จีนแล้งหนัก แม่น้ำแยงซีแห้งขอด เกิดวิกฤตพลังงานในหลายมณฑล

จีนกำลังเผชิญภัยแล้งครั้งใหญ่ ในหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งทำให้แม่น้ำหลายสายแห้งขอด ขณะที่ตึกระฟ้าของนครเซี่ยงไฮ้ ต้องปิดไฟในยามค่ำคืน 

---ภัยแล้งจีนหนักหน่วง---

วิกฤตภัยแล้งของจีนกำลังทำให้แม่น้ำหลายสายแห้งขอด โดยเฉพาะบางส่วนของแม่น้ำแยงซี จนส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เส้นทางการขนส่งทางเรือ และทำให้บริษัทชั้นนำต้องระงับการผลิต

คลื่นความร้อนที่รุนแรงและยืดเยื้อยาวนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีประชากรหนาแน่นของจีน ทำให้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางการจีนออกประกาศเตือนภัยแล้งทั่วประเทศ และคาดการณ์ว่า สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงเดือนกันยายน

ทั้งนี้ การที่แม่น้ำแห้งขอด ทำให้ระบบไฟฟ้าพลังงานของจีนได้รับผลกระทบร้ายแรง โดยเฉพาะที่มณฑลเสฉวน ซึ่งใช้พลังงานน้ำมากกว่า 80%

---‘เสฉวน’ ได้รับผลกระทบหนัก---

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางการเสฉวนได้ประกาศเตือนระดับสูงสุดของสถานการณ์รุนแรง เพราะน้ำในอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ลดลดไปแล้วกว่าครึ่ง ขณะที่ความต้องการในการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 25% ในช่วงฤดูร้อนนี้ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำที่ลดลง ทำให้ส่งผลกระทบต่อเมืองที่อยู่ปลายน้ำด้วยเช่น นครฉงชิ่ง และมณฑลหูเป่ย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการเสฉวน จึงได้ระงับ หรือไม่ก็จำกัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าแก่โรงงานหลายพันแห่ง และให้ปันส่วนการใช้ไฟตามครัวเรือน โดยหนึ่งในบริษัทที่ต้องระงับการผลิตชั่วคราวในช่วงครึ่งเดือนหลังนี้ คือ Toyota, Foxconn และ Tesla

ขณะที่แม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก หล่อเลี้ยงประชากรจีนมากกว่า 400 ล้านคน และเป็นเส้นหน้าทางหลักสำหรับเศรษฐกิจจีนและระบบห่วงโซ่อุปทานของโลก มีระดับน้ำลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดย  South China Morning Post ยังรายงานด้วยว่า เส้นทางเดินเรือในตอนกลางและล่างของแม่น้ำต้องปิดการสัญจรด้วย

ภัยแล้งครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างน้อย 2.46 ล้านคน และพื้นที่การเกษตรราว 2.2 ล้านเฮกเตอร์ ในมณฑลเสฉวน เหอเป่ย หูหนาน เจียงซี อันฮุย และฉงชิ่ง นอกจากนี้ ยังมีประชากร 780,000 คน ที่ต้องรับความช่วยเหลือโดยตรงจากรัฐบาลจากปัญหาภัยแล้ง ขณะเดียวกัน ทางการต้องจัดรถให้บริการน้ำสำหรับบริโภคไปประจำตามพื้นที่อาศัยที่แห้งแล้งมาก

ขณะที่ ตึกระฟ้ายามค่ำคืนของนครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจีน ต้องปิดไฟด้วยเมื่อคืนวันที่ 22 สิงหาคม เพื่อช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยพื้นที่ The Bund และย่านลู่เจียจุ่ย ซึ่งเป็นย่านธุรกิจหรูของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องตึกระฟ้าที่ล้ำสมัยอย่างเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ และหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ Oriental Pearl TV Tower แทบมืดสนิทเช่นกัน เพราะมาตรการลดการใช้ไฟเป็นเวลาสองวัน

---หลายประเทศเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งน้อยเกินไป---

เบอร์นิซ ลี ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาของชาแธท เฮาส์ ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า หลายประเทศ รวมถึงจีน ไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือ หรือเตรียมการน้อยเกินไป สำหรับผลกระทบจากภัยแล้งและคลื่นความร้อนที่รุนแรง

ทั้งนี้ นอกจากแม่น้ำแยงซีจะแห้งขอดแล้ว แม่น้ำสายหลักในประเทศ เช่น แม่น้ำลัวร์ของฝรั่งเศส และแม่น้ำไรน์ในยุโรป ตลอดจนแม่น้ำโคโลราโดของสหรัฐฯ ยังแห้งขอดเช่นกันจากวิกฤตคลื่นความร้อนที่รุนแรงในช่วงนี้

ด้านเฉิน ลี่จวน หัวหน้าหน่วยพยากรณ์อากาศ ศูนย์สภาพอากาศแห่งชาติจีน ระบุว่า ทางการจีนเชื่อว่าภัยแล้งและคลื่นความร้อนนั้นเป็นผลมาจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และการเกิดคลื่นความร้อนไปพร้อม ๆ กับภัยแล้ง เปรียบเหมือน หม้อต้มอัดแรงดัน เราจะเผชิญคลื่นความร้อนเช่นนี้บ่อยขึ้นในอนาคต จนกลายเป็นนิว นอร์มอล

ทั้งนี้ วิกฤตขาดแคลนไฟฟ้าที่เกิดขึ้น ยังส่งผลกระทบต่อเป้าหมายที่ต้องการช่วยลดโลกร้อนของจีนด้วย เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หาน เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรีของจีน เผยว่า รัฐบาลจีนจะสนับสนุนให้มีการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า

————

แปล-เรียบเรียง: ธัญย์ชนก จงยศยิ่ง 

ภาพ: Reuters