสบความสำเร็จด้วยดี โดยเฮลิคอปเตอร์ของกองกำลังสหรัฐฯ บินเหนืออาคารหลังหนึ่งซึ่งเชื่อว่าเป็นเป้าหมายที่มีหัวโจกกลุ่มก่อการร้ายที่มีสายสัมพันธ์กับเครือข่ายอัลกออิดะห์ซ่อนตัวอยู่ จากนั้นมีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่องนานประมาณ 2 ชั่วโมง


มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน รวมถึงเด็ก 6 คนและผู้หญิง 4 คน ในจำนวนนี้ คือ “อาบู อิบราฮิม อัล-ฮาชิมิ อัล-คูเรย์ชี” หัวหน้ากลุ่มรัฐอิสลาม ที่ตัดสินใจระเบิดตัวเองฆ่าตัวตาย พร้อมสมาชิกในครอบครัว


ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยอีกว่า ไม่มีทหารสหรัฐฯ เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บแม้แต่นายเดียวจากปฏิบัติการครั้งนี้


---ทหารอเมริกันปลอดภัย แต่ ฮ. ตก---


มีรายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งของกองกำลังสหรัฐฯ ประสบเหตุขัดข้องทางเทคนิคระหว่างการโจมตี ทำให้นักบินต้องร่อนลงจอด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตัดสินใจระเบิดเพื่อทำลายเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ในบริเวณไม่ไกลจากจุดโจมตี


สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ประชาชนที่อยู่ในเมืองอัตเมห์ ใกล้ชายแดนตุรกี เล่าว่ามีเฮลิคอปเตอร์ลงจอดและได้ยินเสียงปืนและระเบิดอย่างหนัก ในระหว่างการจู่โจมซึ่งเริ่มประมาณเที่ยงคืน และกองกำลังสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่านลำโพงเสียงดังเตือนผู้หญิงและเด็กให้ออกจากพื้นที่


จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า มีข้อบ่งชี้ที่หนักแน่นและชัดเจน ว่าการเสียชีวิตของพลเรือนในปฏิบัติการสังหารผู้นำรัฐอิสลาม เกิดจากการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายเอง ไม่ใช่ทหารอเมริกัน


---แถลงการณ์ของประธานาธิบดีไบเดน---


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันการเสียชีวิตของผู้นำไอเอส พร้อมกล่าวยกย่องหน่วยข่าวกรองและกองกำลังเพื่อประชาธิปไตยของซีเรีย พร้อมทั้งขอบคุณความกล้าหาญของกองกำลังสหรัฐฯ ที่ทำให้ปฏิบัติการครั้งซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปกป้องชาวอเมริกันและพันธมิตร และทำให้โลกมีสันติสุขยิ่งขึ้นประสบความสำเร็จ


ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ได้เน้นย้ำระมัดระวังทุกวิถีทางเพื่อลดการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน โดยในภารกิจดังกล่าวเจ้าหน้าที่พยายามจับตัวผู้ก่อการร้ายเพื่อนำมาดำเนินคดี แต่ผู้นำกลุ่มไอเอส กลับเลือกจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย ไปทั่วชั้น 3 ของอาคารหลังนั้น แทนที่จะเลือกเข้าต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม


รายงานระบุว่า สหรัฐฯ วางแผนบุกจู่โจมอาคารที่พักของผู้นำไอเอส มาหลายเดือนแล้ว ประธานาธิบดีไบเดนได้รับรายงานสรุปขั้นสุดท้ายเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก่อนปฏิบัติการจะเริ่มขึ้น


ภารกิจครั้งนี้ น่าจะเป็นปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดินครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพสหรัฐในซีเรีย นับตั้งแต่การส่งหน่วยเดลตาฟอร์ซ ลงพื้นที่จังหวัดอิดลิบ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อเดือนตุลาคม 2016 เพื่อสังหาร “อาบู บาการ์ อัล-บักห์ดาดี” ผู้นำสูงสุดของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS อย่างไรก็ตาม บักห์ดาดีระเบิดฆ่าตัวตายเอง หลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันจนเข้าไปจนมุมภายในอุโมงค์ที่ขุดไว้ภายในบ้านพัก


