ถ้าใครที่ได้เริ่มต้นปลูกฝังให้ลูกอ่านนิทานภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก จะรู้ว่านิทานภาษาอังกฤษมีหลากหลายประเภท ซึ่งถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อพัฒนาการของเด็กตามช่วงวัย เริ่มตั้งแต่นิทานบอร์ดบุ๊ก นิทานกดมีเสียงเพลง นิทานสามมิติ นิทานภาพ นิทานกิจกรรม นิทานหัดอ่าน และหนังสือประเภทสุดท้าย ที่จะส่งเสริมให้เด็กเข้าสู่โลกแห่งการอ่านอย่างแท้จริงก็คือ หนังสือวรรณกรรมเยาวชนภาษาอังกฤษ รอยต่อเข้าสู่โลกแห่งการอ่านแบบผู้ใหญ่หลังจากที่พวกเราเฝ้าอ่านนิทานภาพภาษาอังกฤษให้ลูกฟังทุกคืน และปูพื้นฐานการอ่านให้เค้ามานานพอสมควร เราอาจจะเห็นพัฒนาการของเด็กที่มากขึ้นจากการเริ่มอ่านหนังสือประเภทฝึกหัดอ่านด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นตัวพาเค้าก้าวเข้าสู่การอ่านวรรณกรรมเยาวชนอย่างแท้จริงวรรณกรรมเยาวชนภาษาอังกฤษ หรือที่เรียกว่าว่า Chapter Book มีบทบาทอย่างมาก ที่จะทำให้เด็กได้ฝึกฝนการอ่านภาษาอังกฤษที่มีความซับซ้อนขึ้น โดยมีลักษณะการเนื้อหาออกเป็นบท ประมาณ 8-10 บท เพื่อคั่นเนื้อเรื่องเป็นช่วง ๆ ให้เด็กได้อ่านไปพักไป มีรูปประกอบขาว-ดำ เพียงบางหน้า แบ่งระดับความยากง่ายที่สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากขนาดตัวหนังสือ ถ้าขนาดตัวอักษรใหญ่ฟอนท์ประมาณ 16-18 ก็ถือว่าอ่านง่าย เหมาะกับการเริ่มต้นในวรรณกรรมเยาวชนภาษาอังกฤษ ส่วนมากมักจะให้ตัวดำเนินเรื่องเป็นเด็ก และมีเนื้อหาเกี่ยวกับ เด็กในวัยเรียน, สัตว์, ชีวิตในชนบท, เรื่องในป่า , เวทมนตร์, นางฟ้า ซึ่งผู้แต่งมักจะไม่ผูกเนื้อเรื่องซับซ้อน แต่สร้างให้เข้าใจง่าย และจบลงแบบชัดเจนไม่คลุมเครือการอ่านวรรณกรรมเยาวชน มีประโยชน์อย่างไร1. ช่วยพัฒนาทักษะการอ่านได้มากขึ้น ขณะอ่านเด็กจะได้พบคำศัพท์ที่ยากขึ้นตามลำดับเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้สะสมคลังคำศัพท์ที่มากขึ้น2. ช่วยพัฒนาทักษะการเดาคำศัพท์ แน่นอนว่าเด็กอาจจะไม่ได้เปิดพจนานุกรมแปลทีละคำ แต่สามารถเข้าใจได้จากบริบทข้างเคียง เป็นการเดาคำศัพท์ได้อย่างชาญฉลาด3. ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ ทำให้เด็กได้โลดแล่นอยู่ในเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น4. เนื้อเรื่องน่าสนใจเหมาะสมกับแต่ละวัย5. ผู้ใหญ่ก็สามารถใช้หนังสือประเภทนี้ ในการฟื้นฟูทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ได้เช่นกันตัวอย่างของวรรณกรรมภาษาอังกฤษซีรีส์แบบเริ่มต้นที่น่าสนใจ1. The Worst Witch2. Junie B. Jone3. The Magic Tree House4. Flat Stanley5. Judy Moody6. Geronimo Stilton ช่วงแรกที่เริ่มต้นอ่านหนังสือประเภทวรรณกรรม อย่าบังคับให้เด็กอ่านจนจบ ค่อย ๆ เริ่มทีละน้อย อาจจะอ่านวันละบท แล้วค่อยมาอ่านต่อ หรือตามแต่ที่เด็กต้องการ เพื่อฝึกความคุ้นเคยในการอ่านแบบยาว ๆ ที่ไม่มีรูปภาพสีสันประกอบ เมื่อเด็กคุ้นเคยดีแล้วค่อย ๆ ปรับหาวรรณกรรมที่มีเนื้อหาซับซ้อนมากขึ้น ยาวขึ้น ก็จะทำให้เด็กพัฒนาการอ่านไปได้มากค่ะภาพทั้งหมดโดย Lek-Farmfunbookหนังสือวรรณกรรมภาษาอังกฤษ หาซื้อได้ที่ Asia Book / Kinokuniya