ยังจำกันได้มั๊ยช่วงต้นปีที่ผ่านมา 1 มกราคม 2563 ได้มีการรณรงค์ให้ลดการใช้ถุงพลาสติก ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ที่ได้ออกมาตรการว่า การมาช้อป จับจ่ายซื้อสินค้า จะไม่มีถุงพลาสติกให้ แต่ถ้าจะใช้จะต้องจ่ายค่าถุงเพื่อใส่สิ่งของ หรือลูกค้าควรจะพกถุงผ้ามาเอง แต่พอเริ่มโรคระบาด และหลาย ๆ คนต้องใช้ชีวิตอยู่บ้าน Work from Home สิ่งหนึ่งที่ตามมาคือ ปัญาหาขยะพลาสติกล้นในช่วงกักตัว นั่นเอง สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกเพิ่มมากขึ้นในช่วงไวรัสระบาดคือ การที่วิถีชีวิตของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไป ออกไปทานอาหารตามร้านไม่ได้ เนื่องจากร้านค้าปิดตามพรก.ฉุกเฉิน เพื่อลดการแพร่ระบาด จึงทำให้หันไปสั่งอาหารเดลิเวอรี่ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งทุกร้านจะใส่อาหารในภาชนะพลาสติก กล่องโฟม กระดาษ และสุดท้ายทุกอย่างก็ต้องรวมมาในถุงพลาสติก ที่บ้านเรารณรงค์กันมาตั้งแต่ต้นปีให้ลดการใช้ถุง เรากำลังมองข้ามปัญหาขยะพลาสติกล้นซึ่งจะกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา ขยะที่เกิดจากการปนเปื้อนเชื้อโรค ปฎิเสธไม่ได้ว่าโรคระบาดทำให้เกิดขยะที่ปนเปื้อนเชื้อโรคมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย รวมไปถึงขยะที่เกิดจากทางการแพทย์ใช้งานที่ต้องใส่ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งล้วนแล้วแต่มีพลาสติกเป็นส่วนประกอบเกือบทั้งสิ้น สิ่งที่ตามมาถ้าจัดการแยกขยะไม่ดีพอ ก็จะส่งผลต่อภาวะแวดล้อมต่าง ๆ มากมาย การกักตุนอาหารก็เป็นบ่อเกิดของขยะเช่นกัน ตอนเริ่มโรคระบาดใหม่ ๆ ผู้คนแตกตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ รวมถึงเคอร์ฟิวตามมาตรการรัฐ ทำให้ออกมากักตุนซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากเกินความจำเป็นที่จะต้องใช้จริง ๆ เมื่อถึงเวลาที่ใช้กับใช้ไม่หมด เหลือทิ้งกลายเป็นขยะตามมา ยิ่งถ้าเป็นขยะสดจากอาหาร ควรแยกขยะใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้มิดชิดจะได้ไม่ส่งกลิ่น และเพื่อง่ายต่อการกำจัดขยะของเจ้าหน้าที่ต่อไป สิ่งที่ควรรวมมือกันแก้ปัญหาขยะล้นเมือง ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่เรารู้กันอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมือทำกันอย่างจริงจัง คือการแยกขยะให้ถูกประเภท เพื่อส่งต่อไปถึงโรงงานแยกขยะ จะได้ลดขั้นตอนและกำจัดขยะได้ง่ายขึ้น ขยะแยกประเภทแบ่งออกเป็น 5 อย่างตามนี้ค่ะ 1. ขยะสด ประเภทอาหาร ผัก ผลไม้ ของสดต่าง ๆ 2. ขยะบรรจุภัณฑ์ โฟม ถุงพลาสติก และขยะทั่วไป กระดาษชำระ 3. ขยะกระดาษ พวกกล่องกระดาษ แก้วกระดาษ 4. ขยะอันตรายทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย 5. ขยะอันตรายที่มีคม อย่าง จาน ชาม แตกเสียหาย และหลอดไฟเสีย ส่วนตัวจะลดภาระโลก โดยการนำขยะพวกขวดพลาสติก เศษกระดาษ กล่อง ขวดแก้ว ต่าง ๆ แยกเก็บไว้เพื่อนำไปขาย แม้มูลค่าจะไม่ได้มากมายแต่ก็ยังได้ช่วยโลกและมีค่าขนมตอบแทนกลับมา ส่วนพวกขยะสดอย่าง ผัก ผลไม้ เศษอาหาร จะนำไปใส่ถังหมักเพื่อทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ นำมารดบำรุงต้นไม้ ให้เจริญงอกงาม ออกดอกออกผล ส่วนถ้วยพลาสติกของโยเกิร์ตจะนำมาปลูกผัก โดยการแยกเพาะต้นอ่อนก่อน อย่างที่เห็นตามภาพ เป็นต้นถั่วฝักยาว และผักชี กำลังออกใบเล็ก ๆ ในยามวิกฤตทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะหันมาปลูกผัก ผลไม้ จะได้ไม่ต้องซื้อหาในยามฉุกเฉิน แต่สามารถเก็บผลนำมาใช้ตามริมรั้วได้เลย ตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง นำมาใช้ได้ผลจริง ๆ แล้วล่ะค่ะ ในเบื้องต้นถ้าเราร่วมมือกันปฎิบัติ การแยกขยะก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย ส่งผลให้การกำจัดขยะได้ถูกประเภท ลดขั้นตอนการทำงานของโรงงานแยกขยะ ช่วยให้สะดวกขึ้น สภาพแวดล้อมและมลพิษก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนทำได้เพื่อโลกกลับมาสวยและน่าอยู่กว่าเดิมค่ะ เครดิตภาพประกอบจากผู้เขียน มุ๊ยติ๋น