---อนาคตกลุ่มไอเอส หลังสิ้นผู้นำ---


นายอาเมียร์ มูฮัมหมัด ซาอีด อับเดล-ราห์มาน อัล-มาวลา หรือที่รู้จักกันในชื่อ อาบู อิบราฮิม อัล-ฮาชิมิ อัล-คูเรย์ชี วัย 45 ปี ชาวอิรัก ขึ้นเป็นหัวหน้าใหญ่คนที่ 2 ของกลุ่มไอเอส หลังการเสียชีวิตของ บักห์ดาดี ชาวอิรักวัย 48 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่คนแรก และผู้ก่อตั้งกลุ่ม


ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การเสียชีวิตของอัล-คูเรย์ชี อาจสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับกลุ่มไอเอส ที่กำลังฟื้นตัวกลับมาอย่างช้า ๆ หลังจากสูญเสียกำลังพลและดินแดนไปจำนวนมาก หลังการเสียชีวิตของผู้นำคนก่อน


ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว มีรายงานว่าทหารอิรักได้จับกุมนายซามี จาซิม มูฮัมหมัด อัล-จาบูรี ซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่าเป็นหนึ่งในผู้นำระดับสูงสุดของกลุ่มไอเอสเช่นกัน


---ไอเอสสูญสิ้นอำนาจ---


กอร์ดอน คอร์เรรา ผู้สื่อข่าวด้านความมั่นคงของสำนักข่าว BBC ระบุว่า ขณะนี้ไอเอสไม่ได้ควบคุมพื้นที่กว้างใหญ่ของอิรักและซีเรียเหมือนเมื่อตอนที่มีอำนาจสูงสุดอีกต่อไป และไม่ได้ดึงดูดให้กลุ่มนักรบญิฮาดเข้าร่วมอย่างที่เคยเป็นมา อีกทั้งการยุยงผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ให้ผู้อื่นโจมตีในประเทศที่ตนอยู่ก็ยังทำไม่ได้เช่นกัน


เมื่อปีที่แล้ว IS-K ซึ่งเป็นสาขาของกลุ่มไอเอส ในอัฟกานิสถานได้รับความสนใจมากขึ้น หลังก่อเหตุโจมตีในกรุงคาบูล ขณะสหรัฐฯ และพันธมิตรกำลังกองกำลังออกไป


อย่างไรก็ตาม ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้ายว่า มีความพยายามสร้างกลุ่มไอเอสขึ้นใหม่ในอิรักและซีเรีย และสร้างขีดความสามารถที่มากขึ้น ทั้งจากการซุ่มโจมตีและโจมตี ทางตะวันออกของซีเรียเมื่อเดือนที่แล้ว รวมถึงกับการโฆษณาชวนเชื่อใหม่ ๆ สหรัฐฯ จึงหวังว่าการสังหารผู้นำไอเอสครั้งนี้จะหยุดการฟื้นคืนชีพของไอเอสขึ้นมาได้


โจน อัลเทอร์แมน ศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ มองว่า การสูญเสียผู้นำทำให้สมาชิกกลุ่มไอเอส หวาดระแวงมากขึ้น และจะค้นหาผู้ทรยศในหมู่ของตน ซึ่งจะเป็นการทำลายล้งกลุ่มของพวกเขาเอง


ขณะที่โจมานา คัดดอร์ จากสภาแอตแลนติกระบุว่า เป็นเรื่องดีเสมอกำจัดหัวหน้ากลุ่มไอเอสได้ แต่นี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นไอเอส

—————

แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง และ ทศพล ชัยสัมฤทธิ์ผล

ภาพ: Handout / US DEPARTMENT OF STATE / AFP



ข่าวที่เกี่ยวข้อง