คมนาคมเปิดผลงานพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี
วันนี้ (9 ต.ค.63) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการและการเสวนาสร้างการรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี และส่งเสริมพัฒนาความรู้ด้านการคมนาคมขนส่งและความปลอดภัย ประจำปี 2563 ภายใต้ชื่อ “MOT 2020 Move On Together คมนาคมเคียงข้างคนไทย ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฝ่าวิกฤติ COVID-19” ที่จังหวัดชลบุรี
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ตั้งแต่ที่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ยึดหลักบริหารงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการไว้มาโดยตลอด พร้อมกับการผสมผสานเพิ่มเติมนโยบายที่เน้นสนองตอบความต้องการของประชาชนภายใต้สถานการณ์สังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคตะวันออก เพื่อสนับสนุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยได้เร่งรัดพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งให้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางบก อาทิ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา - มาบตาพุด และช่วงมาบตาพุด – เชื่อมเข้าท่าอากาศยานอู่ตะเภา พัฒนาทางหลวงชนบทเลียบชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก Thailand Riviera ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต รวมถึงพัฒนาโครงข่าย ทางหลวงเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ขณะเดียวกันยังมุ่งพลิกโฉมการขนส่งระบบรางของไทย ผ่านโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการในปี 2570 การก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย และผลักดันการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงศรีราชา - ระยอง และช่วงมาบตาพุด - ระยอง - จันทบุรี - ตราด
ตลอดจนเร่งรัดพัฒนาโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าทางทะเล โครงการ Thailand Riviera เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวชายฝั่งภาคตะวันออก พัฒนาท่าเรือและเส้นทางเดินเรือท่องเที่ยว รวมไปถึงพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3 ของประเทศ และการพัฒนาศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศอู่ตะเภา เพื่อยกระดับฝีมือแรงงานในอุตสาหกรรมการบิน
นอกจากนี้ ยังคิดค้นกันชนยางพาราครอบแบริเออร์คอนกรีต (RFB) และเสาหลักนำทางจากยางพารา (RGP) ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้ทาง ตลอดจนยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรสวนยาง โดยรับซื้อน้ำยางพาราโดยตรงจากเกษตรกร ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
ทั้งนี้ เชื่อว่าการจัดนิทรรศการและการเสวนาสร้างการรับรู้ฯ ในครั้งนี้ เป็นการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE